เคยทำงานกับรุ่นน้อง GEN Y และมีน้องสาว GEN Z ผมมองว่า 2 gen นี้

เริ่มตั้งคำถามกับระบบมากขึ้นและมั่นใจในความคิดตัวเองสูงมาก

อะไรที่คิดว่ามันไม่ถูกต้องก็ค้านให้สุดโต่ง อะไรที่คิดว่าใช่ก็ดันสุดลิ่ม

ทำให้เราเริ่มเห็นความเปลี่ยนทางการเมืองไทยแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

หรือแม้แต่รูปแบบการทำงานในองค์กรที่เปลี่ยนไป สังคมที่คนกล้าแสดงความคิดเห็นต่อกันมากขึ้น

ส่วนลูกชายที่เป็น GEN ALPHA รุ่นนี้เก๋าจัด ไม่สนสี่แปดในเรื่องที่ไม่ควรจะสนใจ

อาจไม่ตั้งคำถามมากเท่ารุ่นก่อนหน้าคงเพราะยังเด็ก แต่กล้าที่จะใช้ชีวิตตามความถนัด

กล้าบอกว่าชอบไม่ชอบอะไรและจะทำไม่ทำอะไร ลูกผม 9 ขวบ เริ่มมีความคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ

ผมเริ่มเห็นความหวังในการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้จากคนทั้งสามรุ่น

หวังว่าพวกเค้าจะเป็นอนาคตและแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ภาพการเมืองที่เราและสังคมที่ดีขึ้นแบบที่คนรุ่นเราๆฝันไว้ ใน 30 ปีนี้อาจได้เห็น

ถ้าไม่สมองไหลออกนอกประเทศไปหมด คิดเห็นอย่างไรคุยกันครับ

ยังไงมันก็เปลี่ยนแปลงครับโลกหมุนทุกวัน

วันนี้boomer/Xขับเคลื่อนโลกพอรุ่นนี้ตายไป

เจนต่อไปก็จะเป็นX/Y>Y/Z>Z/Alpha …

สำหรับผมคิดว่าประเทศเราการเมืองค่อนข้างเปลี่ยนแปลงช้าน่ะครับ ยังวนลูปกับการรัฐประหารบ่อยๆ

ต่อให้สังคม การเมือง การศึกษา เปลี่ยนกว่าจะเห็นผลก็ไม่รวดเร็วทันใจ

แต่ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจมันเกิดแล้ว อุตสาหกรรมตกยุค สังคมผู้สูงอายุ ขาดแรงงานทั้งจำนวนและคุณภาพ กำลังซื้อในประเทศหด ภาษีลดแต่สัดส่วนที่ต้องไปแบกผู้สูงอายุมากขึ้น

ส่วนตัวผมมองว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดี แต่ผลลัพธ์จะ "ดีขึ้น" หรือไม่ อาจขึ้นอยู่กับว่าเราจะหา "จุดสมดุล" ที่เหมาะสมให้กับสังคมไทยเจอหรือไม่

การให้คุณค่ากับเสรีภาพเป็นสิ่งสำคัญในโลกยุคใหม่ แต่ในขณะเดียวกัน ประวัติศาสตร์ของหลายประเทศที่พัฒนาแล้วก็ชี้ให้เห็นว่า เสถียรภาพทางการเมือง ระเบียบวินัยทางสังคม และการมีผู้นำที่เข้มแข็ง ก็เป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้เช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือสิงคโปร์ ที่สร้างชาติขึ้นมาได้จากการสร้างสมดุลระหว่างสิ่งเหล่านี้

ผมจึงมองว่าความหวังของการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้อยู่ที่ Gen ใด Gen หนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับว่าสังคมเราโดยรวมจะสามารถนำข้อดีของแต่ละแนวคิดมาปรับใช้เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและเป็นธรรมสำหรับทุกคนได้อย่างไร