เรอัล มาดริด vs แอธเลติก บิลเบา : ศึกชี้ชะตาระหว่างอันดับ 2 กับอันดับ 4
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
#SSxLaLiga | ราชันชุดขาวต้องการรักษาความหวังในการลุ้นแชมป์ ขณะที่ทีมจากแคว้นบาสก์มีเป้าหมายคว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
เรอัล มาดริด เตรียมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ แอธเลติก บิลเบา ในคืนวันอาทิตย์นี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่ที่น่าติดตามของศึก ลาลีกา แมตช์เดย์ที่ 32 โดยทั้งสองทีมเพิ่งกลับมาเก็บชัยชนะได้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังสะดุดในเกมแมตช์เดย์ที่ 30
ราชันชุดขาวบุกไปเอาชนะ เดปอร์ติโบ อลาเบส แบบหืดจับ 1-0 จากประตูชัยของ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า ซึ่งช่วยให้ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ เรียกความมั่นใจกลับมาได้ หลังไม่ชนะใครใน 3 เกมก่อนหน้านี้ในทุกรายการ (แพ้ 2 เสมอ 1) ชัยชนะครั้งนี้ยังเป็นคลีนชีตแรกในรอบ 10 เกมของ เรอัล มาดริด โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาไม่เสียประตูต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ในเกมที่บุกชนะ เรอัล โซเซียดาด 1-0 ศึก โกปา เดล เรย์
ทางฝั่งของ แอธเลติก บิลเบา ทีมจากแคว้นบาสก์โดน ปาเต ซิส ยิงให้ ราโย บาเยกาโน่ ขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกมในการพบกันที่สนามซาน มาเมส อย่างไรก็ตาม เจ้าถิ่นแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและหัวจิตหัวใจนักสู้ กลับมาเร่งเครื่องในครึ่งหลังและพลิกสถานการณ์ได้สำเร็จ โดย โอยาน ซานเซต เหมาคนเดียวสองประตู ขณะที่ อินญากี้ วิลเลียมส์ ก็มีชื่อบนสกอร์บอร์ดเช่นกัน พา ลอส เลโอเนส แซงชนะ 3-1 คว้าชัยชนะนัดแรกในรอบ 4 เกมหลังสุดจากทุกรายการ เสียไปเพียงประตูเดียวจาก 5 นัดหลังสุด และยังยืดสถิติไม่แพ้ใครออกไปเป็น 7 เกมติดต่อกัน แบ่งเป็น 3 ชนะ 4 เสมอ
ศึกชี้ชะตาลุ้นแชมป์
เหลือเพียง 7 นัดสุดท้ายก่อนปิดฤดูกาล 2024/25 ของ ลาลีกา เกมระหว่าง เรอัล มาดริด ทีมอันดับ 2 กับ แอธเลติก บิลบาทีมอันดับ 4 อาจมีผลอย่างยิ่งต่อการลุ้นแชมป์ ซึ่งทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ตามหลังจ่าฝูง บาร์เซโลน่า อยู่ 7 แต้ม และทั้งสองทีมมีนัดสำคัญในศึก เอล กลาซิโก้ ที่จะฟาดแข้งกันที่สนามเอสตาดี้ โอลิมปิก ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ขณะที่ทีมจากแคว้นบาสก์เองก็กำลังลุ้นหนักกับเป้าหมายท็อปโฟร์ ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้สิทธิ์ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
ในวันอาทิตย์นี้ เรอัล มาดริด ยังมีเป้าหมายในการล้างแค้นอยู่ด้วย เพราะ 1 ใน 5 ความพ่ายแพ้ในลีกของพวกเขาฤดูกาลนี้ เกิดขึ้นจากการพบกับคู่แข่งรายนี้ ในแมตช์เดย์ที่ 19 เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดย แอธเลติก บิลเบา เปิดบ้านที่ ซาน มาเมส เอาชนะ ราชันชุดขาว 2-1 จากประตูของ อล็กซ์ เบเรนเกร์ และ กอร์ก้า กูรูเซต้า ที่ช่วยกันพาทีมคว้า 3 แต้มในวันนั้น
เรอัล มาดริด ยังคงเป็นต่อในเรื่องเฮดทูเฮด
แม้จะเป็นฝ่ายแพ้ในการพบกันครั้งล่าสุด แต่ เรอัล มาดริด ก็ยังคงมีสถิติที่เหนือกว่า แอธเลติก บิลเบา โดยเฉพาะเมื่อเล่นในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ทีมจากแคว้นบาสก์บุกมาเก็บชัยชนะที่นี่ต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2004/05 โดยเกมนั้น อันโดนี่ อิราโอล่า อดีตโค้ช ราโย บาเยกาโน่ และกุนซือปัจจุบันของ บอร์นมัธ เป็นหนึ่งในผู้ทำประตูในเกมที่พาทีมชนะ 2-0 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มาดริด ก็เก็บชัยชนะในบ้านเหนือ บิลเบา ได้ถึง 16 นัด เสมออีก 3 นัด โดยไม่แพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ถือเป็นหนึ่งในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลสเปน การเจอกันระหว่าง 2 ใน 3 สโมสรของ ลาลีกา ที่ไม่เคยตกชั้นจากลีกสูงสุดเลย โดยอีกหนึ่งทีมก็คือ บาร์เซโลน่า เกมนี้จึงเต็มไปด้วยความหมาย และรับประกันความมันส์ที่แฟนบอลทั่วโลกไม่ควรพลาด
โดยแชมป์เก่าอย่าง มาดริด กำลังพยายามไล่กดดัน บาร์ซ่า ในการลุ้นป้องกันแชมป์ ขณะที่ บิลเบา ก็กำลังขับเคี่ยวแย่งพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก การพบกันครั้งนี้ของทั้งสองทีมจึงถูกคาดหวังว่าจะเร้าใจไม่แพ้ทุกครั้งที่ผ่านมา
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Sun Apr 20, 2025 17:51, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ