Harrenhal
ปราสาทต้องคำสาปที่ผู้ครอบครองส่วนใหญ่ต้องสิ้นตระกูล
ปราสาทฮาร์เรนฮอล ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดและขึ้นชื่อเรื่องความสยองมากที่สุดในเวสเทอร์รอส
ฮาร์เรนฮอลเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในดินแดนลุ่มน้ำและตั้งชื่อตามผู้ที่สร้างมันขึ้นมาคือ พระราชาฮาร์เรนดำกษัตริย์ดินแดนลุ่มแม่น้ำและเกาะเหล็ก มันใช้เวลาสร้างสี่สิบปีและทำให้แรงงานที่ถูกใช้เหมือนทาสนั้นตายไปหลายพันคน ขนาดของมันใหญ่เป็นสามเท่าของวินเทอร์เฟล ที่มั่นของพวกสตาร์ค
แต่ในวันที่มันสร้างเสร็จนั่นเองอาถรรพ์แห่งความตายก็เริ่มขึ้น เพราะมันเป็นวันเดียวกับที่เอกอนผู้พิชิตขึ้นฝั่งในเวสเทอรอสพร้อมมังกรยักษ์ทั้ง3ตัวของเขา
ถึงจะปกครองดินแดนลุ่มน้ำมาสามชั่วอายุคน แต่โดยเนื้อแท้แล้วพระราชาฮาร์เรนดำเป็นชาวเกาะเหล็ก
ดังนั้นลอร์ดแดนลุ่มแม่น้ำส่วนใหญ่จึงรังเกียจในความโหดร้ายของเขา และเมื่อเอกอนประกาศจะพิชิต 7 ราชอาณาจักร ชาวลุ่มน้ำส่วนใหญ่ก็เข้าร่วมกับเอกอน
เมื่อมีการชูธงเรียกระดมพลลอร์ดใต้ปกครองของกษัตริย์ฮาร์เรน แอดมิน ทัลลี่ลอร์ดแห่งริเวอรันจึงเป็นคนแรกที่เอาใจออกห่างเขาโดยเลือกที่จะชูธงมังกรของเอกอนและคุกเข่าให้เขาแทน
(นั่นเป็นสาเหตุให้ตระกูลทัลลี่กลายเป็นผู้ปกครองแดนลุ่มน้ำในยุคของมังกร )
เมื่อมีลอร์ดหลายคนทรยศ ฮาร์เรนดำ จึงเลือกที่จะตั้งรับในฮาร์เรนฮอล์ ปราสาทแห่งความภูมิใจของเขาที่เชื่อกันว่าไม่มีทางถูกทำลาย
เอกอนผู้พิชิตยกธงสงบศึกและให้โอกาสเขาออกมาเจรจา
"คุกเข่าให้ข้าแล้วท่านจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ท่านจะยังคงเป็นลอร์ดแห่งเกาะเหล็กบุตรชายท่านจะได้ปกครองต่อจากท่าน" เอกอนผู้พิชิตยื่นข้อเสนอ
เมื่อฮาร์เรนดำยิ้มเยาะข้อเสนอนั้น เอกอนจึงพูดต่อว่า
"ลอร์ดในแดนลุ่มน้ำเข้าร่วมกับข้า ข้ามีทหารกว่าแปดพันอยู่นอกกำแพงของท่านตอนนี้"
"อะไรที่อยู่นอกกำแพงของข้า ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับข้าตรงไหน"ฮาร์เรนดำตอบกลับผู้พิชิต "กำแพงของข้าทั้งสูงและแข็งแกร่ง"
"แต่ไม่สูงพอจะกันมังกรของข้า"เอกอนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"มันสร้างจากหิน และหินไม่ไหม่ไฟ"ฮาร์เรนดำยังคงดื้อดึง
ในที่สุดเอกอนก็ไม่ทนต่อบทสนทนานี้อีก เขามองฮาร์เรนดำผู้เฒ่าด้วยสายตาที่ดูไม่ออกว่าสงสารหรือสมเพชในความเขลาของเขา จากนั้นจึงพูดขึ้นสั้นๆว่า
"เมื่ออาทิตย์ลับฟ้า มันจะลับลาไปพร้อมวงศ์ตระกูลของท่าน"
คืนนั้นเองเอกอนขี่บาเลอเรียนขึ้นสู่ท้องฟ้าและบินต่ำลงเหนือปราสาท
และเมื่อลงถึงระยะในตอนนั้นเองเจ้ามังกรมฤตยูดำก็พ่นไฟออกมา
จริงอยู่ที่ปราสาทไม่ไหม้ไฟ แต่เมื่อมันร้อนถึงขีดสุดทุกชีวิตที่อยู่ข้างในก็ไม่อาจรอด ปราสาทเป็นดั่งเตาอบ และหอคอยคอยทั้งห้าก็หลอมละลาย
ฮาร์เรนดำลูกเมีย และบริวารทั้งหมดไม่มีโอกาสได้เห็นแสงตะวัน
ว่ากันว่าเมื่อเขาตายในกองไฟพระราชาฮาร์เรนก็ประกาศคำสาปแช่งไว้ด้วยพูดสุดท้ายของเขา และใครก็ตามที่ครอบครองปราสาทนี้ก็จะพบจุดจบไม่อย่างน่าสยอง
หลังจากการตายและสิ้นตระกูลของฮาร์เรนดำ เอกอนมอบปราสาทที่เหลือแต่ซากนี้ซึ่งยังคงใหญ่ที่สุดในอาณาจักรให้กับครูฝึกอาวุธที่ดรากอนสโตนของเขา ลอร์ดเควนตัน โคเฮนรี่ ซึ่งหลังจากตกม้าเสียชีวิตหลานชายของเขาที่ชื่อการ์กอน ก็ได้ครอบครองมันต่อ
แต่การ์กอนก็ถูกสังหารในปราสาทตัวเองโดยพวกนอกกฏหมายที่เรียกตัวเองว่า ฮาร์เรนแดง
มันจับเขาตอนและนำอวัยวะเพศของเขาไปโยนให้สุนัขกิน จากนั้นจึงทิ้งให้เขาเลือดออกจนตายตระกูลโคเฮนรี่จึงสิ้นตระกูลหลังครอบครองปราสาทนี้ได้ไม่นาน
จากนั้นปราสาทถูกส่งต่อให้ตระกูลฮาร์โรเวย์ ซึ่งตระกูลนี้มีราชินี อลิซแห่งตระกูลฮาร์โรเวย์ที่ได้เป็นราชินีของกษัตริเมกอร์ผู้เหี้ยมโหด และความสยองก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
เมื่อลูกชายของราชินีอลิซคลอดออกมาพิการรูปร่างบิดเบี้ยว ทารกนั้นตายตอนคลอด เมกอร์ผู้เหี้ยมโหดก็เชื่อคำยุยงว่าเธอคบชู้และทรมานเธออยู่ถึง14วัน ก่อนจะหั่นร่างเธอเป็น 7 ส่วนจากนั้นก็สังหารบิดา พี่น้องและญาติทุกคนของเธอ แม้แต่เด็กหรือใครก็ตามที่มาสายเลือดเดียวกันเธอล้วนถูกกำจัดสิ้น
ปราสาทถูกส่งต่อไปให้ตระกูลทาวเวอร์ซึ่งครอบครองมันอยู่นานเกือบ20ปี ในช่วงท้ายของชีวิตลอร์ดแห่งตระกูลคนสุดท้าย เมกอร์ ทาวเวอร์(ไม่ใช่เมกอร์ผู้เหี้ยมโหดนะ ตั้งชื่อตามเฉยๆ)
กษัตริยเจเฮริสได้ส่งเจ้าหญิงทาร์แกเรียนคนหนึ่งคือเรน่า ซึ่งเป็นน้องสาวม่ายของเขามาอยู่ที่ปราสาทนี้ เธออาศัยอยู่ในหอคอยที่จะรู้จักกันภายหลังในฐานะหอคอยแม่ม่าย และเป็นเพื่อนที่ดีของลอร์เมกอร์จนทั้งคู่เสียชีวิต
และปราสาทก็ถูส่งต่อไปให้ตระกูล สตรอง ผู้ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมใหญ่ในสภาของกษัตริย์เฒ่านั่นเองและอย่างที่ทราบกันดีว่าตระกูลสตรองจบสิ้นจากการที่ ลาริส ตีนแป วางเพลิงเผาพ่อและพี่ชายตัวเองเพื่อครอบครองปราสาท จนในที่สุดเขาก็ถูกประหารหลังจบสงครามการร่ายร่ำของมังกร ตระกูลสตรองจึงสิ้นตระกูลไป
ช่วงนึงในระหว่างศึกมังกรเริงระบำ ปราสาทนี้เป็นที่อาศัยและครอบครองโดย อลิซ ริเวอร์ ผู้เป็นชู้รักของเอมอนตาเดียว นางถูกคนมองว่าเป็นแม่มดและชอบเล่นกับมนต์ดำ
ซึ่งปราสาทอาถรรพ์นี้ยังมีการส่งต่อกันอีกหลายตระกูล เช่นตระกูลโลสตัน ก็สิ้นตระกูลเพราะไปเข้าร่วมกบฏแบล็กไฟร์ และมันยังถูกครอบครองโดยตระกูลเวนต์มาจนถึงช่วงหนังสือเล่มหลัก
ซึ่งในหนังสือเล่มหลักนั้นก็มีการผลัดเปลี่ยนเจ้าของปราสาทนี้กันอยู่มากมายเซอร์ซียกมันให้เจนอส สลิน ที่ถูกปลดโดยทีเรียนและเขาก็ไปโดนจอน สโนว์ตัดหัวผากำแพง
ปราสาทถูกยกให้นิ้วก้อยซึ่งก็ตายด้วยการถูกปาดคอ(ในซีรีส์) แม้แต่พวกที่ไปพักชั่วคราวอย่างไทวินแลนนิสเตอร์ เกรกอร์ครีแกนหรือบอลตันก็พบจุดจบไม่ดี (บอลตันในหนังสือยังไม่ตายนะแต่ซีรีส์โดนลูกชายฆ่า)
แต่ชะตากรรมที่โหดร้ายที่สุดน่าจะเป็นวาโก โฮต ชาวโคฮอร์ ฉายาเจ้าแพะ ที่รับใช้ลอร์ดไทวินแลนนิสเตอร์และเปลี่ยนไปหาบอลตัน เพราะบอลตันเสนอยกปราสาทฮาร์เรนฮอล์ให้
เจ้าแพะนี่แหละที่เป็นคนสั่งตัดมือที่จับดาบของเจมี่แลนนิสเตอร์
ซึ่งเจ้าแพะครอบครองฮาร์เรนฮอลได้ไม่นานก็ถูกโจมตีโดยเกรกอร์ ครีแกน ภูผาบนหลังม้า เขาจับเจ้าแพะตัดมือตัดขาทีละข้าง และจากนั้นก็เอามือเท้าของเขาไปย่างไฟและเอามาป้อนให้ตัวเขาเองกับนักโทษในปราสาทกิน
"ไอ้ลูกนางโลมนั่นน้ำลายไหลเลยตอนที่เราเอาเนื้อมันมาป้อนให้มันกิน น้ำมันย้อยหยดลงในเคราของมัน"
"แพะย่าง"
อาถรรพ์ของฮาร์เรนฮอลเป็นที่เลื่องลือก็จริง แต่มันก็เป็นชัยภูมิสำคัญของดินแดนลุ่มน้ำอย่างที่เราได้เห็นกันในซีรีส์ มันเป็นที่เหมาะจะรวบรวมกองทัพและใหญ่พอจะจุคนได้มหาศาล มันจึงเป็นที่หมายปองของบรรดาลอร์ดทั้งหลายมาทุกยุคทุกสมัย
Credit: Page FB : Movie Dinner