ซ้อเริ่มต้น gucci
ซ้อระดับกลาง chanel , goyard
ซ้อขั้นสูง hermes

เอ้า เข้าถึงทุกตลาด

การประมวลผลของกลุ่มนี้ สายตาจะตรวจจับได้ไวแล้วประมวลไปสู่ระบบความคิดในความงดงามกับภาพที่เห็นคือ

จะชอบลายๆ เยอะๆ สีๆ ยกตัวอย่างเช่น รอยสักของกลุ่มนี้,ราชรถ ทำสี+สีล้อ+สีเบรค+สีสติ้กเกอร์ จะผสมปนเปคนทิศทาง ประหนึ่งว่ามากันครบทั้งกล่องสีไม้ตราม้า ยิ่งสวมองค์เครื่องประทับยูนิฟอร์มเหมือนดั่งถาดสีผสมจิตรกรดังแวนโก๊ะ แต่สุดท้ายแล้วจะดึงศูนย์รวมจิตใจไว้ที่สร้อยทองเส้นโตๆ ซุกหลวงพ่อนั่นหลวงพ่อนี่ไว้ตรงซอกนมเป็นอันเสร็จพิธี

ดังนั้นดีไซน์กุ๊ดจี่นี่ตอบโจทย์เบยฮะ รุ่นไหนลายเยอะๆ สีเยอะๆ รวมกันเหมือนถาดสีแวนโก๊ะ คือสิ่งสวยงามของชาว…ทั้งหลาย

ของแทร่แน่นอน

เมื่อวานไปหาหมอ ทีนี้เจอคนใส่เสื้อวัยรุ่นสร้างตัว

พอดีมีคนโทรมา ทำเป็นส่งเสียงดัง "เนี่ยรอยามาเป็น ชม. ละ"

จังหวะพยาบาลก็เอาเอกสารมาให้ไปรับยาชั้นล่าง เดินบ่นเสียงดังก่อนลงไป "รอมาเป็น ชม.ละ"

พยาบาลก็ทำหน้าเนือยๆ ผมก็ได้แต่มอง อะไรของมันวะ

เข้าใจแหละรอนาน แต่เมิงควรเดินไปถามที่เคาเตอร์ไหม

สิทธิ์ประกันสังคมคนก็เยอะธรรมดา สงสารพยาบาล วันๆต้องมาเจออะไรแบบนี้

ไม่รู้เน้นไปคุ้ยตลาดปัถวิกรณ์

มันเป็นความตั้งใจของ Gucci ครับที่อยากมาจับตลาดนี้ซึ่งทำได้ดีซะด้วยนะครับในช่วงแรกแต่เริ่มเสียในระยะยาว

เคยดูบทวิเคราะห์ของ Bloomberg อยู่ครับ การที่ Gucci ลงมาเล่นตลาดคนไม่รวย ช่วยทำให้รายได้เติบโตพีคอยู่ช่วงโควิด เห็นได้จากการทำการตลาด Collab กับแบรนด์ที่ค่อนข้างใกล้ตัวคนทั่วไปมากๆ เช่น The Simpson, Doraemon

แต่พอหลังโควิดแล้วหุ้นตกยาวๆ เพราะว่าภาพลักษณ์ความพรีเมียมหายไปกลายเป็นสินค้าแฟชั่นกระแสทำให้กลุ่มคนมีเงินจริงๆ ไม่ค่อยอยากซื้อแล้ว (เหมือนที่เจ้าของมู้ถามว่าทำไมภาพลักษณ์มันดูเป็นแบบนั้น)

ต่างจาก Louis Vitton, Hermes ที่เน้นทำตลาดในฐานะสินค้าแบรนด์เนมคลาสสิกมากกว่า
สำหรับ Gucci พอความคลาสสิกหายไป ทำให้ไม่มีสินค้ายืนระยะที่ขายได้ตลอด

คงต้องมาดูว่าหลังจากนี้ Gucci จะเอายังไงต่อกับภาพลักษณ์นี้

Goyard อย่าเอาไปรวมเลยครับ (ของแท้)

ของปลอมดูได้ตาเปล่าง่ายๆ แค่มีแสงสะท้อนชัด ๆ 555