ตั้งท้อง 7 Weeks คิดไม่ออกว่าจะเลี้ยงลูกยังไงให้เป็นคนดี ไม่เกเร เอาเรียนหน่อย

ถ้าเป็นผู้หญิงไม่ค่อยน่าห่วง ถ้าเป็นผู้ชายกลัวมันเป็นแบบผม คือการเรียนแมร่งไม่เอาเลย เกเร ติดเกมส์ ติดเพื่อน ค่อนข้างแสบ พ่อแม่ปวดหัวบ่อยเลย แต่ไม่ถึงกับแย่นะ ยังอยู่กรอบเรียนจบปกติ สังคมโอเคในระดับนึง แค่เรียนกากมากๆ

คือนึกย้อนไปตัวผมมันเป็นที่ผมเองล้วนๆ พ่อแม่ก็เลี้ยงดีทุกอย่างนะ หรือต้องลุ้นอยู่ที่ตัวลูกเองครับ กับสังคม

หรือควรกัดฟันจ่ายเงินหนักๆให้ลูกเรียนโรงเรียนสองภาษาดีครับ แพงแต่น่าจะคุ้ม


ปล. ต่างจังหวัดนะ

เด็กเเต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่ต้องเชื่อทฤษฏีจากโค้ชในติ๊กต่อกให้มาก เเค่ฟังเเล้วเอามาปรับใช้ก็พอครับ

อ่าน เพจหมอประเสริฐ ครับ

เวลาสำคัญมากๆ หาเวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุดเดียวก็มีอะไรสนุกทำ
ยินดีด้วย

ตอบยาก เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลูกผม 2 คน นิสัยต่างกัน การเลี้ยงก็ต่างกัน
ผมว่าเอาประสบการณ์เราไปสอนลูกได้ครับ ผมลูกสาวทั้ง 2 ยังนึกไม่ออกเลยว่าถ้าโตไปจะเป็นยังไง ก็ได้แต่ห่วงแหละ
เคี่ยวมากเด็กก็อาจแอนตี้ ไม่ดูเลยเด็กก็เตลิด เอาว่าทางสายกลางละกันครับ

เด็กซึมซับจากผู้ปกครองทั้งด้านการใช้ชีวิต การเรียนรู้ และการใช้ภาษาค่ะ

การใช้ชีวิต
พ่อ-แม่ เล่นมือถือระหว่างกินข้าวไหม จะไปส่งเสริมสมาธิสั้นให้กับลูก
หรือพ่อ-แม่ ออกจากบ้านเข้าแต่สังคม ปล่อยให้ ปู่ย่าตายายเลี้ยง ไม่กลับมาหาลูกบ้าง ทำให้ลูกมีนิสัยไม่อยู่บ้านตาม เพราะปู่ย่าตายายไม่ว่างคุมเข้ม
พ่อแม่สปอยลูกใช้จ่ายฟุ้มเฟือยไหม สอนให้รู้จักคุณค่าของเงินหรือเปล่า

การเรียน
พ่อ-แม่ได้สอนอะไรลูกบ้างไหม หรือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครูอย่างเดียว
พ่อ-แม่หลายคนเรียนจบสูงกว่าครู แต่ไม่เคยสอนการบ้านลูกเลย
เมื่อพาไปเรียนพิเศษได้อยู่เฝ้าดูแลลูกไหม หรือทิ้งไว้แล้วตัวเองไปทำธุระ

การใช้ภาษา เช่นภาษาอังกฤษ
พ่อและแม่ต้องใช้ให้เป็นตัวอย่าง หรือไม่ใครซักคนใช้ เช่นแม่พูดไทย พ่อพูดอังกฤษ ให้ลูกเข้าใจตั้งแต่ยังพูดไม่ได้
ถ้าสอนเองไม่ได้ ต้องระวัง เพราะต้องให้ลูกอยู่กับสื่ออย่างรายการทีวีและเกม เมื่อลูกไม่ได้ถูกชี้นำโดยผู้ปกครอง ลูกจะฟังคนอื่นมากกว่า

เอาง่ายๆครับ พ่อแม่ คือครูคนแรก ลูกเค้าก็จะทำตามตัวอย่างแรกที่เค้าเห็นคือพ่อแม่
พื้นฐานนิสัยใจคอ ก็จะได้จาก พ่อและแม่ สัดส่วนบอกไม่ได้

พ่อและแม่ ล้วนมีด้านที่ดี และด้านที่ไม่ดี

ลูกคนที่เอาข้อเสีย ของพ่อและแม่ มารวมกัน ก็จะต้องบอกว่าโชคร้าย
ลูกที่เอาด้านดี ของพ่อและแม่มา มารวมกัน ก็ต้องบอกว่าโชคดี
(ถ้าพ่อแม่ แทบไม่มีอะไรดีเลย กรรมของเด็กมัน)

คุณควบคุมอะไรได้บ้าง
คุณต้องพิจารณาตัวเองนี่แหละ ว่าอะไรเป็นนิสัยเสียๆ ขอคุณและภรรยา ก็ต้องพยายามข่มมันเอาไว้
พูดง่ายๆคือ พอมีลูกแล้ว คุณต้องพยายามพัฒนานิสัยตัวเองด้วยนั้นแหละ ให้เป็นคนที่ดีขึ้น เป็น role model ของลูกๆ

อันนี้ด้านนิสัย

ส่วนด้านโภชนาการอันนี้ผมไม่ห่วง ผมว่าคุณเล่นเน็ตได้ ก็น่าจะหาข้อมูลเสพได้เยอะ

ผมคงแนะนำประมาณนี้ก่อนครับ

เป็นตัวอย่างให้ลูกดูครับ ยกตัวอย่าง อยากให้ลูกพูดสุภาพ อยากให้ลูกใจเย็นไม่หัวร้อน พ่อแม่ก็ต้องทำให้ลูกเห็นเป็นปกติ อย่าหลุดบ่อย ถ้าหลุดก็ต้องมีเหตุผลเพียงพอ หลุดแล้วหยุดให้ไว หรือ อยากให้ลูกสนใจเรียน พ่อแม่ต้องแสดงความสนใจ ตั้งคำถาม หาคำตอบให้กับเรื่องรอบตัว เช่นการฟังเพลง ดูการ์ตูน หรืออ่านนิทาน ก็พยายามตั้งใจทำสิ่งที่กำลังทำอยู่ ถัามีตรงไหนยาก จำไม่ได้ ก็ต้องทบทวน หาคำตอบให้ตัวเองให้ได้ อย่าปล่อยผ่านอะไรง่ายๆบ่อยๆ ลูกจะซึมซับนิสัยพวกนี้ไปเองครับ

https://www.tiktok.com/@phan55337788

ดูจากช่องนี้เลยครับผม

โรงเรียนวัดแถวบ้านผมค่าเทมอประถม 20K มัธยม 40K แต่ส่วนตัวไม่บังคับนะผมมีลูกหลายคนอยากไปเรียนทางให้ก็ไปเลยเลือกไปเองเลย อยากไปภาษาไปภาษา อยากไปดนตรีไป อยากไปกีฬาไป
ผมไปเน้นเรื่องการใช้ชีวตในสังคม ความรับผิดชอบต่อสังคม ความรับผิดชอบชั่วดีพื้นฐาน วินัย ความซื่อสัตย์ คุณธรรม มากกว่า
เรื่องเรียนก็ขอแค่จบตรีพอจะสาขาให้ก็แล้วแต่เลยเอาที่ชอบ ใครอยากไปไกลกว่านี้ก็ไม่ติด ลองดูเป็นแนวทางครับ

ผมเลี้ยงลูกเองแทบจะ 100%

ตอนตั้งท้องผมให้แฟนฟังเพลงโมสาร์ททุกคืน

แล้วก็เริ่มศึกษาจากเพจ(เยอะมาก)

พอคลอดออกมาแล้ว เด็กอ่อนความสะอาดสำคัญที่สุด

แล้วก่อนนอนทุกครั้งผมก็ให้ฟังโมสาร์ท วันนึงนอนหลายเวลามากเมื่อยังเล็ก

ที่สำคัญที่สุดคือนมครับ ถ้าแม่มีน้ำนมกินน้ำนม

ถ้าไม่มีน้ำนมศึกษานมผงจากถูก>แพง (แนะนำ)

ผมลองซื้อแพง>ถูกแล้วสุดท้ายลูกถูกกับนมผงที่ราคาถูก

สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ให้ไปทีละสเตปครับ ไม่ต้องรีบร้อน

และที่สำคัญเมื่อลูกเริ่มจดจำ ท่านและคนรอบตัวต้องใจเย็นมากๆ

ผมเชื่อว่าเด็กจะมีความฉลาดเมื่อตอนเล็กๆพักผ่อนได้เพียงพอ

และก็มีสิ่งเสริมต่างๆเช่น เพลงกล่อมเด็ก ของเล่นเสริมทักษะ(บล็อคไม้)

ส่วนนิสัยจะเริ่มเห็นเด่นชัดเมื่อเข้าโรงเรียนถึงตอนนั้นอยู่ที่ผู้เลี้ยงแล้วครับ

ส่วนตัว ก็หาความรู้จาก เน็ต จาก หนังสือ(หมอประเสริฐ)เนี่ยแหละครับ

ขอบอกเลยว่า มันต้องเอาไปประยุกต์เอง เพราะ แต่ละคน แต่ละบ้านไม่เหมือนกัน

เราอยากเลี้ยงแบบนี้ แต่ที่บ้านอยากเลี้ยงอีกแบบนึง นี่คืออีกหนึ่งปัญหา

อดทน แล้วค่อยๆ ทำไป ช่วยกันกับแฟน ทำ2คน มันจะสบายใจ สบายกายกว่าทำคนเดียวนะ

คิดซะว่า เหนื่อย ตอนนี้ วางรากฐานไว้ เดว 3 ขวบขึ้นไป จะสบายขึ้นครับ

ลูกจะดีได้ 2 ทาง
1 เห็นพ่อแม่ดี เป็นแบบอย่าง เช่นพูดเพราะ ลูกก็พูดเพราะ
2 ดีด้วยตัวเอง แม้คนรอบข้างจะแย่แค่ไหน
ที่สำคัญต้องให้เวลามากๆ กอด หอม ชม สอน

เด็กไม่เกิน 3 ขวบ ตีได้ เค้ายังจำไม่ได้ สอนให้รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ถ้าโตกว่านั้นไม่ควรตีแล้ว สมองเค้าจำได้แล้ว เดี๋ยวเป็นปม
ตอนลูกเล็กๆ แทบจะ 100% มาจากครอบครัว
สอนให้กล้าแสดงออกแบบฝรั่ง
สอนให้เป็นระเบียบแบบญี่ปุ่น
สอนให้นิสัยเป็นแบบไทย

หนังชีวิต ค่อยๆตบกันไป

ปรึกษาหมอไว้ก่อน พวกเฮดโคช ความเชื่อครั้งเก่าก่อน ฟังหูไว้หู เอามาปรับใช้กับลูกเรา ต่อให้ทฤษฎีจะเป๊ะ ขนาดไหน ผมเชื่อว่าลูกเรา DNAเรา ส่งผลให้เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันแน่ หมั่นสังเกตแล้วแก้ไขไป

สอนลูกได้ต้องทำให้ดูด้วยครับ ถ้าสอนแล้วไม่ทำผมจะไม่เชื่อเลย