แชมป์ยุโรปสมัยที่ 15: คว้าชัยด้วยการเล่นไพ่ในมือ และห้องแต่งตัวกลมเกลียวและกลมกล่อม
รูดม่านจบไปแล้วสำหรับบอลยุโรปฤดูกาล 2023/24 ที่เรอัล มาดริดคว้าแชมป์ UCL สมัยที่ 15 ตามความคาดหมายเหนือโบรัสเซียดอร์ทมุนด์ แต่การเป็นเจ้ายุโรปครั้งนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็นหากมองย้อนกลับไปจุดเริ่มต้น เครดิตทั้งหมด ต้องยกให้ คาร์โล อันเชลอตติ ทีมงานสต๊าฟ และผู้บริหารสโมสร ที่รับมือเงื่อนไขความท้าทายด้วย สองกลยุทธ์สำคัญคือ การเล่นไพ่ในมือที่มี(การให้โอกาสผู้เล่นสำรอง) และการหล่อหลอมห้องแต่งตัวที่มีคุณภาพสูงให้กลมกล่อมและกลมเกลียว
การเล่นไพ่ในมือที่มี(การให้โอกาสผู้เล่นสำรอง)
ฤดูกาลนี้ อุปสรรคการขาดหายของผู้เล่นถือว่าหนักหนามาก
- คาริม เบนเซม่า ย้ายออกจากทีม
- กูร์กตัวส์ มิลิเตา อลาบา 3 แกนหลัก เจ็บยาวทั้งฤดูกาลตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น
การแก้เกมในตลาดมีเพียง จู๊ด เบลลิงแฮมที่ซื้อมาอยู่แล้ว บราฮิม ดิอาซ กลับมาจากมิลาน และมีเพียง เกป้าที่เซ็นมาในตำแหน่งประตู ส่วนกองหน้า เป้าหมายอย่างฮาแวตซ์และเคนก็เลือกที่จะไม่ดำเนินการ ดอน คาร์โลจึงทำได้เพียงจัดการกับสิ่งที่มี อย่างแรกคือ
1. การปรับแทคติกจาก 4-3-3 มาเป็น 4-4-2 ไดมอนด์ และให้ Jude Bellingham มายืนเบอร์ 10 หลังคู่กองหน้า สิ่งนี้ส่งผลกระทบน้อยที่สุดต่อแกนหลักเดิมอย่าง โครส บัลเบเด้ ชูอาเมนี่ ที่ไม่ต้องถูกแทนที่ อีกทั้งยังรีดคุณพาพน้องจู๊ดให้ผลิตประตูได้มากมายอีกด้วย
2. การเชื่อมั่นในมือสองอย่างลูนิน แม้ช่วงต้นจะมีการสลับทดลองระหว่าง เกป้า และ ลูนิน แต่ให้โอกาสลูนินมากขึ้นก็ทำให้น้องมีเวทีในการโชว์ความนิ่งจนเป็นที่ยอมรับของแฟนบอล โดยเฉพาะการเซฟจุดโทษกับแมนซิตี้ เกป้าที่เป็นสำรองก็คอนซัพพอร์ทจากม้านั่งสำรอง ไม่รอจังหวะผิดพลาดเพื่อตัวเอง หรือการกลับมาของคูร์กตัวส์ในนัดชิงก็ไม่มีดราม่าใดๆ ต้องชื่นชมแผนกผู้รักษาประตูด้วยจริงฟ
3. การปรับเปลี่ยนหมุนเวียนตัวสำรองนอกตำแหน่งและเปลี่นผ่านผู้เล่นซีเนียร์
การดรอปโมดริชให้นั่งสำรองหลังพึ่งต่อสัญญา การใช้คามาวิงก้าเป็นแบ็คซ้ายและชูอาเมนี่เป็นเซนเตอร์หลายๆนัด การให้โอกาสบราฮิมจนได้ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือน และโฆเซลูที่สอดแทรกขึ้นมาเป็นฮีโร่ รวมถึงอาร์ดา กือแลร์ที่ได้ยิงประตูจากการลงเล่นท้ายฤดูกาล มีเพียงดานี่ เซบายอสคนเดียวเท่านั้นที่จะมีส่วนร่วมน้อยสุดในปีนี้(หลังพึ่งต่อสัญญาเหมือนกัน) เป็นศิลปะการบริหารผู้เล่นเชิงแทคติกที่ยอดเยี่ยม อย่างที่น้าแต้แกสัมภาษณ์ว่า มีโค้ชหลายคนบ่นนู่นนี่นั่นมากมาย แต่เขาก็เจอปัญหาเดียวกันเหมือนกัน
4. การบริหารห้องแต่งตัวที่เต็มไปด้วยเพชรเจิดจ้าให้กลายเป็นกลุ่มอัญมณีก้อนเดียว นี่คือปัจจัยสำคัญที่สุดของความสำเร็จ
มีตัวอย่างให้เห็นมากมายที่กลุ่มผู้เล่นดาวรุ่งหรือดาราเมื่อมารวมกันพร้อมปัญหาที่มากเรื่อง แต่ถ้าลองมองดูกลุ่มผู้เล่นชุดนี้ จะเห็นความกลมเกลียว ความเป็นครอบครัว(ที่ไม่ใช่แบบอุปถัมภ์ เอื้อพวกพ้อง ทำผิดแล้วให้อภัยแบบไร้เหตุผล) แต่คือมืออาชีพตัวท๊อปแต่ละตำแหน่งที่ให้เกียรติกัน ช่วยเหลือกัน ดูแลกัน เหมือนตัวอย่างภาพถ่ายกับแว่นกันแดดคามาวิงก้าทั้งทีม การมีซีเนียร์อย่าง โมดริช โครส
การ์บาคาล บาสเกวซ คอยดูแลแก๊งดาวรุ่งสุดเฟี้ยวอย่าง วินิ โรดริโก จู๊ด กามาวิงก้า ทำให้เห็นถึงความกลมเกลียวที่แข็งแรง สังเกตได้ว่าลูกทีมของคาร์เลตโต้ปีนี้ แทบไม่มีข่าวดราม่าเลยตลอดฤดูกาล ทั้งยังเห็นVibe นอกสนามเชิงบวกมากมายอีกด้วย
การสุกงอมของปัจจัยและสิ่งแวดล้อมในสโมสรราชันชุดขาวค่อยๆพลักดันให้เกิดผลงานชัยชนะทีละแมตช์ การฉายแสงของผู้เล่นอย่าง จู๊ด และ วินิ ที่พุ่งสูงขึ้นจนมีลุ้นบัลลงดอร์โดยแฟนบอล และการพลิกนรกนาทีสุดท้ายในหลายๆนัดจากความเชื่อหรือ DNA ของสโมสรที่เป็นมรดกส่งต่อมาจากรุ่น 5 แชมป์ครึ่งทศวรรษที่แล้วมาถึงเด็กชุดนี้
อนาคตที่น่าตื่นเต้นของเรอัล มาดริดยังขับเคลื่อนด้วยทัศนคติและค่านิยมว่าต้องดีที่สุด หลังจากพวกเค้าคว้าแชมป์ยุโรปได้คืนนั้น สิ่งที่ประธานเปเรซสัมภาษณ์คือการมุ่งสู่สมัยที่ 16 ต่อไป และด้วยการเข้ามาของโคตรสตาร์ Kylian Mbappe และดาวนุ่งอีกคนอย่าง Endrick จะเป็นยังไง จะสูงขึ้นหรือจุดเริ่มต้นของปัญหา น่าติดตามต่อไปจริงๆครับ