คำว่า transition มัยคือความความตรงตัวเลยที่หมายถึงการเปลี่ยนผ่าน ในทางฟุตบอลมันหมายถึงช่วงจังหวะที่เปลี่ยนไม่ว่าจะรับเป็นรุก หรือ รุกเป็นรับ ทีนี้ถ้าดูการสัมภาษณ์บ่อยๆ เทนฮากจะชอบพูดว่าต้องการให้ทีมเล่นบอลแบบ Quick transition ที่ดีที่สุด ในความหมายคือ ในจังหวะที่เปลี่ยนรับเป็นรุกจากจังหวะแย่งบอลได้ ต้องการโจมตีให้ไว โดยที่คู่แข่งยังจัดระเบียบเกมรับไม่ได้ จากแทคติคในเกมที่เราเห็นคือ เทนฮากจะพยายามใช้ผู้เล่นแดนบนเยอะ เพื่อบีบให้ตัดบอลได้ไว โดยพอตัดบอลได้ก็ใช้จังหวะแบบนั้นโจมตี ซึ่งถ้าไม่ได้มองแบบอคติ เราตัดบอลแดนบนได้เยอะขึ้นจริงๆ แต่ปัญหาในแง่การโจมตีของเราคือ ในพื้นที่สุดท้ายเราสร้างจังหวะได้ไม่ดีพอ ที่งเรื่องการตัดสินใจ รวมถึงตัวจบสกอร์ ฤดูกาลที่แล้วแรชฟอร์ดสร้างความแตกต่างได้จริงๆ แต่พอฤดูกาลนี้แรชออกทะเล การจบสกอร์เราเลยออกทะเลตาม รวมถึงตัวจ่ายเราด้วย ถ้าสังเกตคือ จะมีอยู่ 2 คนที่พอได้บอลแล้วจะพยายามจ่ายบอลไวและไปข้างหน้าตลอดคือ คาเซ กับ บรูโน่ เราตัดบอลได้เยอะจริง แต่ 2 คนนี้มักเน้นจ่ายอย่างที่บอก และบอลที่ไปมันเปนบอลที่ไม่ค่อยแม่น เราเลยชอบเสียบอลจากจังหวะแบบนี้ ซึ่งเอาตรงๆตัวที่จ่ายบอลขึ้นหน้าเก่งๆของทีมเรามันก็เหลือแค่นี้จริงๆ ตัวเล่นจากหลังหลักๆของเราแบบมาติเนสกับชอว์มันเจ็บ จ่ายแบกๆเลยเป็น 2 คนนั้นแทน ทีนี้ด้านเกมรับเอาตรงๆก็ไม่แน่ใจปัญหา แต่คิดว่าน่าจะเป็นตั้งแต่เรื่องระบบการบีบเพรสที่ชอบเพรสไม่จนแล้วเข้าหลุดมากลางได้ แล้วหลังเราไม่ได้ดันสูงมากมันเลยเกิดช่องว่างที่คาเซต้องแบกเยอะ เกมแรกๆเราเลยเห็นมันหลุดทีเป็นยวง พอปรับเปนฮันนิบาลกับเมาท์กลับมา ปัญหานีัเลยดูดีขึ้นเพราะพลังงานมันเยอะมากกว่าอีริกเซ่น แต่ที่ยังโดนอยู่เหมือนเปนเพราะเชพเกมรับด้วย
ผมคิดว่าปัญหาทีมเราคือ จังหวะ quick transition ของเรามันเน้นบอลไดเรกมากไป จะเห็นว่ามันเป็นการโยนออกปีกไปบ่อยๆ ซึ่งอาจจะมาจากเทนฮากสั่งหรือตัวผู้เล่นถนัดแบบนั้นก็ไม่รู้ แต่มันไดเรกและเร่งเกินจนบอลเสียเยอะ ทั้งๆที่เอามาครองบ้างก็ได้ กับเรื่องการเพรส ไลน์กองหลัง กับการยืนเกมรับแหละ

gegenpressing ผมเข้าใจว่าเป็นสไตล์ที่โค้ชเยอรมันเริ่มใช้จนเป็นที่นิยมนะครับ คนแรกที่ดังที่สุดคือ ralph rangnick และแก๊งเยอรมันหลายๆคน ไม่ใช่ชื่อเรียกเฉพาะ klopp คนเดียว

Transition คือการสลับโจมตีแบบสายฟ้าแลบนั้นแหละครับ สังเกตุเวลาแมนยูแย่งบอลมาได้ บอลจากแดนกลางของทั้ง บรูโน่ คาเซ หรืออิริคเซ่น มักจะตวัดทีเดียวเข้าพื้นที่สุดท้ายไปให้แรชฟอร์ดตลอด จริงๆตอนแรกผมว่า เทน ฮาก อยากจะเล่น possession เน้นบิ้วอัพครองบอล ต่อบอลมากกว่าเลยซื้อนักเตะอย่าง มาติเนซ โอนาน่า หรือดื้อจะเอา เดอ ยอง ให้ได้ แต่สุดท้ายแกต้องยอมเปลี่ยนแผนมา transition เพราะนักเตะแมนยูที่มีมันทำไม่ได้

มันคือการบิ้วอัพแบบบอลเดินสาย 7 คนบ้านเรา
วิ่งกันยับๆ

คำนี้ไม่เห็นนานละ
เมื่อก่อนใช้เรียกแผนการเล่นของลีคอังกฤษ

ก็ทั่วไป ยุคนี้ใครก็ใช้กัน แค่อยากใช้ศัพย์ ให้ดูมีทรง

เห็นได้ในหลายๆ มู้เวลาเขาคุยกัน

ผมอย่างชอบ กดอ่านเพราะอยากรู้วันนี้คำไหนมาแรง

ท่านทำให้ผมเข้าใจเลยว่าทำไมแมนยูอยากได้เดอ ยอง
เพราะจุดเด่นของเดอ ยอง คือสิ่งที่แมนยูขาดที่สุดตอนนี้
ปล.ผมแฟนบาร์ซ่า

ตามรูปนี้เลยท่าน