สนาม ซัลฟอร์ด ซิตี้ สเตเดี้ยม, อังกฤษ
รายการ ยูฟ่า ยูธ ลีก
เวลา 22.00 น. วันอังคารที่ 17 กันยายน 2556
ผู้ทำประตูให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วิลสัน น.4 จุดโทษ น.89, เพียร์สัน น.10, อ.เปเรร่า น.71
ผู้ทำประตูให้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น บราสนิช น.28,29 วาเกเนอร์ น.61

เกมแรกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกยูฟ่า ยูธ ลีก เริ่มต้นขึ้นอย่างสนุกตื่นเต้น เมื่อลูกทีมของ นิคกี้ บัตต์ เอาชนะไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ไป 4-3

แม้ว่า แพ็ดดี้ แม็คแนร์ จะถูกไล่ออก แต่เจ้าถิ่นก็ยังเก็บ 3 คะแนนเต็มมาครองได้ในช่วงท้ายเกมจากลูกจุดโทษของ เจมส์ วิลสัน โดยเกมนี้ พอล สโคลส์ ได้มาช่วยบัตต์ซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมของเขาในตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชข้างสนามด้วย

ทีมปีศาจแดงออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว โดยยิงได้ถึง 2 ประตูในช่วง 10 นาทีแรก โอลิเวอร์ ชนิตซ์เลอร์ ก้าวออกมาจากเส้นประตู และก็ไม่สามารถหยุดยั้งลูกจ่ายทะลุช่องของ แพ็ดดี้ แม็คแนร์ ได้ บอลไหลไปถึงวิลสันที่จัดการซัดมันเข้าประตูไป

จากนั้นไม่นาน เบน เพียร์สัน ก็ขโมยบอลจาก ชาโต้ เอ็นกูเอ็นด็อง ก่อนที่จะพาบอลขึ้นหน้า เขาลากตัดเข้าใน และยิงผ่านมือชนิตซ์เลอร์เข้าไปให้ทีมทิ้งห่าง ชนิตซ์เลอร์ยังต้องมาออกแรงเซฟลูกยิงของวิลสันอีกครั้งด้วย ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าถิ่นครองเกมเอาไว้ได้ทั้งหมดแล้ว แต่ว่าเลเวอร์คูเซ่นก็มารัวยิง 2 ประตูได้ภายในเวลาห่างกันนาทีเดียว

ชาโต้ เอ็นกูเอ็นด็อง ครอสบอลให้ เบนจามิน เฮนริชส์ ซัดชนกรอบประตู และ มาร์ค บราสนิช ก็เป็นคนแรกที่เข้าถึงบอลที่กระดอนมา เขายิงเป็นลูกตีตื้นให้กับทีมเยือน จากนั้น นิโคลัส โออันนู ก็มาลื่นล้มจนเปิดโอกาสให้บราสนิชหลุดไปแตะบอลหลบ ปิแอร์ลุยจิ กอลลินี่ ก่อนที่จะยิงเป็นประตูตีเสมอ

ทีมจากเยอรมันเกือบจะพลิกแซงขึ้นนำได้ด้วยซ้ำ แต่ลูกยิงของเฮนริชส์ก็ยังไม่ดีเพียงพอ ขณะที่อีกฝั่งของสนาม อันเดรียส เปเรร่า ได้ยิงให้ชนิตซ์เลอร์ต้องโชว์ฟอร์มเซฟจากลูกฟรีคิก จากนั้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก โจ รอธเวลล์ ก็ยิงข้ามคานไปจากการจ่ายเข้ามาให้ของ เจมส์ เวียร์

เกมในครึ่งหลังไม่ค่อยดุเดือดมากนักจนกระทั่งเปเรร่ามาได้จังหวะซัดหลุดกรอบออกไป หลังจากที่รอธเวลล์ทำทางมาให้ อาการบาดเจ็บของเพียร์สันทำให้จังหวะเกมของทีมปีศาจแดงดูด้อยลง และก่อนที่เขาจะถูกเปลี่ยนตัวออกไป เลเวอร์คูเซ่นก็มายิงประตูขึ้นนำเป็นครั้งแรกในเกม แม็กซิมิเลี่ยน วาเกเนอร์ ได้บอลจากแดนกลาง และเขาก็ส่งบอลผ่านมือกอลลินี่เข้าประตูไป

แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ตอบสนองทันควัน แซม เบิร์น ยิงไปติดเซฟ บอลกระดอนมาเข้าทางเปเรร่าที่ซ้ำเข้าไปเป็นลูกตีเสมอ 3-3 ตอนนี้ทั้ง 2 ทีมต่างก็มีโอกาสพอๆ กัน เฮนริชส์ได้โขกไปเข้ามือกอลลินี่ ส่วนวิลสันก็ได้ยิงไปถูกชนิตซ์เลอร์เซฟด้วยขา จากนั้นใบเหลืองที่ 2 ก็ทำให้แม็คแนร์ต้องออกจากสนามไปโดยที่ยังเหลือเวลาในเกมอีก 15 นาที

หลุยส์ รอว์ลี่ย์ ต้องออกแรงบล็อคลูกยิงของ ฟรานเชสโก้ กิบัลดี้ ทีมปีศาจแดงรับมือกับความกดดันได้ดี และวิลสันก็มายิงประตูชัยได้ในขณะที่เหลือเวลาแข่งขันอีกแค่นาทีเดียว เขาใช้ความเร็วกระชากบอลผ่าน มาร์ลอน เฟรย์ และถูกทำฟาวล์จนเป็นจุดโทษ ก่อนที่จะปิดบัญชีจากระยะ 12 หลา ส่งให้ทีมคว้าชัยชนะอันน่าจดจำในครั้งนี้ไปครอง

รายชื่อผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปิแอร์ลุยจิ กอลลินี่; เจมส์ เวียร์ (แมทธิว วิลล็อค น.69), แพ็ดดี้ แม็คแนร์, นิโคลัส โออันนู, หลุยส์ รอว์ลี่ย์; เบน เพียร์สัน (โจชัว ฮาร์ร็อป น.69), เลียม กริมชอว์, โจ รอธเวลล์, อันเดรียส เปเรร่า (คอลลัม อีแวนส์ น.86); แซม เบิร์น, เจมส์ วิลสัน

สำรองไม่ได้ใช้งาน โจเอล คาสโตร เปเรร่า, แอชลี่ย์ เฟล็ตเชอร์, เบน บาร์เบอร์

SiR KeaNo

เครดิต : redarmyfc.com
ปล.1 เท่าที่ไล่อ่านมาตั้งแต่เช้ายังไม่มีคนเอามาลง แต่ถ้าซ้ำขออภัยด้วยนะครับ
ปล.2 เจ้าหนูวิลสัน มันยิงอีกแร้ว ฮอตจิงๆๆ

ไม่ซ้ำครับ

ท่านใดมีไฮไลท์หนอจักเป็นพระคุณยิ่ง

เย้ๆ ฮูเล่ ฮ่า ฮ่า

เด็กเลเวอร์ชุดนี้ตอนนี้เป็นจ่าฝูงในลีก ยู-19 ของเยอรมัน ชนะได้ได้ถือว่าเด็กชุดนี้ไม่ธรรมดาเหมือนกันถึงจะหืดจับไปหน่อย

แมนยูน้อย