รอดูกระทู้

"ผมผ่านการทดลองงาน ได้งานประจำทำแล้วครับ"



ทุกคนจะภูมิใจในตัว จขกท.มาก รวมถึงคุณแม่ด้วย ตัวคุณเองด้วย

ผมไม่ทันได้อ่านก่อนท่านลบข้อความไปนะครับ เคยอ่านตอนท่านรีวิวพวกไปร้านอาหารกับแม่ละผมชอบนะ เขียนได้น่ารักดี

ที่ตามอ่านมา ผมเข้าใจว่าท่านกับแม่น่าจะใช้บำนาญในการเลี้ยงชีพ ผมไม่ได้เก่งอะไร แต่อยากให้ท่านตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง
โดยสมมติว่าแม่ท่านไม่อยู่ ต้องหารายได้เอง เพียงพอกับการใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียว และมีเงินเก็บสำหรับยังชีพไว้อย่างน้อย 2-3 เดือน (กรณีฉุกเฉิน) ผมคิดว่าถ้าท่านมีเป้าหมาย อาจจะมีแรงพอที่จะลงมือทำ เพราะจากที่อ่าน ถ้าเป็นเรื่องที่สนใจ ท่านก็ทำได้ดี

มาไม่ทันอ่านเนื้อหาแต่เหมือนๆตามสรุปในคอมเม้นที่ผมเข้าใจคือ

- เอาเงินไปซื้อคอมแพงๆ แรงๆ เล่นเกม ราคา 1 แสน เพื่อมาเล่นเกม

- แต่ที่บ้านมีหนี้อยู่ ค่าใช้จ่ายไม่พอใช้รายเดือน

- รายได้มาจากเงินเกษียณของแม่ กับเงินที่พ่อเสียชีวิต

- แม่ที่ป่วยเลยยังต้องทำงาน แต่ท่านไม่ได้ทำงานอะไรอยู่บ้านเฉย

เป็นแบบนี้เป้ะๆเลยเหรอครับ? ถ้าเป็นแบบนี้คอมเม้นฝั่ง pantip ไม่แปลกนะ น่าจะแปลกกับคอมเม้นฝั่งบอร์ดเราแล้วละ ทำไมถึงเห็นต่างได้ละนั้น(ไม่ได้อ่านกะทู้ใน ss ที)

ตอนแรกผมเข้าใจ จขกท ว่าไม่ได้ทำงานเพราะอยู่บ้านดูแลแม่ที่ป่วย แต่ก็มีรายได้เพียงพอซะอีก แบบก็อยู่แบบนี้ดูแลคุณแม่ได้สบายๆ อาจจะต้องมีประหยัดเรื่องกินอะไรสักหน่อย ไม่คิดว่าจริงๆจะหนักขนาดนี้แฮะ

edit ตามไปอ่านคอมเม้นกะทู้ใน ss ละ เหมือนจะคุยกันเรื่องคอมซะทั้งหมด ท่านตั้งกะทู้เหมือนกันทั้ง 2 ที่เลยเหรอครับ? งั้นสงสัยเนื้อหาจะยาวมาก ฝั่ง pantip คงอ่านหมด ส่วนฝั่งเราน่าจะอ่านผ่านๆละมั้ง

เรื่องส่วนตัวลงเฟซบุ๊คก็พอมั้ง ผมไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรที่เอาเรื่องส่วนตัวไปลงเว็บสาธารณะ ยิ่งเป็นเว็บบอร์ดใหญ่ ยังไงก็โดนคนวิจารณ์อยู่แล้ว

เนื้อหาเหมือนกันทุกอย่างครับ

ท่านต้องลองทำงานหาเงินเองครับ แล้วท่านจะเห็นคุณค่าของมัน กว่าจะได้แต่ละบาท ต้องทน ต้องลำบาก อดทนขนาดไหน ตอนนี้ท่านได้เงินที่มันมาเอง โดยท่านไม่ต้องลงมือลงแรงอะไร เงินจากการเสียชีวิตของพ่อ และเงินบำนาญของแม่ ท่านเลยดูว่ามันง่าย เดี๋ยวสิ้นเดือนเงินก้อนนี้ก็มา

แต่ถ้าท่านต้องตื่นเช้าออกไปทำงาน ขึ้นรถเมล์ไป กลับถึงบ้านหกโมงเย็น ทำงานแบบนี้ 6 วัน/สัปดาห์ 1 เดือนเงินออก 1 ครั้ง ถ้าจะเห็นคุณค่ามันมาก มากจนระวังการใช้เงิน อาจจะตั้งเป้าหมายเก็บเดือนละ 5000 บาท 12 เดือน ได้ยอด 60,000 บาท พอเก็บได้ครบเพื่อซื้อคอมตัวนี้ แต่วันนั้นท่านอาจจะเปลี่ยนใจไม่เอาคอมราคา 60,000 ก็ได้ อาจจะซื้อราคาสักครึ่งนึง แล้วเก็บเงินต่อไป

ผมมองว่าท่านไม่เห็นคุณค่าของเงินนี่แหละ ลองนึกภาพว่าพ่อแม่ท่านลำบากแค่ไหนส่งท่านเรียนจนจบ เรียนม.รังสิต+อยู่หอนอก แล้วไม่จบใน 4 ปี แค่นี้ก็งานหยาบแล้วครับ กู้หนี้ยืมสินส่งท่านเรียน จบมาแล้วเป็น 10 ปี ไม่หางานทำเป็นหลักแหล่งอีก แทนที่จะรีบทำงานหาเงินมาใช้หนี้ให้ครอบครัว และยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เก็บเงินสร้างความมั่นคงในชีวิต กลับกลายมาใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายโดยไม่ใช่เงินตัวเองที่หามาได้ อย่างน้อยก็ควรเอาเงินก้อนนี้ซ่อมแซมบ้านปิดช่องที่แมวจรเข้าบ้านมารบกวนแม่ก่อนนะครับ

สุดท้ายผมก็หวังว่าคอมเครื่องนี้จะสามารถต่อยอดให้ท่านได้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาบ้างนะครับ ภาวนาอย่าให้มันสูญเปล่าเลย อะไรที่ทำแล้วย้อนกลับไม่ได้ เดินหน้าต่อไปครับ หวังว่าท่านจะฉุกคิดได้บ้างนะครับ

ขอบคุณ จขกท ครับ กระทู้นี้มีประโยชน์มากสำหรับผม

- ประเด็นไม่ใช่ราคาสินค้าที่แพง แต่เป็นเรื่องที่มาของเงิน และการเสียโอกาสที่จะเอาเงินก้อนใหญ่ไปใช้ในเรื่องที่เร่งด่วนกว่าเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของครอบครัว

- ซื้อคอมมาแล้วก็เอามาเล่นให้สนุกครับ แต่อย่าลืมข้ออ้างที่ว่าเอามาผ่อนคลายจะได้ดูแลแม่ได้ดีขึ้น ก็คือต้องลิมิตเวลาเล่นให้ดี เพราะเมื่อติดเกมไหนยาวๆแล้วเวลาที่จะอยู่กับแม่ก็จะลดลงแน่นอนเพราะถูกแบ่งเอาไปเล่นเกมด้วย เผลอๆถ้าติดมากแล้วแม่ทักว่าติดเกมท่านอาจจะเผลอพูดจาไม่ดีเถียงใส่แม่โดยไม่รู้ตัว ยิ่งทำให้เสียหายเข้าไปใหญ่

- ทำให้ผมที่ช่วงนี้ผลาญเงินแบบผิดพลาดเหมือนกัน เหมือนมีคนมาดึงสติให้กลับมาจริงจังกับการหารายได้ได้แล้ว

ผมขอกล่าวถึง จขกท 2 เรื่องครับ เรื่องที่ชื่นชมมากเลยก็คือ จขกท ควบคุมอารมณ์ และรับมือกับคำติติงได้ดี ไม่มีอารมณ์ร้อน และนำคำแนะนำมาใช้ได้ดี เรื่องเงินคนอื่นพูดเยอะแล้ว ผมขอให้คำแนะนำ 2 เรื่องนะครับ ที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับท่าน

-การดูแลผู้ป่วย อัลไซเมอร์

จากที่ผมได้ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์มาระดับนึง ไม่เยอะครับสัก 10 เคสได้ ความยากลำบากและความเครียดของผู้ดูแล จะสูงขึ้นเรื่อยๆตามระดับของโรคที่แย่ลง

-ความยากของโรคนี้คือ ท่านกำลังอยู่ผู้สูงอายุ ที่พัฒนาการถอยหลัง ท่านนึกภาพ เราเลี้ยงเด็กทารก 1 คน เด็กมันจะโตขึ้นเรื่อยๆใช่มั้ยครับ การดูแลของเราที่มีกับเขามันจะน้อยลง จนสุดท้ายเขาก็จะช่วยเหลือตัวเองได้ แต่โรค อัลไซเมอ มันย้อนกลับ คือ ท่านดูแลคุณแม่ไป คุณแม่ท่านอาการจะจค่อยๆเสื่อมลงตามอายุ

-ผมแนะนำพาคุณแม่ไปตรวจครับ เพราะท่านอายุเลข 3 คุณแม่อายุน่าจะ 60-70 กว่าๆ ซึ่งปกติคนอายุเท่านี้อาการไม่จะหนักเท่านี้ครับ ถ้าฟังจากที่ท่านเล่าอย่างเดียว ถือว่าอาการแย่ลงเร็ว ควรตรวจหาสาเหตุที่แก้ไขได้ก่อนครับ ยกตัวอย่าง เช่นภาวะ non obstructive hydrocephalus หรือเช่นโรค parkinson plus syndrome หรืออาจจะขาด vitamin บางชนิดได้ ถ้าตรวจพบและแก้ไข จะทำให้ โรคดำเนินช้าลง แต่ถ้าตรวจไม่พบอะไร ก็ถือได้ว่าหาสาเหตุแล้ว เป็นไปตามมาตราฐานการรักษาครับ

ตรงนี้ถ้าท่านสนใจหรืออยากอ่านวิธีการดูแลผู้ป่วย ลองพิมหาผมใน inbox ละกันผมจะส่งให้ แต่ต้องบอกก่อนว่าผมแนะนำเสมอว่าพาไปตรวจกับแพทย์ระบบประสาทโดยตรงจะดีกว่า โรคพวกนี้ต้องการประเมินที่ละเอียดมากครับ

เรื่องที่สอง การดูแลตัวท่านเอง
-ท่านควร ดูแลความเครียดตัวเองให้เป็น ในทางจิตวิทยา เวลาคนเราเครียด มันจะมีการตอบสนองแตกต่างกัน บางคนออกกำลังกาย บางคนนั่งสมาธิ ของท่านก็คงหาเกมเล่น ซึ่งเป็นงานอดิเรก ที่เข้าใจได้นะครับ เชื่อว่าคนในบอร์ดหลายๆคนก็เป็น ท่านไปติดตรง ตรงซื้อคอมแพงเกินไป ตัวผมเองก็เคยเป็น ยกตัวอย่างเช่นซื้อมือถือรุ่นใหม่มาเล่น rov

-ส่วนตัวผมใช้กฏ 10/10/10 ตอนที่กำลังจะซื้ออะไรให้เลื่อนไปก่อน 10 นาทีแล้วไปนั่งทบทวนความจำเป็นของมัน หลังจากนั้น ผ่านไปถ้ากำลังจะซื้ออีก ให้ เลื่อนไปอีก 10 วัน แล้วนั่งคิดใหม่ แล้วเลื่อนไปอีก 10 สัปดาห์ ถ้ายังอยากได้อีก ผมก็ซื้อครับ นั่งคิดถึงมันไม่ไหวละ

โดยส่วนตัวผมใช้กฏนี้ จากที่อยากได้คอมแพงๆ หรือ อะไรที่ดูบริโภคเกินความจำเป็น มีศัพท์ภาษาอังกฤษเรียกด้วยนะครับ เรียกว่า conspicuous consumption (เป็นกลยุทธ์ทาง marketing ล่อให้เราซื้อของมากขึ้นเกินความจำเป็น) ผมยกตัวอย่างเช่น เวลาเราไปซื้อหรือรับบริการอะไร มันก็จะมีระดับเช่น basic advance premium ซึ่งคนจะตอบสนองแบบ ทำไม กุต้อง เบสิควะ ระดับกุต้องขอ advance หรือ premium ไปเลยดิ เพิ่มอีกนิดหน่อยจะเป็นไรไป คือถ้านั่งพิจารณาดีๆ แค่ advance หรือ basic มันก็พอทำอะไรเท่าที่เราอยากได้แล้วละครับ

-ส่วนอีกเรื่องก็คือ ผมก็มีเพื่อนที่ฟุ่มเฟือยมาก แต่มันหาตังได้เยอะ เพราะฉะนั้น ถ้าท่านอยากหาความหรูหราหรืออยากหาความสำราญในชีวิต ท่านต้องพัฒนาสกิลในการหาเงินของท่านครับ แต่ต้องระวังอย่าไปทำผิดกฏหมายหรือสีเทานะครับ

แล้วเม้นแรกในมู้นี้ ก็ไปแซะคนพันทิปด้วยนะ อย่างขำ

ตอบดีครับ

if you were in my shoes

การดูแลผู้ช่วยสมองเสื่อม เป็นโรคเดียวที่ไม่อยากพบเจอเลย ทั้งตัวเอง ทั้งคนใกล้ตัว

เหมือนการใช้เวลาที่ผ่านมาร่วมกันมันว่างเปล่า กลายเป็นคนแปลกหน้ากันซะงั้น

การดูแลใกล้ชิดก็สำคัญ การดูแลจิตใจตัวเองก็สำคัญ โอกาสของเราที่สละไปเพื่อดูแลคนป่วย

ตอนนี้ที่ควรทำคือจัดการ เรื่องผู้ป่วยการใส่ tag การปรับสภาพแวดล้อมถึงเก่าแต่มันต้องสะอาด

สุขอนามัยจะดีขึ้น แล้วจิตใจเราจะเบิกบานขึ้น

อะไรที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ คอมที่ซื้อมาต้องทำอะไรได้มากกว่าเล่นเกมเยียวยาจิตใจ

ต้องคิดว่ามันคือการลงทุน หาทางสร้างรายได้จากมันให้ได้

เพราะเงื่อนไขในการทำงานหาเงินของท่านมันมีเงื่อนไขเรื่องดูแลคนป่วยด้วย

สุดท้าย ทำลิสท์ ว่าต้องจัดการอะไรก่อนหลัง ต้องดูแลสุขภาพตัวเอง ถ้าท่านล้มอีกคน ใครจะดูแลแม่ ทุกอย่างจบเลย

ปล.ผมไม่ชอบไปเก่งกับชีวิตคนอื่น ตั้งแต่เรื่องลดน้ำหนัก แคสท์เกม ทำงานงานอะไรล่ะ ผมตีค่าท่านเป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ผมก็ไม่สนใจอะไรท่าน ชีวิตใครชีวิตมัน

แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยน มีสิ่งที่ท่านทำได้อยู่คนเดียว และอะไรที่ไม่เคยทำก็ต้องทำ

เป็นกำลังใจให้ครับ

ปีที่แล้วผมพาแม่ไปหาหมอจิตแพทย์มาครับ แล้วก็โดนส่งให้สแกนสมอง MRI มาแล้วครับ หมอบอกว่ายังไม่เจออัลไซเมอร์ มีปัญหาเรื่องเส้นเลือด และสมองเสื่อม

จะพิมพ์เรียบเรียงดี จะควบคุมอารมณ์ดีไปก็เท่านั้น ถ้าอายุ 30 แล้วยังไม่เคยหรือพยายามหางานทำจริงจัง คุณอย่าทำตัว loser มากดิ ซื้อของตอบสนองอารมณ์ตัวเองได้ แต่ไม่ใช่ในกรณีสถานะที่คุณเป็นอยู่อย่างนี้ ไม่งั้นอนาคตคุณจะไม่เหลืออะไร กลายเป็นคนอนาถาคนนึงนะ (ทุกวันนี้ก็คล้ายอยู่ล่ะ) กระตุ้นตัวเองหน่อย เปลี่ยนแปลงตัวเอง ก้าวออกมาจาก comfort zone และเลิกขี้เกียจซะ

ถ้าเป็นผมๆ ขอคืนคอม หรือเอาไปขาย อย่างน้อยได้มาสัก 60-70% ก็ยังดี เอาเงินไปต่อยอดเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมดีกว่า

คอมซื้อ mbp m1 used หมื่นนึง เพื่อใช้ทำงาน ดูเว็บก็เพียงพอแล้ว