ชินจิ คากะวะ มิดฟิดล์สายเลือดซามูไร อนาคตห้องเครื่องของแมนยู
มีคุณสมบัติ และ มาตรฐานในการเล่นฟุตบอล มากกว่าทางด้านของ
เมซุต โอซิล มิดฟิลด์ตกดับ ที่ต้องหอบข้าวหอบของมาอยู่ในถิ่นของ
อาร์เซน่อล
ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชินจิ คากะวะ ไม่ค่อย
มีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงสักเท่าไหร่ นอกจากนัดที่เจอทีมที่อ่อนชั้นกว่า
เนื่องจากเป็นปีแรกของชินจิ คากะวะ ที่เพิ่งย้ายมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีค
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่า ชินจิ คากะวะ สามารถเล่น
ได้อย่างมีชั้นเชิง และ เป็นกำลังสำคัญของทีมได้ แต่เขาก็ยังไม่เลือกที่จะ
ทำแบบนั้น เพราะ เขารู้ดีว่า เมื่อชินจิ คากะวะ ได้ยึดตำแหน่งห้องเครื่อง
ของทีมปีศาจแดง ด้วยเวลาเร็วเกินไป หรือ เร็วกว่าที่คาด จะมีทั้งสิ่งที่ดี
และ ไม่ดีตามมา
เปรียบเทียบกับกรณีของ เมซุต โอซิล มิดฟิดล์ตัวใหม่จากผลพลอยได้
ของอาร์เซน่อล ทีทีมเก่าอย่างราชันชุดขาว จำเป็นต้่องโล๊ะ มาให้
ด้วยเงื่อนไขของเงิน 42.5 ล้านปอนด์ แต่ในเบื้องลึกนั้น เมซุต โอซิล
เริ่มออกลายให้เห็น ว่า เมซุต โอซิล ไม่ใช่ เมซุต โอซิล คนเดิมอีกแล้ว
เขาเคยเป็นนักเตะ เยอรมัน ระดับโลก ที่ใครๆก็ต่างยอมรับในฝีเท้า
แต่ช่วงหลังนี้เริ่มไม่ใช่ จึงเป็นโอกาสดีที่เรอัล มาดริด จะย้อมแมวขาย
เมซุต โอซิล ให้กับทีมที่เสียนักเตะหลักไปทุกๆปีอย่างเป็นเอกฉันท์
และ ดันยอมทุ่มค่าตัวครั้งประวัิติศาสตร์ เพื่อดึงมิดฟิดล์ตกอับคนนี้มาให้ได้
เพราะ ฉะนั้นในเวลานี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ลงจากบังลังก์แล้ว
ทำให้สมบัติทั้งหมดของทีมปีศาจแดง ตกอยู่ในมือของ มอยส์
ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่ มอยส์จะปลุกปั้น มิดฟิดล์สายเลือดซามูไรคนนี้
ให้ก้าวไกลในเวที พรีเมียร์ลีค และ เวทียุโรป ไปพร้อมกับตัวเขาเอง
ซึ่ง เมซุต โอซิล ไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับทีมราชันชุดขาวอีกแล้ว
ทำให้ความรู้สึกเป็นใหญ่ของ เมซุต โอซิล ถูกลดค่าลงมาก มากซะจน
ชินจิ คากาวะ มีค่ากว่า เมซุต โอซิล