บทความนี้จะทำให้เหล่ากูนเนอส์รักกาซิดิสกันมากขึ้น
ความงกของอาเซน่อลที่จะทำให้ทีมครองโลก
อะไรคือสิ่งที่วัดว่าทีมฟุตบอลประสบความสำเร็จ สำหรับอาเซน่อลมันเป็นเรื่องยากที่จะวัดได้
เรื่องนอกสนามอาเซน่อลกำลังไปได้สวย เมื่อการย้ายสนามมายังสนามเอมิเรตกำลังสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานะทางการเงินให้กับอาเซน่อล ในฤดูกาล 2011/2012 อาเซน่อลมีรายได้อย่างมหาศาลถึง 235 ล้านปอนด์ มากเป็นอันดับสามในเกาะอังกฤษ และจากการคาดการของ Swiss Ramble นักวิเคราะห์คาดการว่าอาเซน่อลจะมีรายได้ถึง 300 ล้านปอนด์เมื่อถึงสิ้นปี
อาเซน่อลมีกำไรถึง 37 ล้านปอนด์ก่อนหักภาษีในฤดูกาล 2011/2012 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของอาเซน่อล แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใดเพราะตลอด 5 ปีที่ผ่านมาอาเซน่อลทำกำไรไปถึง 190 ล้านปอนด์ ในขณะที่ทีมอื่นๆในพรีเมีียร์ลีกไม่สามารถทำกำไรได้ และอาเซน่อลไม่เคยขาดทุนเลยตั้งแต่ปี 2002
แต่อย่างไรก็ตามอาเซน่อลก็ไม่เคยได้แชมป์อีกเลยนับตั้งแต่วินาทีที่วิเอร่ายิงจุดโทษให้ทีมเอาชนะยูไนเต็ดได้แชมป์ ถ้วยเอฟเอเมื่อแปดปีที่แล้ว นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ วิเอร่่าได้ไปเป็นผู้อำนวยการให้กับทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ ในขณะที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแทบจะผูกขาดแชมป์พรีเมียร์ลีกและยังได้ถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกอีกใบ ในขณะที่ตู้โชวถ้วยของอาเซน่อลกลับมีแต่ฝุ่นจับแต่ตัวเลขในบัญชีของทีมกำลังเพิ่มขึ้นอย่างสวยงาม
ถึงแม้ว่าเวนเกอร์จะทำทีมติดท้อปโฟร์ ได้ไปเล่นแช้มป์เปี้ยนลีกตลอดระยะเวลาดังกล่าวแต่ความสำเร็จแค่นั้นก็ไม่เพียงพอสำหรับแฟนๆอาเซน่อลที่กระหายถ้วยแชมป์
ต้องบอกว่า 10 ปีที่ผ่านมาอาจจะพูดได้ว่าเป็นช่วงที่ต้องอดทนและเสียสละของทีมอย่างแท้จริง เพราะฐานะทางการเงินอันแข็งแกร่งของทีมในวันนี้เกิดขึ้นเพราะการใช้จ่ายอย่างรอบคอบและประหยัดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การย้ายมาสนามเอมิเรตส์นอกจากจะทำให้ทีมมีรายได้เพิ่มขึ้นแต่ทีมก็มีหนี้กู้ยืมค่าสนามที่จะต้องจ่ายด้วยเช่นกัน
อาเซน่อลต้องใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดเพราะการทำสัญญาระยะยาว 10 ปีกับสปอนเซอร์บนเสื้อกับสปอนเซอร์ชุดแข่งส่งผลให้มูลค่าเม็ดเงินจากสปอนเซอร์ที่ได้รับลดลงเมื่อระยะเวลาที่ผ่านไปโดยเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ และมีหนี้กู้ยืมค่าสนามที่ต้องจ่ายเมื่อถึงกำหนดชำระ ส่งผลให้อาเซน่อลต้องจำกัดเพดานค่าเหนื่อยนักเตะ ซึ่งการจำกัดเพดานค่าเหนื่อยทำให้ทีมไม่สามารถรั้งนักเตะระดับสตาร์ได้และไม่สามารถดึงสตาร์เข้ามาร่วมทีมได้อีกเช่นกัน
การเข้าไปเล่นแชมป์เปี้ยนลีกกลายเป็นรายได้หลักของอาเซน่อลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนการคว้าแชมป์รายการนี้ช่างห่างไกลนักสำหรับอาเซน่อล อาเซน่อลทำไดัแค่ประคองตัวผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนลีกเพื่อรายได้จากการแข่งขันรายการนี้
แต่ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปการที่ อาแซน เวนเกอร์กับอีวาน กาซิดิส ออกมาพูดว่าทีมกระหายในความสำเร็จและพร้อมจะเซ็นนักเตะระดับสตาร์เข้ามา มันไม่ใช่แค่การออกมาโกหกขายฝันโดยไม่มีเหตุผลรองรับ เพราะเวนเกอร์และกาซิดิสรู้ดีว่าเงินในบัญชีที่มีอยู่ตอนนี้สามารถนำมาใช้เสริมทีมได้้แล้ว
เงินในบัญชีของทีมอาเซน่อลตอนนี้มีอยู่ถึง 154 ล้านปอนด์เป็นผลจากการวางแผนทางการเงิยอย่างยอดเยี่ยมตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ในปี 2007 อาเซน่อลมีเงินในบัญชี 74 ล้านปอนด์แต่ปัจจุบันเงินจำนวนนั้นได้กลายเป็น 154 ล้านปอนมากมากขึ้นถึง 2 เท่า ยิ่งเอาไปเทียบกับเงินในบัญชีของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่มีแค่ 71 ล้านปอนด์ หรือเทียบกับเงินในบัญชีของทุกทีมในพรีเมียลีกรวมกันมีแค่ 181 ล้านปอนด์ ยิ่งทำให้เห็นว่าเงินในบัญชีของทีมอาเซน่อลมีมากมายขนาดไหน
ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของอาเซน่อลมาจากการแก้ไขสัญญาใช้ชื่อสนามเสียใหม่ของสายการบินเอมิเรตส์เป็นจำนวน 150 ล้านปอนด์ และรวมถึงสัญญากับพูม่าสปอนเซอร์ชุดแข่งใหม่ที่จะเสริมให้ฐานะทางการเงินของทีมแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก
อีวาน กาซิดิสได้บอกกับหนังสือพิมพ์เดอ มิลเรอส์ ว่าจำนวนเงินที่ได้มานั้นจะเอาไปพัฒนาทีมให้แข็งแกร่งเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ
"สิ่งที่ผมสามารถทำได้คือพัฒนาฐานะการเงินของสโมสรให้แข็งแกร่ง เพื่อทีี่เราจะได้นำเงินจำนวนนี้ไปซื้อผู้เล่นระดับท้อปเข้ามาสู่ทีมและเอาไว้รั้งนักเตะระดับท้อปของทีมให้อยู่กับทีมต่อไป เราต้องการที่จะลงทุนกับทีมให้มากกว่านี้ ดังนั้นเราจะทำมันในซัมเมอร์นี้" กาซิดิส
สิ่งที่กาซิดิสพูดเป็นความจริงไม่ใช่แค่โกหกขายฝันไปวันๆ
การเซ็นสัญญากับเมซุส โอซิล - เป็นการเซ็นสัญญาครั้งประวัติศาสตร์ของสโมสรที่จะต้องจาลึกไว้ เมื่อบอร์ดบริหารย้ายสนามจากไฮบิวรี่มาสู่เอเมิเรตส์พวกพวกเขาฝันไว้ว่าวันนึงทีมต้องสามารถซื้อซูเปอร์สตาร์ระดับนี้เข้ามาร่วมทีมให้ได้ การเซ็นสัญญากับโอซิลสำเร็จในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามันต้องใช้เวลาถึง 10 ปี ที่อาเซน่อลจะสามารถเซ็นสัญญาที่เคยฝันไว้กับนักเตะระดับนี้เข้าทีมได้
การเซ็นสัญญาโอซิลเป็นการเซ็นสัญญากับสุดยอดนักเตะที่จะทำให้อาเซน่อลกลายเป็นสุดยอดทีม การเซ็นสัญญานักเตะระดับนี้ย่อมทำให้ทีมได้รายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย เดอะมิลเรอส์ รายงานว่าการมาถึงของโอซิลทำให้เสื้อทีมอาเซน่อลมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 12 เท่าเมื่อเทีนบกับช่สงเวลาเดียวกัน
นอกจากเซ็นนักเตะระดับท้อปเข้ามาร่วมทีมแล้วอาเซน่อลก็ยังสามารถเก็บผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมโดยไม่ต้องขายออกไปอีกด้วย ในฤดูกาล 2011/2012 อาเซน่อลได้กำไรจากการขายนักเตะเป็นจำนวนถึง 65 ล้านปอนด์ แต่ปีนี้อาเซน่อลขายนักเตะไปแค่ 10 ล้านปอนด์ซึ่งก็คือแซวินโญ่และมาโนเน่ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่อาเซน่อลไม่เสียนักเตะตัวหลักของทีม
แต่อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินของอาเซน่อลก็ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบดอกกุหลาบ อาเซน่อลยังมีหนี้สนามจำนวนมหาศาลที่ยังต้องจ่าย เมื่อจบฤดูกาลอาเซน่อลยังคงมีหนี้ถึง 253 ล้านปอนด์ ซึ่งแบ่งชำระหนี้เป็นรายปี ปีละ 19 ล้านปอนด์
มีอีกสิ่งที่น่ากังวลเหมือนกันคือค่าเหนื่อยที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ปี 2009 ค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้น 39 เปอเซ็นคิดเป็นมูลค่า 143 ล้านปอนด์ ในขณะที่รายได้ของสโมสรเพิ่มเพียงแค่ 5 เปอเซ็น แต่รายจ่ายค่าเหนื่อยอาจลดลงเนื่องจากการโละผู้เล่นที่ไม่มีประโยชน์ต่อทีมหลายคนในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ถึงแม้จะมีข้อที่น่ากังวลเหล่านี้อยู่บ้างแต่ฐานะทางการเงินของสโมสรก็ยังแข็งแกร่งอยู่ดี การเซ็นสัญญากับโอซิลแสดงให้เห็นถึงการทำงานอย่างหนักในเรื่องการเงินของสโมสรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สโมสรไม่จำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดอีกต่อไป แฟนๆของอาเซน่อลสามารถฝันถึงทีมที่แข็งแกร่งเพื่อแข่งขันกับทีมชั้นนำของโลกได้แล้ว
กฎการเงินที่กำลังจะนำมาใช้ยิ่งช่วยฐานะการเงินให้สโมสรของเราสามารถแข่งขันกับทีมอื่นได้อย่างสูสียิ่งขึ้น
กาซิดิสให้ความเห็นเกี่ยวกับกฎการเงินไว้ว่า "ฟุตบอลกำลังเป็นไปในทิศทางตามแบบบที่เรากำลังทำกันอยู่"
ภายใต้การบริหารงานของกาซิดิสอาเซน่อลกำลังก้่าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง
ที่มา
http://bleacherreport.com/articles/1762735-the-economics-behind-arsenals-grand-plan-for-global-domination