Evergrande วงการรถยนต์... BYD ลดกำลังการผลิต ค้างสต๊อกนานสุด
BYD ส่งสัญญาณชะลอตัว! ลดกำลังการผลิต หลัง EV ค้างสต๊อก-ยอดขายไม่เข้าเป้า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า BYD บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน ได้ชะลอการผลิต และการขยายโรงงานลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยได้ ลดกะการทำงาน ในโรงงานบางแห่งในจีน และเลื่อนแผนการเพิ่มสายการผลิตใหม่ๆ ออกไป
การตัดสินใจครั้งนี้บ่งชี้ว่า การเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่งของ BYD ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จนแซงหน้า Tesla ขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกอาจจะชะลอตัวลง
แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อเปิดเผยว่า BYD ได้ยกเลิกกะกลางคืน และลดกำลังการผลิตลงอย่างน้อย 1 ใน 3 ที่โรงงานอย่างน้อย 4 แห่ง และระงับแผนการตั้งสายการผลิตใหม่บางส่วน ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยมีการรายงานมาก่อน
อย่างไรก็ดี รอยเตอร์ไม่สามารถระบุขนาดที่แน่ชัดของการลดกำลังการผลิต และการระงับการขยายกิจการของ BYD ได้ รวมถึงไม่ทราบว่ามาตรการเหล่านี้จะใช้บังคับนานเท่าใด แต่แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า มาตรการเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อ “ลดต้นทุน” ในขณะที่อีกแหล่งข่าวกล่าวว่าเกิดขึ้นหลังจาก ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่ง BYD ยังไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที
ปีที่ผ่านมา BYD มียอดขายรถยนต์ 4.27 ล้านคัน ซึ่งมาจากตลาดจีนเป็นส่วนใหญ่ โดย BYD มีโรงงานผลิตรถยนต์อย่างน้อย 7 แห่งในประเทศ
ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีนแสดงให้เห็นว่า การเติบโตของการผลิตของ BYD ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเพิ่มขึ้นเพียง 13% ในเดือนเม.ย.และ 0.2% ในเดือนพ.ค.จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2567
การเปลี่ยนแปลงทิศทางการผลิตของ BYD
ในช่วงปี 2566-2568 BYD เคยเพิ่มปริมาณการผลิตรายเดือนอย่างสม่ำเสมอ แต่ในปีนี้แนวโน้มได้เปลี่ยนไป โดยปริมาณการผลิตเฉลี่ยในเดือนเม.ย.และพ.ค. ลดลงถึง 29% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2566
BYD ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี ด้วยการ เร่งเพิ่มกำลังการผลิต อย่างจริงจัง และออกรถรุ่นใหม่ๆ ที่มีราคาจับต้องได้ อย่างรวดเร็ว
BYD ค้างสต๊อกนานสุดในอุตสาหกรรม
สมาคมตัวแทนจำหน่ายยานยนต์แห่งประเทศจีนทำการสำรวจในเดือนพ.ค.
พบว่าตัวแทนจำหน่าย BYD มีสินค้าคงคลังเฉลี่ยอยู่ที่ 3.21 เดือน ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาแบรนด์รถยนต์ทั้งหมดในจีน ในขณะที่ระดับสินค้าคงคลังของทั้งอุตสาหกรรมอยู่ที่ 1.38 เดือน
เมื่อไม่นานมานี้ สื่อของรัฐบาลรายงานว่า BYD รายใหญ่ในมณฑลซานตงปิดตัวลง โดยมีร้านค้าอย่างน้อย 20 แห่งถูกทิ้งร้างหรือปิดให้บริการ
เมื่อสินค้าค้างสต๊อกมากขึ้นเรื่อยๆ หอการค้าผู้จำหน่ายรถยนต์แห่งประเทศจีนได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้ผลิตรถยนต์ หยุดการส่งรถจำนวนมากเกินไปให้กับตัวแทนจำหน่าย และกำหนดเป้าหมายการผลิตที่ "สมเหตุสมผล" โดยอิงจากยอดขายจริง
กลุ่มหอการค้าชี้ว่า “สงครามราคาที่รุนแรงกำลังสร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อกระแสเงินสด และลดความสามารถในการทำกำไรของทั้งอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ชาวจีนยังได้เรียกร้องให้ผู้ผลิตรถยนต์ จ่ายเงินคืนเป็นเงินสดภายใน 30 วัน เพื่อช่วยบรรเทาภาระทางการเงินที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่
ปัจจุบัน ผู้ผลิตรถยนต์จีนกำลังให้ความสำคัญกับ ตลาดต่างประเทศ มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย และชดเชยยอดขายที่ลดลงในตลาดภายในประเทศ
ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ BYD ขายรถไปได้ 1.76 ล้านคัน โดยมียอดส่งออกประมาณ 20% ของทั้งหมด ซึ่ง BYD ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายเกือบ 30% เป็น 5.5 ล้านคันในปีนี้
https://www.bangkokbiznews.com/world/1186560