[เปลี่ยนงาน]เทคนิคการคำนวนรายได้เวลาย้ายงาน
ใน SS เราก็มักจะมีคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนงานมาอยู่เรื่อยๆ เช่นจะเลือกงาน A หรืองาน B ดี ฯลฯ หรือ offer ไหนดีที่สุด ถ้าเราจะเลือกเปลี่ยนงาน... วันนี้ผมเอาไฟล์ excel ที่ส่วนตัวผมใช้คำนวนมาอธิบายครับ
ก่อนอื่นเลย เราต้องแยกกลุ่มของ"ค่าตอบแทนรวม" ออกมาให้ได้ก่อน ซึ่งผมจะแยกออกมาตามนี้นะครับ
1. สีเหลือง หรือเงินเดือนที่ได้แน่ๆ
2. สีฟ้า หรือเงินได้อื่นๆ (ค่าเดินทาง ค่าโทสับ ฯลฯ)
3. สีส้ม คือโบนัส
4. สีเขียว คือสวัสดิการอื่นๆที่อาจจะไม่ได้เป็นตัวเงิน
5. สีเทา คืออื่นๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจเปลี่ยนงาน
อ่ะ คราวนี้มาดูตัวอย่างกันครับ (อันนี้เป็นสถานการณ์จริงที่ผมเจอมาเอง แต่ตัวเลขมีการปรับจากตัวเลขจริงนะครับ เพื่อให้เห็นได้ง่ายขึ้น)
จะเห็นว่า บริษัท X นั้นเสนอเงินเดือนให้เราน้อยกว่าทั้ง Y และ Z (สีเหลือง) อย่างไรก็ดี บริษัท X นั้นมีเงินได้อื่นๆให้สูงกว่าและเยอะกว่าอีกสองบริษัท นั่นทำให้รายได้ต่อเดือนนั้นสูงกว่าเมื่อรวมออกมาเป็นก้อน B (ฟ้ากลาง) แต่ก็ยังน้อยกว่า Z
ต่อมาทั้งสามบริษัทมีการันตีโบนัสให้ 1 เดือนแน่ๆ (ก้อน C สีเหลือง) นั่นแปลว่าจะขี้หมูขี้หมาอย่างไร สิ้นปีเราก็จะมีเงินก้อนนี้เข้าพร้อมๆกับเงินเดือน (ห้าปีหลังสุด ผมเลือกแต่บริษัทที่มี fixed bonus) ซึ่งเราจะเรียกตรงๆนี้รวมๆกันว่า Guaranteed Fixed Pay และถ้าดูตามตัวอย่างผม สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นว่าเราจะได้รับเงินจากบริษัท X เยอะที่สุดที่เป็นฟิกซ์มา -- แต่ต้องพึงคิดด้วยว่า ข้อ A กับ C นั้นจะอยู่ในสัญญาจ้าง แต่สีฟ้าอื่นๆที่เป็น Active Benefits นั้นอาจจะสามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ต่อมา ให้เราดูเรื่อง Variable Pay หรือพวกค่าคอมฯรวมถึงโบนัสต่างๆ ซึ่งหลังๆนี้ ไม่แน่ใจว่าด้วยตำแหน่งผมหรือเปล่าหรือว่าเพราะบริษัทที่เลือกทำ ผมเจอแต่พวกที่มีเพดานโบนัสกำหนดทั้งนั้นเลย (ถ้าไม่มีก็ดี) แต่สิ่งที่เราควรจะดูนอกเหนือจากเพดานโบนัส คือวิธีการคำนวนโบนัสครับ ตามตัวอย่างของผม บริษัท X และ Z นั้นคิดโบนัสให้เราสูงสุดที่ x% ของเงินเดือนทั้งปี แต่บริษัท Y คิดโบนัสให้เราจากเงินเดือน 12 เดือน + 1 เดือน (C Fixed Bonus) ด้วยเช่นกัน
ซึ่งพอถึงตรงนี้ที่เป็นก้อน B+C+D รายได้ที่จะได้รับจากบริษัท Y ก็จะสูงกว่าบริษัท X ละครับ แต่แกปมันจะแทบจะไม่ต่างกันเลยไม่เหมือนกันกับตอนแรก (ต่อให้โบนัสที่ Y จะให้นั้น"อาจจะได้"สูงกว่า) ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้อยากหวังกับโบฯก็ได้ เพราะมันไม่แน่นอน แต่บริษัท Z นี่แทบจะนอนมาในเรื่องรายได้ เพราะสูงกว่าเจ้าอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด
แต่ๆบริษัท Y นั้นมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นครับ คือ"แถม" Sign-On Bonus ให้เราด้วยถ้าเราอยู่ครบปี โดยจะจ่ายให้เท่ากับเงินเดือนที่เสนอให้เราถึง 4x นั่นแปลว่าถ้าอยู่ครบปีได้เงินก้อนแน่ๆ และยังให้หุ้นบริษัทเราทุกปี ปีละ 10 หุ้นด้วยเหมือนกัน ซึ่งถ้าเป็นสายที่อยู่นานๆ ตรงที่ได้หุ้นบริษัทก็น่าจะคุ้ม เพราะถ้าบริษัทยังเติบโตทุกปี เงินก้อนนี้เราก็โตทุกปีด้วยเช่นกัน และได้เพิ่มทุกปีอีกด้วย
==========================
พอหมดจากเรื่องเงิน คราวนี้ก็มาดูพวก Passive Benefits ต่างๆประกอบครับ ไม่ว่าจะเป็นวันหยุด วันลา ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และกองทุนสำรอง ฯลฯ ซึ่งจะเห็นด้วยว่า Y นี่ให้ประกันสุขภาพปีละ 60,000 บาทให้กับครอบครัวของเราด้วย ซึ่งถ้าคนที่มีครอบครัว อันนี้ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมากเช่นกัน และวันลาก็ให้มากกว่าที่อื่นๆ แต่กองทุนสำรองต้องอยู่นานกว่าที่อื่นถึงจะได้ส่วนของบริษัทครบ 100% (หรือที่เราเรียกกันว่า vesting period) ขณะที่ X นี่ไม่ต้องมี vesting เลยบริษัทให้คุณในส่วนของเค้าเลยไม่ว่าคุณจะอยู่กี่เดือนกี่ปีก็ตาม
และส่วนสุดท้ายที่สามารถนำมาใช้พิจารณา ในเชิง HR เราจะเรียกว่า Emotional Rewards... อันนี้ไม่ได้เป็นทั้งตัวเงินที่บริษัทจะต้องจ่ายในรูปแบบอะไรเลย แต่มีผลต่อการเลือกงานของผู้สมัครครับ อันนี้ ณ ปัจจุบันก็จะประกอบไปด้วยเรื่องเวลาเข้าออกงาน มีนโยบายให้ WFH มั้ย โอกาสในการเดินทาง โอกาสในการเติบโต รวมถึงโอกาสในการย้ายไปทำงานต่างประเทศด้วยเช่นกัน ซึ่งแต่ละคนก็จะให้น้ำหนักตรงนี้ต่างกันไป
โดยที่ถ้าเราดูจากตัวอย่างประกอบ บริษัท Y นั้นให้เราเข้าออฟฟิศแค่ 3 วัน ขณะที่ X และ Z ที่จ่ายเงินเดือนสูงกว่า บังคับให้เราเข้าออฟฟิศตัวเองหรือออฟฟิศลูกค้าทุกวัน และบริษัท Z ที่จ่ายเงินเดือนที่สูงที่สุดนั้น ไม่มีโอกาสในการเติบโตแล้ว รวมถึงโอกาสในการย้ายไปทำงานต่างประเทศก็ไม่มี
ซึ่งถ้าดูแค่ตัวเงินอย่างเดียว บริษัท Z นี่จ่ายสูงกว่าบริษัท X ประมาณ 12-17% แต่พวก emotional benefits ที่"ดูเหมือน"แย่กว่าล่ะ คุณรับได้มั้ย คุณเลือกเงินหรือเลือกอะไร อะไรคือสิ่งที่สำคัญกับคุณมากกว่ากัน ? ซึ่งอันนี้ไม่มีใครตอบแทนใครได้ ผมได้แต่เอามาตีออกมาให้ดูว่าเราควรจะ consider อะไรบ้างเวลาเลือกงาน และมันมี factor อะไรอีกบ้างให้เราคิดครับ
========================
สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ เวลาใครจะเลือกงานอะไร อยากให้มองในหลายๆมิติให้มากที่สุดที่เป็นไปได้ บางบริษัทจ่ายให้เราดี แต่ขาดโอกาสที่เราจะเติบโต บางบริษัทอาจจะจ่ายเฉยๆ แต่มีสวัสดิการต่างๆที่ไม่ได้เป็นเงินที่ตอบโจทย์เรามากกว่า หรือกระทั่งบริษัทแม่ที่กำหนดนโยบายหรือวัฒนธรรมองค์กรก็มีผลด้วยเช่นกัน
ขอให้ทุกคนที่หางานหรือกำลังจะเปลี่ยนงาน เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองครับ
ถ้าอยากได้ไฟล์ ผมฝากไฟล์ไว้ที่นี่นะครับ https://docs.google.com/spreadsheets/d/1liCJOYHY8G8V_IyS2agTbBhyW0YgTmBM/edit?usp=drivesdk&ouid=114581594239422588713&rtpof=true&sd=true