[RE: ไทม์ไลน์ จุดแตกแยก ของ สาระแน คืออะไรครับ]
สรุปแบบสั้นสุดๆๆๆ
- เปิดบริษัทนึงขึ้นมา หุ้น 3 คน
- ทำงานสำเร็จมาตลอด ใช้ชื่อเสียงหนึ่งคนผลักดัน + น้องสาวช่วยโฆษณา ส่วนอีก 2 คน เป็นตัวทำ Content
- เทคโนโลยีเข้ามาใหม่ๆ มีช่องมากขึ้น ก็เลยเริ่มขาดทุน
- มีหุ้นส่วนคนหนึ่ง ขอถอนหุ้นออก แต่ยังคงสภาพไว้ว่าเป็นพนักงานรับเงินเดือนแทน (แต่ยังไปหุ้นทำหนังกับดาราตลกชื่อดังคนหนึ่ง + รับทำรายการเอง Cr.pantip)
- รายการคนที่แยกมาทำทำคล้ายกับของ อีก 2 คน มาก ทาง 2 คนนั้นในตอนนี้ก็แบกรับภาระบริษัทเนื่องจากต้องเงินส่วนตัวมาจ่าย เลยขอเชิญให้ 1 คนออก 'ในฐานะพนักงาน' เพราะจะมีอีก 1 คนทำไมทั้งๆ ที่คนนั้นก็ไปทำรายการที่คล้ายกันมากๆ เหมือนกันไว้ทำไม
- พนักงานคนนั้นก็ร้องให้เสียใจแถลงผ่านช่องทีวี
- 2 คนโดนด่าเละ เพราะตอนนั้นคนที่ออกได้ใจคนดูไปมาก + กับได้รายการใหม่อีกหลายรายการ
- ส่วนอีก 2 คนโดนเป็นขี้ปากปชช. อย่างมากในตอนนั้น ส่วนคนข้างในก็พยายามป้อนงานให้ 2 คนเพราะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่ปังสักที หนี้ก็มีแต่เพิ่มขึ้น
- จนสุดท้ายก็กลับมาผงาดได้อีกครั้ง หนี้หมด
ในมุมมองของ 1 คนที่ออกมา
- ต้องการออกจากหุ้นส่วนเพราะคาดการณ์สถานการณ์ในอนาคตของบ.แล้ว และได้เตือนพวกเค้าแล้วว่าเพราะอะไรถึงต้องออก
- แต่ก็ยังทำงานให้อยู่ไง ก็รับเงินเดือนเอา แต่ตอนบ.ใกล้เจ๊งก็ออก แต่แจ้งให้ ปชช. ว่าเค้าเชิญให้ออกเพราะทำงานไม่ตรงกัน ไอเดียไม่เหมือนกัน
- อ้างว่าที่ออกมาเพราะต้องการทำงานของตนเอง อยากให้ไอเดียของตนเองโลดแล่นอยู่บนหน้าจอ จึงทำให้เกิดการมีรายการ + หุ้นกับหนังหรือละครอื่นๆ ออกมากับคนอื่น (จริงๆ ทำตั้งแต่อยู่ในฐานะ 'พนักงาน' ของบริษัทแรกอยู่แล้ว แต่ก็เหมือนกับว่าได้ปลดปล่อย อิสระละตรู
)
- อยากกลับไปคืนดีกันอยู่นะครับ อยากเจออยากอะไร อยากพูดคุยและก็ลืมเรื่องราวเก่าๆ (เพราะตอนนี้ 2 คนนั้นงานในวงการถือว่าเยอะมาก + มีธุรกิจทำนู่นนี่ กลายเป็นอาวุโสในวงการแล้วด้วย)
ในมุมมองของ 2 คนที่ยังอยู่ใน บ.
- ไม่สามารถประกาศปิดบ.หรืออะไรได้ เพราะเป็นห่วงลูกน้องอีกหลายชีวิต
- มองว่าทำไมคนๆ นั้นพอรู้ว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ ไม่อยู่ช่วยกันประคับประคอง ทั้งๆที่ ทั้ง 3 คนก็เป็นคนสร้างบ.นี้มากับมือ แต่ดันชิ่งก่อนที่จะเกิดเหตุหนักๆ ดูเหมือนเป็นการเอาตัวรอดแต่ฝ่ายเดียว แถมเลือกรับเงินเดือนแทนด้วยนะ ไม่ใช่น้อยๆ ด้วย (รู้สึกเหมือนเคยอ่านว่า คนนั้นจะอ้างว่าไม่อยากเป็นหุ้นส่วนบ. เพราะเค้าไม่อยากจะรับผิดชอบอะไรมาก 2 คนนั้นเก่งบริหารมากกว่า เลยไม่อยากเป็นตัวถ่วง เลยขอเป็นพนักงานดีกว่า จะได้รู้สึกสบายใจในการทำงานมากกว่า)
- มีประเด็นเรื่องรับงานข้างนอก แต่ตอนนั้นในฐานะเพื่อน แรกๆก็ยังหยวนๆ พอมาหนักๆเข้า (รายการที่คนที่ออกไปทำค่อนข้างเริ่มเยอะ) ก็เริ่มทนไม่ไหว เพราะรายได้เข้ากระเป๋าคนนั้นอย่างเดียว
- สุดท้ายก็ขอให้ออก
- ยอมขาดทุน ยอมเป็นหนี้ เพื่อประคับประคองได้
- วางแผนการทำงานผิดพลาด การ Disrupt ของช่องทีวีต่างๆ และเทคโนโลยีใหม่ๆ
- ไม่เคยออกมาโต้แย้งสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ได้แต่ Fade ออกและก็เลิกคบกับคนนั้นไป
ผิดพลาดตรงไหนเติมให้ด้วยนะครับ อันนี้เท่าที่จำได้ + เพิ่มเติมจากใน Pantip หน่อยๆ
สั้นกระชับไหม
คหสต. ไอ้คนนั้นอะ โคตรเหลี่ยม เหลี่ยมจัด ทำไงก็ได้ขอให้ได้เงิน
ไอ้ที่มันออกอ่ะ ส่วนหนึ่งเพราะมันคิดไว้อยู่แล้ว + มีการติดต่อมาจากช่องอื่นๆ หรือ หุ้นส่วนอื่นๆ ว่าถ้ามาทำให้จะได้เงินเท่านี้ๆๆ
ถ้ายังอยู่ในฐานะ หุ้นส่วนบ.ของเพื่อน 2 คน คนจ้างก็ต้องจ้างบริษัท เพราะทางคู่ค้าเค้าก็จะจ้างในฐานะ บ.ของทั้ง 3 คน เงินก็จะเข้าบริษัท ก็ต้องไปแบ่งสันปันส่วน และก็ทำงานกัน 3 คน + พนักงานในบริษัท ตนเองก็อดกินเต็มๆ
เลยเหลี่ยมจัดหน่อย ออกมาเป็นพนักงานเลย ทีนี้รับงานอะไรก็ไม่ต้องผ่านบ.ละ รับเน้นๆ + กับตัวเองเป็นมันสมอง Content คู่กับอีกคนด้วย เลยคิดอะไรได้เยอะ
เคยมีข่าวตอนนั้นด้วยว่าอยากให้เพื่อนอีกคนหนึ่ง (คนที่ทำ Content) ออกจากบริษัทแล้วมาทำกับเค้าร่วมกัน แต่เป็นแค่ข่าว Gossip เล็กๆ
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker