ROAD TO ANFIELD

ความฝันมักทำให้เรากระชุ่มกระชวย
หนึ่งชีวิตของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน บางคนมองในระดับรากหญ้า,บางคนแหงนมองบนฟ้า อีกหลายคนพยายามมองหาจุดหมายที่ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา

ปล่อยให้ความไกลเป็นเรื่องของระยะทาง เพราะถ้าคุณมัวแต่ส่ายหน้าไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้ทุกอย่างคงเป็นเพียงแค่ความฝัน

ลิเวอร์พูลอยู่ห่างไกลจากเมืองไทยราวหกพันไมล์ไม่ไกลเกินไปใช่ไหมครับ
เราแค่โชคร้ายที่ไม่ได้เกิดในพื้นที่ กระนั้นไม่ใช่ข้ออ้างให้นั่งกระดิกเท้าอยู่ข้างหลังจอโทรทัศน์ แล้วพร่ำบ่นว่าเมื่อไหร่ตัวเองจะได้ไปยืนตะโกนร้องเพลง your never walk alone ในแอนฟิลด์เสียที

ลุกขึ้นมาครับลุกขึ้นมาทำฝันให้เป็นจริง
โปรดเชื่อทุกอย่างไม่เกินฝีมือเรา สลัดความฝันแล้วเปลี่ยนไปเป็นความจริงเถิดครับ


เหินฟ้า
ก่อนออกเดินทางเหินฟ้าควรวางแผนเดินทางให้ดี ถ้าวางหมุดไว้ที่แอนฟิลด์ เรื่องอื่นก็ไม่ต้องสนใจ

สุวรรณภูมิ ฮีทโทรว์

อีวา แอร์เวย์ส สายการบินเชื้อสายไต้หวันที่เน้นราคาถูก เปิดบริการทุกวัน ไม่ซีเรียสเรื่องการบริการหรือการอำนวยความสะดวกสบายทั้งหลาย ยิ่งจองล่วงหน้านานเท่าไหร่ยิ่งได้ราคาสมเหตุสมผล สมมติจะไปฤดูกาลหน้าช่วงปลายปี ควรเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ครับ



เช็กราคาคร่าวๆ ค่าเครื่องบินประมาณ 18,500 25,000 บาทรวมภาษีสนามบินอีกประมาณ 15,000 บาท เบ็ดเสร็จเราอาจได้ค่าตั๋วในราคาไม่เกิน 40,000 บาท

แต่ถ้าเป็นพวกนั่งเฝ้าหน้าจอ พร้อมฉกชิงโปรโมชั่นสุดคุ้มทั้งหลายบางรายเคยไปได้ตั๋วรวมหมดทุกอย่างในราคาอยู่ที่ 30,000 บาทเท่านั้น

หรือเลือกแบบเปลี่ยนไฟลต์พอถูไถครับ เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ ไปเปลี่ยนพักนั่งจิบกาแฟแถวดูไบ สักสองสามชั่วโมง ราคาน่ารักน่าลุ้นไม่หนี อีวา แอร์ไลน์ เท่าไหร่ แถมได้บริการสุดคุ้ม เบาะนั่งโอ่โถง

ยกระดับขึ้นมาหน่อย ไทย แอร์เวย์ส ของเรามีบินตรงไปถึงฮีทโทรว์เช่นกัน เพียงแค่ราคาสูงกว่าเล็กน้อย ค่าตั๋วเริ่มต้นที่ 28,000 40,000 บาท ขึ้นอยู่กับสถานะและช่วงเวลา เมื่อบวกราคาสนามบินก็แตะครึ่งแสนได้

เอาแบบสุดโต่ง บรีติช แอร์เวย์ส ผายมือต้อนรับในราคาระดับพรีเมี่ยมที่ 70,000 บาท ไล่ยางไปจนถึงหลักแสนโน่น

บอกตามตรงไม่แนะนำครับ ถ้ามีตังค์บินขนาดนั้น คงไม่ใช่กลุ่มกระมิดกระเมี้ยนเฝ้าเติมฝันหรอกครับ อยากไปเมื่อไหร่ตีตั๋วได้เลย

อีกทางเลือกหนึ่ง สมมติไม่สนใจเข้าเมืองหลวงให้วุ่นวาย และตามประสบการณ์อาจประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่พอสมควรคือบินร่อนลง แมนเชสเตอร์ แอร์พอร์ต เลยครับ
ตะขิดตะขวงใจนิดหน่อยกับเมืองที่ไม่ค่อยอยากเดิน แต่อย่างน้อยก็ใกล้ลิเวอร์พูล

สุวรรณภูมิ แมนเชสเตอร์

ส่วนใหญ่เป็นไฟลต์เปลี่ยนเกือบทั้งหมด ถ้าคุณไม่แคร์ที่ต้องนั่งรอนิดหน่อยแนะนำครับ เช็กราคาล่าสุดทีของ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ รบกวนกระเป๋าเงินน้อยที่สุด

จำไว้อย่างจองล่วงหน้า ยิ่งนานเท่าไหร่ยิ่งดี

วีซ่า

หมดเรื่องตั๋วเครื่องบิน คราวนี้ถึงด่านสำคัญคือการขอวีซ่า ... หลายคนหวาดหวั่น บางรายเคยโดนปฏิเสธเล่นเอาเสียสติไปหลายยกจนขาดความมั่นใจ
ทำใจให้สบายครับไม่ต้องกังวล เอาความจริงใจเข้าสู้

ขั้นตอนแรกเตรียมเอกสารให้พร้อม
- รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป ฉากหลังขาวเท่านั้น
- พาสปอร์ตทุกเล่ม (เท่าที่หาได้) ถ่ายสำเนาหน้าพาสปอร์ตให้ครบ
- เอกสารส่วนตัว บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน
- หนังสือรับรองการทำงาน (เขาจะได้รู้ว่ามีการงานเป็นหลักเป็นแหล่ง รวมถึงความมั่นคง)
- เอกสารทางการเงิน จัดไปให้หมดครับ บัญชีธนาคารทั่วไป บัญชีกองทุน สลากออมสิน หรือถ้าให้ชัวร์สำหรับมนุษย์เงินเดือนให้ธนาคารที่พ่วงบัญชีเงินเดือนของเราออกหนังสือรับรองได้จะเวิร์กมาก
- เอกสารจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
- แผนการเดินทาง (อันนี้สำคัญ เขียนรายละเอียดให้หมดครับ เป้าหมายคือไปดูบอลที่แอนฟิลด์ ลงเครื่องที่ไหน เดินทางอย่างไร ใช้เวลาพักอยู่กี่วัน ไม่ต้องปิดบัง จำไว้ จริงใจดีที่สุด)
- สุดท้ายคือ แคชเชียร์เช๊ค ค่าธรรมเนียมขอวีซ่า 3,500 บาท สำหรับวีซ่าท่องเที่ยวไม่เกิน 1 เดือน

เอกสารครบเชิญเข้าเว็บไซต์ http://www.ukba.homeoffice.gov.uk/visas-immigration/ เพื่อโหลดใบยื่นคำร้องออนไลน์ แล้วกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

การยื่นวีซ่าสหราชอาณาจักร ไม่ต้องไปสถานทูตครับ เพราะช่วงหลังปรับเปลี่ยนกฎให้มายื่นเรื่องผ่านตัวแทนซึ่งเรียกอย่างเป็นทางการว่า ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ที่อาคาร Regent House ถนนราชดำริ



ไปรถไฟฟ้าสะดวกที่สุด ลงสถานีราชดำริแล้วเดินลงมาทางฝั่ง AUA อยู่ติดกันเลยครับ มองหา Regent House แล้วเดินตัวปลิวขึ้นชั้นสองเลย

ระบบการยื่นมีทั้งจองคิวออนไลน์ ข้อดีคือรู้เวลาชัดเจนไม่ต้องไปนั่งรอจนหง่าว แต่ถ้าเลือกเดินไปรับบัตรคิวด้วยตัวเองต้องไปแต่เช้า เวลาทำการ 08.30 15.30 ฉะนั้นต้องไปก่อนเวลาครับ

จากนั้นก็รอไป ถึงคิวตัวเองจงเดินอย่างมั่งมั่นไปที่ยื่นเอกสารตามเคาน์เตอร์ที่เรียก เขาถามอะไรหรืออยากได้อะไรเพิ่มก็ทำตามเค้าไป ไม่อยาก

ที่สำคัญคืออย่าขาดความมั่นใจ เราไม่ได้ไปทำอะไรเสียหาย แค่ขอไปดูบอลเสร็จก็กลับบ้าน ฉะนั้นไม่ต้องกลัวครับ


*ขอขอบคุณบทความจาก นิตยสาร หงส์ Society
*ป.ล. ผมเห็นว่าเป็นบทความที่มีประโยชน์สำหรับใครที่อยากทำฝันให้เป็นจริงหรืออยากหาเป็นแนวทาง ติดตามต่อ Part2 นะครับ

รอ Part 2 อยู่นะครับ

ติดตามอยู่น่ะครับ

ฝันนี้ ผมต้องเก็บเงินและหัดฟัง หัดพูดอังกฤษให้ได้ก่อน

เยี่ยมเลยครับ


ผมก็มีความฝัน จะไปอยู่แมนเชสเตอร์ให้ได้

รอ part 2 อยู่ครับ

ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต ก็อยากไปบ้างครับ

ฝากทุกๆบรรยากาศมาด้วยน่ะทาน ^^