สิ่งพิมพ์ที่ชวนไหวอารมณ์ชาย ไล่ตั้งแต่คุณปู่จีบคุณย่า อาก๋งจีบอาม่า
คุณลุงเล่นหูเล่นตากับคุณป้า เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ที่หนุ่มสาวยุคดิจิทัล แค่คลิ๊กเพียงปลายนิ้ว
ส่งความหวิวผ่านแคมฟร็อก sms หรือดาวน์โหลดรูปส่งต่อๆกันไปทั่วโลกในเสี้ยวนาที
ใครจะไปนึกภาพออกว่าเมื่อสัก 50 ปีที่แล้ว หนุ่มสาวสมัยนั้น รู้จักเพศศึกษาได้อย่างไร ?
ในเมื่อโรงเรียนเขาไม่ได้สอนเรื่อง "บัดสีบัดเถลิง" อย่างนั้น
คำตอบก็คือ คนรุ่นปู่ย่า ยุค พ.ศ.2500 เรียนรู้เพศศึกษาเอาจาก "หนังสือโป๊" ที่มีหน้าตาเหล่านี้
หนังสือโป๊ รุ่นนั้น เทียบไปแล้ว คงเป็นเพียง หนังสือสุขศึกษา ของคนยุคดิจิทัลเท่านั้น
แต่ชื่อหนังสือ ก็ชวนกระสันต์ไม่เบา อาทิ โยนีนิเทศ / พระตำรับโยนี
หนังสือที่เห็นด้านบน ยังเป็นหนังสือที่วางขายบนแผง พอจะได้
แต่ยังมีหนังสืออีกประเภทหนึ่ง ที่วางขายบนแผงอย่างเปิดเผยไม่ได้
อาณาเขตของสิ่งพิมพ์พวกนี้ มักจะอยู่ "ใต้แผง" หรือ เป็นหนังสือใต้ดินเท่านั้น
เวลาจะซื้อจะขาย ก็ต้องคอยสะกิด หรือกระซิบกันเบาๆว่า "โป๊ไหมพี่?"
ถ้าไม่รับมุข..ทำหน้างงว่า "ไม่โป๊โว้ย...ใส่เสื้อผ้าอยู่ ไม่เห็นรึไง" ก็เห็นท่าจะไม่ได้ของดีไปดู
แต่ถ้ารับมุข...ท่านก็จะได้พบกับ หนังสือเล่มน้อยๆ ขนาดพกพา หลบซ่อนไปไหนต่อไหนอย่างเหมาะมือ
กระดาษภายในเป็นกระดาษชานอ้อย พิมพ์ด้วยเครื่องโรเนียว แถมปกสีขาวล้วนๆบ้าง หรือปกมีสีเดียวพิมพ์ออฟเซ็ตเชยๆ
หนังสือเหล่านี้ เป็นที่มาของชื่อ "หนังสือปกขาว"
เนื้อหาภายในเป็นนิยายอีโรติก ใช้ถ้อยคำดิบเถื่อน ตรงๆ ไทยๆ ไม่อ้อมค้อม
ลีลาการเล่าเรื่องชวนจินตนาการ ไปถึงไหนต่อไหน.... พล็อตเรื่องมักจะขึ้นต้นคล้ายๆกัน
นางเอกเป็นสาวผู้ดีมีชาติตระกูล ผิวผ่องเป็นยองใย แต่มักเสียท่าให้ภารโรง คนขับรถประจำตระกูล
หรือคนสวนในเรือนคนใช้ เป็นเช่นนี้อยู่ร่ำไป.....
เรื่องดังระดับยอดฮิต เบสต์เซลเลอร์ของยุคนั้น ได้แก่ สาวป่าซางเริงสวาท...และอาจจะเป็นเล่มนี้อีกเรื่องก็ได้
แต่หนังสือปกขาว ทำไมถึงได้หายาก? ไม่มีตกทอดมาถึงคนยุคดิจิทัลก็ไม่รู้เหมือนกัน
เคยได้ยินสูตร"ผีบอก" อยู่เหมือนกันว่า "หนังสือดี ห้ามให้ยืม...เพราะว่ามันจะไม่ได้คืน "
ดังนั้น หนังสือปกขาว คงจะถูกเปลี่ยนมือกันไปหลายเจ้าของ และ คงจะพลัดหลุดมือตกน้ำตกท่าไปบ้าง
ตัวอย่างหนังสือปกขาว
พอเรตติ้งเริ่มกระฉูด ก็เกิดพล๊อตเรื่องแปลกๆ นักเขียนใหม่ๆ
และเวลากระซิบถาม "โป๊ไหมพี่?" ก็คงจะมีคนรับมุขมากขึ้น
ดังนั้น จากหนังสือปกขาวบ้านๆ...
เริ่มเป็นงานพิมพ์ออฟเซ็ตสี่สีสวยสด แถมในเล่มก็ใช้กระดาษดีขึ้น
พอคนยุคนั้นเริ่มสนใจหนังสือโป๊กันมากขึ้น....
ตลาดก็แตกออกเป็นสองส่วน คือ ตลาดบน ที่มีกำลังซื้อสูง และ ตลาดล่าง ที่มีกำลังซื้อไม่มากนัก
ในตลาดบน ก็จะเน้นเป็นภาพศิลป์ และมีนักเขียนหน้าใหม่ๆแนวอีโรติกขึ้นมายกระดับวงการ
ถ้าอยู่ในช่วง พ.ศ.2508-2510 กว่าๆ ก็ต้องเป็นยุคของ เพลยบอย และช่างภาพชื่อ ประสิทธิ์ เกตุอธึก
แต่ทำไม เพลยบอย จึงเปลี่ยนเจ้าของบ่อยจัง?
เป็นสปอร์ตฉบับพิเศษ / รวมข่าวฉบับพิเศษ / ไฟท์ติ้ง ฉบับพิเศษ
ยุค 1960 ต่อยุค 1970...
ตลาดหนังสือโป๊โตเอามากๆที่เดียวเชียว
หากมองย้อนกลับไป ในยุคของ "หนังสือปกขาว"
ค่านิยมทางเพศของชายไทยในยุคนั้น ยังเป็นแบบชาวตะวันออก...นั่นคือ
เรื่องทางเพศ กับ การแสดงความรัก มักมาควบคู่กัน
ไม่ได้มองว่า เรื่องทางเพศ เป็นแค่ "อาหารจานด่วน" ที่หิวก็กิน อย่างค่านิยมของชาวตะวันตก
แต่ยุคนั้น ไม่มีการสอนเรื่องทางเพศ กันอย่างเปิดเผย อย่างสมัยนี้
หนังสือโป๊ จึงทำหน้าที่ เป็นพี่เลี้ยง ให้วัยรุ่นได้แอบถาม หรือ ได้ระบายความต้องการ
เหมือนอย่างการต้มน้ำจนเดือด ก็ต้องมีช่องทางให้ไอน้ำมันพุ่งออกมาตรงพวยกา เสียบ้าง กาจะได้ไม่ร้อนจนระเบิด
ฉันใดก็ฉันนั้นแล
สิบปี ยี่สิบ สามสิบปี หลังจากนั้น....
การสอนเพศศึกษาในโรงเรียน ก็ต้วมเตี้ยมเหมือนเต่า
แต่เพศศึกษาในสื่อต้องห้าม มันหวือหวา จำแลง แยกร่างออกมาสารพัด
จากการเรียนรู้กับหนังสือโป๊ ที่อยู่ในระดับแค่"สัปดน"
พอมีวิดีโอ วีซีดี แพร่หลาย...การเรียนรู้เรื่องเพศ ก็เข้าขั้น "วิปริต"
พอมีอินเตอร์เน็ต ก็ "จบกัน" เพราะ การเรียนรู้เรื่องเพศ ก็เตลิดเปิดเปิงไปถึงขั้น "วิปลาส" หรือ "วิกลจริต"อย่างอ่อนๆไปโน่นเลย
และกลับมาดูตัวเองในปัจจุบัน ค่านิยมทางเพศของวัยรุ่นไทย ก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบชาวตะวันตกอย่างกู่ไม่กลับ
ดังนั้น...การอ่านกระทู้นี้ต่อ จึงควรมีสติอย่างยิ่ง
ส่วนตัวนั้นไม่ทันหรอกไอ้ข้างบน พอได้ดูพวก นวลนาง ไทยเพล์บอย สวิงกิ้ง อ่านบทความเฮียกังฟู
หลังๆมามันจะมีพวกหนังสือรวมภาพโคตะระแพงเลย นามว่าเปิดบริสุทธฺ์ ซึ่งตอนนี้ก็มีให้โหลดกันให้ว่อนในเน็ต คนใจดีนำมาแสกน ให้ได้ศึกษากัน
สมัยนี้เด็กยุคใหม่คง ไม่ต้องดิ้นรน มากมาย ขอแค่มีเน็ต สมาทโฟน จะแฟ๊บๆ ไหนก็ว่ากันไป
สมัยก่อน รวมตังกันซื้อ หนังสือที มักจะไม่เหลือสภาพ และอาจมีคราบเหลือ เต็มหนังสือ
อย่างน้อย มันก็ทำให้ผมตั้งใจอ่านหนังสือ{โป๊} พวกเรื่องเหล่าชวนเสียว
สมัยก่อนเว็บพวกนี้เกิดใหม่ๆ จะมีพวก thaisexstory มีแต่เรื่องเล่าส่วนใหญ่จะแต่ง ภาพบ้าง พอให้ได้ดู
แต่ชอบแนวทางบ้าน ภาพเยอะ ต้องเว็บหลุดโลก
แพล่มมาพอสมควร พึงระลึกไว้ว่า สื่อพวกนี้ก็พัฒนาตามโลกเหมือนกัน ถึงจะไม่เปิดเผยตัวเองมากนัก