เมื่อคืนก่อน (คืนวันเสาร์) มีคนขับรถชนรถเพื่อนผมที่จอดริมถนนหน้าบ้าน(ฟุตบาททาสีขาวดำ คนจอดกันปกติ)แล้วหนีไปทิ้งไว้แค่ซากกันชนของรถที่มาชนซึ่งหลุดออกมาจากตัวรถ (กันชนสีขาว)

ตอนเช้าเพื่อนผมมาเห็นเลยดูกล้องวงจร พบว่าเหตุเกิดประมาณตี 3 รถคันที่ขับมาชน ชนแล้วกันชนหลุด ยางแตก แล้วขับบดยางหนีไปเลย เพื่อนเลยโพส FB ให้คนช่วยหารถต้องสงสัย (อยู่ต่างจังหวัดและเพื่อนเป็นที่รู้จักในจังหวัดมากพอสมควร)

ช่วงสายๆ เพื่อนเจอรถต้องสงสัยสีขาวจอดที่ลานจอดรถหน้าคอนโดนแห่งหนึ่งอยู่ติดห้างฯ (อยู่ต่างจังหวัดครับหาไม่ยาก) สภาพรถมีรอยชนชัดเจนบริเวณเดียวกับภาพในกล้องวงจรปิด กันชนหลุด ยางแตกและเหมือนขับบดยางมาไกลพอสมควร เพื่อนผมถาม รปภ. ว่ารถใคร รปภ. บอกของลูกบ้านคอนโด สภาพเจ้าของตอนกลับมาเหมือนคนเมาเอะอะโวยวายมาก แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เจ้าของไปไหนแล้ว

เพื่อนเลยแจ้งตำรวจ ให้ช่วยติดต่อเจ้าของรถ ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย

ตอนบ่าย มีทนายความโทรติดต่อมาว่าเป็นทนายของคนขับชนซึ่งเป็นหมอ ทนายไม่ยอมบอกทั้งชื่อและโรงพยาบาล แต่อ้างว่าเพิ่งลงเวรกะดึก กำลังขับรถกลับคอนโดแล้วชนกับรถเพื่อนผม หมอคนนั้นตกใจเลยรีบขับรถกลับคอนโด เช้าวันต่อมาก็นั่งเครื่องกลับบ้านที่กรุงเทพทันทีเพื่อหาทนายความแล้วติดต่อมาเจรจาเรื่องค่าเสียหาย

ผมฟังเรื่องที่เพื่อนผมเล่าแล้วโคตรหัวร้อนแทน แม่งแถซะขนาดนี้ ดีที่ไม่ไปชนคน

ที่ผมอยากจะสื่อคือ เมาไม่ขับนะครับ มันเป็นเรื่องที่โคตรจะไม่มีความรับผิดชอบเลย

- ตอนนี้ไม่น่าทันเพราะระดับแอลกอฮอล์ในเลือดน่าจะลดลง แต่ถ้าเกิน 50 มิลลกรัมเปอร์เซนต์ก็เมา แต่ถ้าไม่มีใบขับขี่ เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ก็เมาเช่นเดียวกัน
- นอกจากนั้นยังเป็นกรณีขับรถโดยประมาทหรือหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินผู้อื่น พ.ร.บ. จราจร พ.ศ. 2522 มาตรา 43(4), 157 ซึ่งถ้าคลิปจากกล้องวงจรปิดเห็นลักษณะรถผู้กระทำผิด ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีส่วนนี้ได้ (เอาไปกล่าวโทษ) เพราะความผิดฐานนี้ เพื่อนคุณไม่ใช่ผู้เสียหาย

- ส่วนทางแพ่งก็ว่ากันไป

ฝ่ายแรกก็ประมาท ที่ไปขับชนตูดเค้า

อีกฝ่ายที่จอดเฉยๆ ต้องพิจารณาว่า แม้จะเป็นถนนทางหน้าบ้าน ต้องพิจารณาว่าหน้าถนนที่จอดนั้น เป็นไหล่ทางสาธารณะหรือไม่ เป็นถนนที่คนส่วนใหญ่สัญจรเป็นทางสาธารณะเลยหรือไม่ หากเป็นไหล่ทางสาธารณะ ผู้จอดจะต้องมีการเปิดสัญญาณไฟเอาไว้ให้คนสัญจรไปมาในเวลากลางคืน มองเห็นได้ในระยะ 150 เมตร ก็เปฺ่นความผิดประมาทเช่นกัน

บางบ้านทีจอดหน้าบ้านตนเอง แต่หน้าบ้านเป็นไหล่ทางสาธารณะ จึงได้มีการนำไฟกะพริบมาติดหลังรถกันเยอะแยะ เพื่อป้องกันข้อกฎหมายจราจรทางส่วนนี้

ส่วนจะถูกจะผิดหรือไม่ ต้องตีความกันอีกทีนึงตามสภาพแวดล้อมทีเกิดเหตุ

"ตกใจ" เลยรีบขับรถกลับ นี่ปี 66 แล้วมุขนี้ยังใช้อยู่อีกรึ

เวรดึกเค้าลงเวรกันตอนเช้าไม่ใช่หรอวะ ไม่ใช่ลงตี 3 มรึงเอ๋อป่าวไอทนาย

ล่าสุดฝั่งตรงข้ามขอจ่ายครบจบเรื่องฮะ ส่วนพนักงานสอบสวนจะเอายังไงต่อผมไม่ทราบแล้ว