ผมไปอ่านบทความของต่างประเทศ และดูว่าน่าสนใจดี
ไม่ถูกใจอย่าโวยวาย ผมแค่แปลมาอีกที
10. แอสตัน วิลล่า ดูแข็งแกร่งอย่างไม่เชื่อ
แม้ว่าฟอร์มของเบนเทเก้จะร้อนแรงมากแค่ไหนก็ตาม สื่อต่างๆก็ยังไมไ่ด้คาดหวังกับผลงานของวิลล่ามากนักตอนเริ่มฤดูกาล
จากการที่โชคดีรอดตกชั้นแบบฉิวเฉียดเมื่อปีที่แล้ว
ถึงตอนนี้จะอยู่อันดับที่13ของตาราง แต่ไม่มีทีมไหนที่มีโปรแกรมการแข่งขันช่วงต้รที่หินไปกว่าวิลล่าอีกแล้ว
เปิดด้วยเกมไปเยือนอาร์เซนอล ตามด้วยไปเยือนเชลซีอีกครั้ง ก่อนจะกลับมาเปิดบ้านต้อนรับลิเวอร์พูล
ถึงแม้ว่าจะแพ้ลิเวอร์พูลในบ้าน แต่นัดเจอเชลซีถือว่าเล่นดีและโชคร้ายที่ไม่มีแต้มติดมือกลับบ้านไป
และฟอร์มที่เปิดฤดูกาลชนะอาร์เซนอลก็น่าจะรับประกันได้ว่า ปีนี้แอสตัน วิลล่าจะไม่ใช้หมูให้เคี้ยวอีกต่อไป
9. ดิคานิโอ ยังคงไม่สติแตกและใจเย็น
ผู้จัดการทีมมาดนักปฏิวัติ เสริมทีมยกใหญ่เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ดึงผู้เล่นเข้ามาเกินกว่าครึ่งทีม
เป้าหมายคือไม่ต้องการมาดิ้นรนหนีตกชั้นเหมือนปีที่แล้ว
แต่ดูเหมือนผลลัพธ์ช่วงเปิดฤดูกาลจะสวนทางกับเม็ดเงินที่ลงทุนไป22ล้านปอนด์
แพ้คาบ้านต่อฟูแล่ม ก่อนที่จะพลาดแต้มจากนัดล่าสุดที่เจอเซาต์แธมตันตีเสมอนาทีสุดท้าย
ก่อนจะพาทีมไปแพ้น้องใหม่คริสตัลพาเลซ3-1 น่าจะเป็นสัญญาณที่บอกว่า งานของเค้ายังเหลืออีกเยอะที่ต้องจัดการโดยเร็ว
ด้วยบุคลิกที่ทุกคนรู้ดี เป็นเรื่องแปลกที่เค้ายังใจเย็นอยู่ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในนัดล่าสุดว่านักเตะของเค้าเล่นกันแบบไม่มีสมอง
คงอีกไม่นานแน่ที่ชายคนนี้จะทิ้งระเบิทลงกลางสโมสรซันเดอร์แลนด์
8. สเปอร์ลงทุนกว่า105ล้านปอนด์
หลังจากมหากาพย์เกเร็ธ เบล จบลง โบอาสนำเงินไปดึงตัวผู้เล่นระดับเกรดAหลายคน กว่า100ล้านปอนด์
(Paulinho, Nacer Chadli, Roberto Soldado, Etienne Capoue, Vlad Chiriches, Erik Lamela, Christian Eriksen)
ไม่มีใครเถียงว่าสเปอร์คือทีมที่ลงทุนอย่างจริงจังที่สุดเมื่อดูจากรายชื่อผู้เล่นที่กล่าวมา
จึงน่าแปลกว่า ปีนี้ทีมที่จ่ายเยอะที่สุดกลับไม่ใช่ทีมของเสี่ยหมีหรือเสี่ยอาหรับ
7. เขลซี ปล่อยยืมตัวลูกากูออกจาทีม อีกแล้ว!?
สื่อหลายสำนักจัดให้เค้าเป็นตัวเลือกรัดับเดียวกับ ตอเรส และ บา ตึงเป็นที่คาดหวังว่าน่าจะมีปีที่ยิ่งใหญ่กับเชลซี
ปีที่แล้ว มีส่วนสำคัญช่วยให้เวสบรอมวิชจบฤดูากาลอย่างสวยงามโดยยิงไปทั้งสิ้น18ประตู
ก่อนจะรักษาฟอร์มดีต่อเนื่องมาจนถึงช่วงพรีซีซั่นกับเชลซี แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นตามที่ทุกคนคิด
เมื่อลูกากูถูกจับส่งออกไปให้เอฟเวอร์ตันยืมตัวอีกครั้งในวันสุดท้ายของตลาด ก่อนปิดแค่ไม่กี่ชั่วโมง
นอกจากจะเป็นการปล่อยอาวุธไปให้คู่แข่งแล้ว ปีนี้เอฟเวอร์ตันก็น่าจะมีลุ้นพื้นที่ยุโรปกับเค้าด้วยเหมือนกัน
ถ้าไม่เชื่อลองดูสถิติทำประตูต่อนาทีของศุนย์หน้าพรีเมียร์ลีกตามด้านล่างนี้
Romelu Lukaku (West Brom) 17 goals 2004mins 117.8 g/min
Theo Walcott (Arsenal) 14 goals 2285mins 163.2 g/min
Christian Benteke (Aston Villa) 19 goals 2820mins 148.4 g/min
Luis Suarez (Liverpool) 23 goals 2953 mins 128.3 g/min
Robin van Persie (Manchester Utd) 26 goals 3122 mins 120.0 g/min
6. เตะมา3นัด แต่เหลือแค่3ทีมที่ยังไม่แพ้ใคร
ตามปกติแล้ว จะมีทีมที่ออกสตาร์ทได้ดีและรักษาจังหวะช่วงเปิดได้ครึ่งนึง และฤดูกาลที่แล้วก็มีถึง7ทีม
แต่มาปีนี้ ตอนนี้เหลือแค่3ทีมในลีกที่ยังไม่แพ้ใครคือ ลิเวอร์พูล เชลซี และ เอฟเวอร์ตัน
หงส์แดงชนะรวด สิงห์บลูสะดุดเสมอนัดนึง และ ทอฟฟี่สีน้ำเงินเสมอ3นัดติด
ทุกคนต่างคิดว่า แมนยู อาร์เซนอล สเปอร์ รวมไปถึงเซาต์แฮมตัน น่าจะออกตัวได้ดีแบบไม่แพ้ใคร แต่ทีมที่ว่ามาก็พลาดไปหมดแล้ว
ต้องลองดูว่าเอฟเวอร์ตันจะตามรอยทีมชั่งปั้นหม้อฤดูกาลที่แล้วรึเปล่าหลังจากเปิดตัวเสมอรวด3นัดเหมือนกันเด๊ะ
5. เดวิด มอยส์ ยังคงปรับตัวไม่ได้
ทุกคนรู้ดีว่ามันไม่ใช่งานง่ายๆเลยที่จะมารับช่วงต่อของป๋าเฟอร์กี้ แต่ใครจะไปคิดว่ามอยส์จะมีปัญหาตะกุกตะกักในการทำงานขนาดนี้
ฟอร์มการเล่นไม่ได้ขี้เหร่อะไร เริ่มจากเปิดตัวเก็บ3แต้มกับสวอนซี คลีนชีตกับเชลซีี ก่อนจะโชคร้ายโดนลิเวอร์พูลเฉือนไปนิดเดียว
ถึงทุกอย่างจะดูโอเค แต่ก็ไม่พ้นสื่อที่มักจะพาดหัวเกี่ยวกับแทคติดของมอยส์อยู่ตลอดเวลา
และที่สำคัญคือขั้นตอนการทำงานในการดึงนักเตะเข้ามาเสริมทีม เป็นเหตุที่ทำให้พลาดนักเตะไม่รู้กี่คน
(Leighton Baines, Mesut Ozil, Ander Herrera, Wesley Sneijder, Sami Khedira and Fabio Coentrao)
4. ทีมน้องใหม่ไม่หมูอย่างที่คิด
ปกติแล้วทีมน้องใหม่จะมีปัญหากับการออกตัวตอนเปิดฤดูกาล แล้วยิ่งเป็นทีมที่ไม่ได้เป็นขาประจำลีกสูงสุดด้วยแล้ว ทุกอย่างมันก็ยากขึ้นไปอีก
แต่ใครจะไปคาดว่า3ทีมป้ายแดงจะเปิดฤดูกาลได้โอเคสุดๆ
เริ่มจกฮัลล์ที่ใครก็คาดกันว่าน่าจะเป็นเต็งบ๊วย ก็เก็บ3แต้มแรกได้แล้วจากนอริช แถมฟอร์มการเล่นกับแชลซีและแมนซิตี้ก็ยังเป้นสัญญาณที่ดีของทีมอีกด้วย
คริสตัลพาเลซอยู่อันดับที่14 ก็เก็ย3แต้มได้จากที่ชนะซันเดอร์แลนด์3-1 ก่อนจะไปแพ้สเปอร์แค่ลูกเดียว
และคาร์ดิฟที่เปิดตัวชนะแมนซิตี้ ตามไปด้วยเสมอเอฟเวอร์ตันแบบไม่มีสกอร์ ทำให้มีแต้มเท่ากับแชมป์เก่าอย่างแมนยูอยู่ตอนนี้
3. มาต้ากลายเป็นส่วนเกินของทีม??
ถ้ามูรินโญ่คือ The Special One มาต้าก็คือ The Unwanted One
ถูกโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสรฤดูกาลที่แล้วด้วยผลงาน11ประตูกับอีก17แอสซิสต์
แต่กลับเปิดตัวฤดูกาลใหม่ด้วยการนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ข้างสนาม แม้แต่ในเกมใหญ่กับแมนยูก็ยังไม่ได้ลง
ดูเหมือนว่าเค้าจะเป้นตัวเลือกที่สองรองจากออสการ์ หลังจากการมาของมูรินโญ่ ไม่เหมือนตอนที่เบนิเตซพยายามดันให้ออกไปเล่นทางด้านขวา
และตอนนี้ตัวริมเส้นของมูรินโญ่คือ ฮาร์ซา และ ชูร์เล่ จึงดูเหมือนว่าจะไม่มีตำแหน่งตัวจริงการันตีอีกต่อไป
เมื่อตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่มีทีมไหนทาบตัว แต่ถ้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงไม่ต้องรอถึงซัมเมอร์ปีหน้า
2. แรมซี่ World Class
จากที่โดนปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนจนหาฟอร์มไม่เจอ ตอนนี้แรมซี่เปิดตัวสุดฮอตกับปืนใหญ่
ถึงแม้ว่าเด็กปืนบางคนจะบอกว่าเชื่อมั่นในตัวเค้ามาตลอด แต่ยอมรับเถอะว่าไม่มีใครคิดว่าเค้าจะฟอร์มร้อนแรงอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
อาร์เตต้ามีปัญหาอาการบาดเจ็บ และวิลเชียร์ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อน ทำให้แรมซี่ได้รับโอกาสลงมาคุมเกมแดนกลาง
และเค้าก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับผลงานที่ผ่านมา คุมแผงกลางไว้ได้ทั้งหมด
เวงเกอร์พลาดที่จะได้ตัวกองกลางตัวรับ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้แรมซี่จะเล่นได้หมดทั้งรุกและรับ วิ่งขึ้นและลงตลอดทั้งเกม
ถ้าแรมซี่ยังเล่นได้แบบนี้ เวงเกอร์ก็ไม่ต้องไปหาตัวเชื่อเกมตัวใหม่ที่ไหนแล้ว
1. ลิเวอร์พูลเปิดตัวฤดูกาลนำจ่าฝูง
ต้องยอมรับว่าน่าแปลกใจมากๆและไม่มีเจตนาจะดิสเครดิตทีมดังจากเมอร์ซี่ไซด์แม้แต่นิดเดียว
แต่ถ้าจะให้ย้อนกลับไปดูว่าลิเวอร์พูลเปิดตัวได้แจ่มขนาดนี้มันก็ตั้งแต่ปี1994หรือกว่า20ปีมาแล้ว
แถมนี่ยังเป็น9แต้ม จาก3นัด ยิงได้3ประตู และยังไม่เสียประตูให้ใครเลยอีกด้วย
ทั้งที่ตอนซัมเมอร์ก็ไม่ได้เป้นตัวเต็งของสื่อซักสำนักเดียว และไม่ได้ลงทุนมากมายตอนซัมเมอร์ที่ผ่าน
แมนยู แมนซิตี้ และ เชลซี ต่างพลาดสะดุด แต่ฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล ต้องดูว่าหงส์แดงจะรักษาฟอร์มได้รึเปล่า
อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อโต้แย้งกับฟอร์มการเล่นและผลที่ออกมาทั้ง3เกม
ตอนนี้ลิเวอร์พูลคือที่1ของตารางโดยที่ยังไม่แพ้และเสียประตูให้ใครเลย
REF:
http://bleacherreport.com/articles/1762131-ranking-the-10-biggest-surprises-of-the-premier-league-season-thus-far