สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากที่เมื่อวานผมได้นำเสนอเรื่องเกล็ดเล็กน้อยในประวัติศาสตร์ตอนแรกไป
พบว่าผลตอบรับออกมาค่อนข้างดี วันนี้เลยพิมพ์ตอนที่ 2 มาให้ทุกท่านได้อ่านกันอีก
*ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผู้เป็นบิดาแห่งชาวเติร์กทั้งมวล
มุสตาฟา เคมาล ปาชา(นายพล) กาซี(ผู้พิชิต) อตาเติร์ก(บิดาแห่งชาวเติร์ก)คือชื่อพร้อมสมญาของเขา
เคมาลเป็นประธานาธิบดีคนแรกตุรกี ก่อนที่จะได้เป็นประธานาธิบดีนั้น
เคมาลเป็นนายพลให้กับจักรวรรดิออตโตมันในสงครามโลกครั้งที่ 1
เขามีส่วนสำคัญในการปกป้องจักรวรรดิจากการรุกรานของอังกฤษ
หลังจากจบสงครามโลก เคมาลเป็นแกนนำในการปฏิวัติและทำสงครามเพื่ออิสรภาพ
ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จ และก่อตั้งประเทศใหม่ขึ้นคือสาธารณรัฐตุรกี โดยได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนแรก
ด้วยความดีความชอบของเขา ทำให้ชาวเติร์กพร้อมใจกันให้สมญานามเขาว่า บิดาแห่งชาวเติร์ก....
ความพ่ายแพ้ของจอมราชันย์
ในโลกปัจจุบันนั้นความสามารถและสิทธิ ของผู้ชายและผู้หญิงนั้นเท่าเทียมกัน
ผู้หญิงเก่งทั่วโลกได้แสดงให้เห็นแล้วว่าผู้หญิงนั้นก็มีความสามารถไม่แพ้ผู้ชาย
แต่ในโลกยุคโบราณผู้หญิงเป็นเพียงผู้ตามได้เท่านั้น ซึ่งเป็นการยากมากที่จะแสดงความสามารถออกมาได้เต็มที่
แต่ก็ยังมีผู้หญิงบางคนที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในโลกยุคโบราณได้อย่างภาคภูมิ
และบางทีก็สามารถที่จะเอาชนะมหาบุรุษได้
เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับกษัตริย์ไซรัสมหาราช หนึ่งในกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
พระองค์ทำให้จักรวรรดิเปอร์เซียที่พระองค์ก่อตั้งขึ้นมา กลายเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น
และยังคงยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนานจนถึงยุคเรืองอำนาจของโรม พระองค์พิชิตดินแดนโดยไร้ผู้ต่อต้าน
ไซรัสไม่เพียงเป็นยอดแม่ทัพที่เก่งกาจที่สุด แต่ยังคงเป็นผู้ปกครองที่ชาญฉลาดที่สุด
แต่เมื่อคุณได้บรรลุถึงอำนาจที่ล้นฟ้า และเสพย์มันจนอิ่มแล้ว มันก็จะทำให้คุณเปลี่ยนไป
ไซรัสก็เช่นกัน เมื่อไร้ผู้ต่อต้าน ไซรัสก็เข้าใจว่าตัวเองเป็นบุตรหลานของเทพเจ้าที่ไม่มีสิ่งใดมาทำลายได้
แต่พระองค์คิดผิด เมื่อราชินีทอมีริส แห่งมาสซาเกเต ประกาศสงครามกับพระองค์
ไซรัสมหาราชเลี่ยงสงครามไม่ได้ พระองค์จึงต้องเข้าสู่สงครามอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้พระองค์ไม่ใช่ยอดแม่ทัพที่ไร้ผู้พิชิตเช่นดังกาลก่อน
พระองค์เป็นเพียงกษัตริย์ที่ยิ่งยโสและหลงตัวเอง ซึ่งนั่นมันทำให้สติปัญญาอันเฉียบแหลมของพระองค์ถูกบั่นทอนลงไป
ด้วยความยิ่งยโส และความประมาท ในที่สุดพระองค์ก็พ่ายแพ้ให้กับราชิรีทอมีริส และถูกสังหาร ภายหลังจากการครองอำนาจยาวนานถึง 30 ปี
เป็นเรื่องราวที่ไม่น่าเกิดขึ้นที่ว่าจอมกษัตริย์ที่ไร้ผู้ต่อต้าน กลับพ่ายแพ้ให้กับเงื้อมมือสตรี
แต่อันที่จริงที่พระองค์พ่ายแพ้ คือพระองค์ได้แพ้ให้กับตัวเอง
เรื่องราวของไซรัสเป็นข้อเตือนใจที่ดีถึงความยิ่งยโสของผู้ที่มีอำนาจ
หลังจากนั้น 200 ปี มีมหาบุรุษผู้หนึ่งเดินทางมาเยี่ยมหลุมฝังศพพระองค์
มหาบุรุษผู้นี้ได้เดินตามรอยเท้าพระองค์ไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ
แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดของพระองค์เลยสักนิดเดียว...
สาเหตุที่ทำให้ฮิตเลอร์กลายเป็นคนโหดร้าย
ทุกท่านคงรู้จักกันดีกับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ยอดผู้นำจอมเผด็จการแห่งนาซี
ผู้เป็นตัวการทำให้ผู้คนตายไปหลายล้านในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะชาวยิว
ฮิตเลอร์ถูกมองว่าเป็นผู้นำที่โหดร้าย และถูกผู้คนรุมประนามก่นด่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์
แต่อะไรล่ะคือสาเหตุที่ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่โหดร้ายเช่นนั้น
นักประวัติศาสตร์หลายคนก็ให้ความเห็นแตกต่างกันไป
บ้างก็ว่าเป็นเพราะชีวิตช่วงวัยรุ่นของฮิตเลอร์ที่ต้องเผชิญกับความกดขี่ทางสังคมจากชาวยิวทำให้เขารังเกียจยิวเข้ากระดูกดำ
แถมหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเยอรมัน ฮิตเลอร์ยังเข้าใจว่าเยอรมันแพ้สงครามเพราะยิวอีก
บ้างก็ว่าเป็นเพราะเขาเป็นชาตินิยมจนเกินไป จึงทำให้เขาคิดว่าพวกเขาคือเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุด และควรที่จะครองโลก
บ้างก็ว่าเป็นเพราะฮิตเลอร์ผิดหวังในความรัก จึงต้องหาทางระบายออกมา แต่ด้วยจิตใจที่ผิดปกติวิธีระบายจึงรุนแรงอย่างที่เห็น
บ้างก็ว่าเป็นเพราะวัยเด็กของฮิตเลอร์นั้นโดนพ่อตัวเองทารุณมาตลอด เขาจึงต้องการแสดงให้โลกรู้ว่าเขาหรือพ่อที่ยิ่งใหญ่กว่ากัน
แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือทุกอย่างมารวมกันนั่นแหละ ที่ทำให้ฮิตเลอร์กลายมาเป็นคนเช่นนี้...
ยอดแม่ทัพผู้ไร้พ่าย
ในประวัติศาสตร์นั้นมีสุดยอดแม่ทัพผู้ไร้พ่ายอยู่ไม่กี่คน
หนึ่งในนั้นก็คือนายพลอเล็กซานเดอร์ ซูโวรอฟ
นี่คือสุดยอดแม่ทัพที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของรัสเซีย(และของโลก)
ซูโวรอฟอยู่ภายในรัชสมัยการปกครองของแคทรินมหาราชินีผู้ยิ่งใหญ่แห่งรัสเซีย
ในวัยเด็กเขาศึกษาพิชัยสงครามของอดีตแม่ทัพชื่อก้องมากมาย
แต่ท้ายที่สุดเขารวบรวมมันเข้าด้วยกันและชนะศึกด้วยยุทธวิธีอันชาญฉลาดในแบบของเขาเองในสงครามใหญ่น้อยมากมาย
นอกจากนี้กองทัพรัสเซียที่ถูกฝึกโดยซูโวรอฟ ถูกยกย่องให้เป็นกองทัพบกที่ดีที่สุดในยุโรป ณ เวลานั้น
ด้วยความใกล้เคียงกันในด้านของเวลา
ชื่อของซูโวรอฟมักถูกนำไปเปรียบกับนโปเลียน โบนาปาร์ตจอมจักรพรรดิของฝรั่งเศษในด้านความสามารถของการนำทัพ
หลังจากที่ซูโวรอฟตายได้ไม่นาน นโปเลียนก็ขึ้นมาครองอำนาจสูงสุดในยุโรป
ไม่เช่นนั้นแล้วซูโวรอฟอาจจะได้พบกับคู่ต่อกรที่เหมาะสมกับเขาอย่างแท้จริงก็เป็นได้...
อังกฤษคือชนชาติที่เคยยิ่งใหญ่ที่สุด ?
อังกฤษในทุกวันนี้เรารู้จักกันดีในเรื่องของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
แต่ในครั้งอดีตนั้นจักรวรรดิอังกฤษเคยยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าจักรวรรดิไหนๆ ในโลกเสียอีก
ในยุคแห่งการล่าอาณานิคม อังกฤษคือผู้นำในการล่า ร่วมกับสเปน และโปรตุเกส
อังกฤษคือมหาอำนาจที่สามารถล่าดินแดนได้มากมายในยุคนั้น
และในช่วงที่รุ่งโรจน์ที่สุด จักรวรรดิอังกฤษคือจักรวรรดิที่ครองพื้นที่มากที่สุดของโลก
มากกว่าโรมัน จักรวรรดิรัสเซีย หรือมองโกลเสียอีก
แต่นั่นก็เป็นเพราะในยุคของโรมันและมองโกลเรืองอำนาจ ดินแดนที่เป็นที่รู้จักนั้นยังไม่มากเท่ายุคสมัยของจักรวรรดิอังกฤษนั่นเอง...
อดีตสอนให้เรารู้ถึงอนาคต
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ