เราหลอกว่าเขาเป็น "คนไทย"
สืบเนื่องจาก
http://www.soccersuck.com/boards/topic/919247
ในบันทึกข้อตกลงร่วม ก่อนเริ่มเปิดพูดคุยเจรจาเพื่อดับไฟใต้ระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับบีอาร์เอ็น นั้น ระบุไว้ชัดเจน โดยการเห็นพ้องต้องกันทั้งสองฝ่ายว่า จะไม่มีข้อเสนอใดๆ ที่เกินเลยไปกว่าที่รัฐธรรมนูญไทยกำหนดไว้
แปลว่า
ไม่มีเรื่องการแบ่งแยกดินแดนอย่างเด็ดขาด
ข้อเรียกร้องทั้งหลายจะจบลง โดยพื้นที่ทั้งหมดยังขึ้นต่อรัฐบาลไทย!
จะว่าไปแล้วนายฮัสซัน ตอยิบ ผู้ลงนาม คงรู้ดีอยู่แล้วว่า จะไม่มีการแบ่งแยกดินแดน ดี ไม่ดี ที่เขาต่อสู้ตลอดมา ไม่ได้มองเลยเถิดไปถึงขั้นแยกรัฐอิสระ เพราะเป็นเรื่องยากที่สุด ใครจะมา บริหารประเทศซึ่งมิได้มีทรัพยากรมูลค่ามหาศาลได้ ลึกๆ รู้กันดีว่า ที่สู้รบกันอยู่นี้ แค่ต้องการให้มีการปกครองท้องถิ่นพิเศษ
เป็นเขตปกครองที่ยอมรับในภาษา วัฒนธรรม ของคนส่วนใหญ่ในพื้นที่
แต่แน่นอนว่า หากไม่เข้าใจในประวัติศาสตร์ดั้งเดิมของ 3 จังหวัดใต้ และหากใช้ความคิดแบบชาตินิยมขวาจัด เข้ามามอง ย่อมไม่ยอมรับ
การริเริ่มของรัฐบาลนี้ ท้าทายกลุ่มแนวคิดชาตินิยมของสังคมไทยมาก เป็นเหตุให้จ้องจับผิดทุกเวลานาที แต่การเจรจาก็ยังต้องดำเนินไป เพราะไม่มีคำอธิบายอื่นที่มาหักล้างได้ ในเมื่อการพูดคุยได้ยุติสงครามมาแล้ว ทั่วโลก
โดยขณะนี้การพูดคุยมาถึงประเด็น ข้อเสนอ 5 ข้อ ของบีอาร์เอ็น (ข้อเสนอ 5 ข้อ
http://www.thairath.co.th/content/pol/341646)
โดยผู้รับผิดชอบหน่วยงานความมั่นคง ยังคิด ไม่ตก!?!
ยิ่งถ้าเป็นคนความคิดโบราณ รัฐไทยต้องเป็นใหญ่ ยิ่งไม่ยอมรับ
โดยเฉพาะข้อเสนอ
"รัฐบาลไทยต้องให้การรับรองสิทธิการเป็นเจ้าของ ของชาวมลายูปัตตานี"
ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ ย้อนไปสมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกฯเคยกล่าวเอาไว้แล้ว
โดยหลังเกิดเหตุคน 3 จังหวัดใต้นับแสนคน ชุมนุมประท้วงใหญ่ ในกรณีสังหารชาวบ้าน 6 ศพ ที่สะพานกอตอ จ.นราธิวาส
หลัง การประท้วงสงบลงไม่กี่วัน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์เดินทางลงไปมอบนโยบายให้กับข้าราชการระดับสูงเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2519 โดยชี้ปัญหาไฟใต้ว่า
"เพราะเราไปหลอกเขาว่าเป็นคนไทย ซึ่งที่จริงเขาเป็นคนมลายู
ปัญหาก็คือ การไปหลอกว่าเขาเป็นคนไทย
ดังนั้นอย่าไปบังคับให้เขาเป็นคนไทย ส่งเสริมให้เขาเป็นตัวของเขาเอง
รักษาเอกลักษณ์ของชนมลายูไว้"
คึกฤทธิ์พูดเอาไว้เมื่อ 37 ปีที่แล้ว กลายเป็นข้อความอมตะ
สี่สิบหกปี ได้ยินได้รู้เรื่องราวอะไรๆต่างๆ มากมาย แต่เรื่องนี้พึ่งได้ยินครั้งแรก
คงจะมีเหตุการณ์ในอดีตอีกมากมาย
ที่ไม่ถูกบันทึกและเผยแผ่ให้ประชาชนทั่วไปอย่างเราๆได้รับรู้
ที่มา DC2013