#SSxLaLiga | แอธเลติก บิลเบา ยอดทีมจากแคว้นบาสก์ เริ่มต้นฤดูกาลนี้ได้อย่างยากลำบาก แต่เมื่อทุกอย่างลงตัว ฟอร์มการเล่นก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คว้าชัยในลาลีกามาแล้ว 4 เกมติดต่อกัน พร้อมยึดท็อปโฟร์เหนียวแน่น

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “โลส เลโอเนส” เปิดซาน มาเมส เอาชนะบียาร์เรอัล 2 - 0 ไอตอร์ ปาเรเดส และอินญากี้ วิลเลียมส์ ยิงคนละ 1 ประตู ทำให้ทีมของเอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ มีเพิ่มเป็น 32 คะแนน ยังรั้งอันดับที่ 4 ต่อไป

ชัยชนะเหนือบียาร์เรอัลในเกมล่าสุด ทำให้บิลเบา ทิ้งห่าง “เยลโล่ ซับมารีน” 6 แต้ม แม้จะลงเตะมากกว่าอยู่ 2 เกม แต่ก็ถือว่ามีความหมายสุดๆ เพราะเป็นการตัดแต้มทีมที่เป็นคู่แข่งโดยตรงในการลุ้นพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก

พ่ายแพ้เพียงเกมเดียว ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา

แอธเลติก บิลเบา ออกสตาร์ทลาลีกา ฤดูกาลนี้ แพ้ 2 จาก 4 เกมแรก เก็บได้แค่ 4 คะแนน แต่อีก 13 เกม ในช่วงเวลา 3 เดือนหลังจากนั้น “โลส เลโอเนส” ปราชัยเพียงเกมเดียวในการไปเยือนจีโรน่า 1 - 2 เมื่อเดือนตุลาคม

หากนับเฉพาะ 8 เกมหลังสุดในลีก บิลเบาไม่แพ้ใคร (ชนะ 5 เสมอ 3) และพวกเขายังมีอีก 6 แต้มให้ลุ้นใน 2 เกมสุดท้ายของปี 2024 ในการไปเยือนอลาเบส วันที่ 15 ธันวาคม ต่อด้วยไปเยือนโอซาซูน่าในอีก 6 วันถัดมา

นักเตะบิลเบาที่ติดท็อป 3 ดาวซัลโวของสโมสร ยิงประตูในลีกรวมกัน 15 ประตู จากทั้งหมด 26 ประตู (คิดเป็น 57 เปอร์เซ็นต์) เป็นของออยอาน ซานเซ็ต 7 ลูก รวมถึงอินญากี้ วิลเลียมส์ และกอร์ก้า กูรูเซต้า อีกคนละ 4 ลูก

‘ตราหมี’ ทีมเดียวที่ชนะในบ้านบิลเบา ตลอดปี 2024

แอธเลติก บิลเบา แพ้คาสนามซาน มาเมส เพียงเกมเดียวในทุกรายการตลอดทั้งปี 2024 นั่นคือเกมที่ปราชัยให้กับแอตเลติโก้ มาดริด 0 - 1 ในศึกลาลีกา เมื่อเดือนสิงหาคม โดยเสียประตูให้กับตราหมีในนาทีที่ 90+2

สำหรับฤดูกาล 2024/25 บิลเบาเล่นเกมลีกในบ้านไปแล้ว 10 นัด ชนะ 6 เสมอ 3 และแพ้ 1 เก็บได้ 21 คะแนน เทียบเท่ากับเรอัล มาดริด ที่ชนะ 7 จาก 8 เกมลีกที่ลงเล่นในบ้าน และแพ้เพียง 1 เกม ให้กับบาร์เซโลน่า

อย่างไรก็ตาม เกมกับบียาร์เรอัลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการลงเตะที่ซาน มาเมสเป็นเกมสุดท้ายของบิลเบาในปีนี้ และจะได้กลับมาเล่นในบ้านตัวเองอีกครั้ง ในเกมที่พบกับเลกาเนส ช่วงปลายเดือนมกราคม 2025

ด้วยฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงของนักเตะเกมรุก อีกทั้งผลงานที่ยอดเยี่ยมยามเล่นในบ้าน ทำให้สถานการณ์การลุ้นอันดับ 4 ของแอธเลติก บิลเบา ผ่อนคลายมากขึ้น และเข้าใกล้ตั๋วลุยถ้วยใหญ่สุดของยุโรปไปอีกขั้น

ฟอร์มดีจนติดทีมชาติไปหลายคนเลย

ดานี่ วิเวียน (25)
ไอตอร์ ปาเรเดส (24)
โอยัน ซันเซต (24)
นิโก้ วิลเลี่ยมส์ (24)

และคาดว่าอีกไม่นาน กอร์ก้า กูรูเซต้า (28) ก็น่าจะติดทีมชาติอีกคน นอกเหนือจาก อัลบาโร่ โมราต้า (32) แล้ว กองหน้าสไตล์นี้ มีตัวเลือกแค่ ซามู โอโมโรดิออน (20) กองหน้าดาวรุ่งจากปอร์โต้ที่เพิ่งถูกเรียกตัวติดทีมชาติ และ กอร์ก้า กูรูเซต้า (28) ที่ฟอร์มดีกับบิลเบาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว

ส่วนคนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ อูไน ซิม่อน (27) อดีตมือหนึ่งทีมชาติสเปน และสโมสร ตอนนี้หลุดทีมชาติไปแล้ว แถมโดนรุ่นน้องร่วมสโมสร ฆูเลน อกิร์เรซาบาล่า (23) ยึดมือหนึ่งของทีมอีกต่างหาก