ก่อนนั้นตั้งแต่เดบิวท์ขึ้นชุดใหญ่มาเบ็คแฮ่มเป็นนักฟุตบอลที่ทุ่มเทกับการเป็นนักบอลเต็มที่ เหมือนเนวิล สโคล บัต กิ๊กส์ นี่แหล่ะ แต่ด้วยความที่หล่อแบบโดดเด้งมาเลยก็เลยได้รับการจับตามองจากสื่อ แต่เบ็คแฮ่มก็วางตัวเหมือนเดิม ขยันซ้อม ทุ่มเทในสนามไม่ได้สนใจรูปลักษณ์อะไรของตัวเองเท่าไหร่ จนกระทั่งได้เจอวิคตอเรีย เดทกัน จนกลายเป็นแฟนกัน พอหลังจากนั้นด้วยความที่วิคเป็นนักร้องสังคมของเธอเลยจะไปทางวงการบันเทิง เบ็คก็เลยได้ไปคลุกคลีกับทางนั้นบ้าง ได้ออกงานสังคม มีปาร์ตี้กับพวกเซเล็ป แล้วก็เริ่มสนใจภาพลักษณ์ตัวเอง เริ่มเเต่งตัว เริ่มสัก เริ่มเปลี่ยนทรงผม และไม่ได้แค่เปลี่ยนเฉยๆเพราะเริ่มเล่นกับสื่อแล้ว ตอนที่แกตัดสกินเฮดมาใหม่ ตอนนั้นแกใส่หมวกลงซ้อม แล้วกะไปเปิดตัวทรงผมใหม่วันแข่ง แต่โดนเฟอร์กี้ด่าแล้วสั่งให้ถอดซ้อม แผนเปิดตัวทรงผมใหม่ของแกเลยพัง อันนี้เบ็คเคือง เพราะเบ็คมั่นใจว่าไม่ว่าชีวิตนอกสนามจะเป็นยังไง แต่ผลงานในฐานะนักบอลของตัวเองไม่ตก ยังตั้งใจซ้อมและทุ่มเทในสนามเหมือนเดิม เฟอร์กี้ไม่น่ามาก้าวก่ายกัน ก็เริ่มหมางๆกันตั้งแต่ตอนนั้น
จนมาถึงนัดนึงที่เจอกับอาเซนอลมั้ง นัดนั้นทีมเล่นได้ไม่ดีเลย แล้วก็แพ้ไป จบเกมเฟอร์กี้เข้ามาเม้งในห้องแต่งตัว ด่าเบ็คว่าเป็นต้นเหตุลูกเสียประตู เบ็คก็เถียงเพราะรู้สึกว่ามันก็เล่นไม่ดีทั้งทีมทำไมมาลงที่ตัวเองคนเดียว เฟอร์กี้โมโหที่โดนเถียงเลยเตะสตั๊ดใส่ คือไม่ได้เล็งอะไรหรอก ระบายอารมณ์อ่ะแต่ทางมันได้ ปลิวไปโดนหางคิ้วเบ็คแตก พอโดนงี้เข้าเบ็คเลยกวนตีนบ้างด้วยการแปะแผลให้มันเด่นๆ โชว์สื่อเลย ก็เลยเป็นประเด็นไปใหญ่โต
เฟอร์กี้เจองี้เข้าไปก็รู้สึกว่าไม่ได้แล้ว เบ็คชักจะคุมไม่อยู่แล้ว ชักจะงัดข้อกับแกหนักแล้ว จบซีซันก็เลยขายไปมาดริด

เฟอร์กี้ หึง วิคตอเรีย

บรรดาดราม่ากับเฟอร์กี้ เสียดายเรื่องเบคที่สุด เพราะเบคมีความเป็นสตาร์ซึ่งสร้างมูลค่าให้ทีมมหาศาลมาก

ส่วนตัวไม่เคยชิงชังวิคตอเรีย เพราะความเป็นวิคนี่แหละที่ทำให้ยิ่งลงตัว ในแง่ป็อปคัลเจอร์ นับเป็นแจคพ็อตแบบที่สโมสรอื่นไม่สามารถสร้างได้

การแตกหักครั้งนั้น หลายคนมองว่าเป็นจุดด่างพร้อย แต่วันนี้เรามองย้อนไป กลับรู้สึกว่ามันก็เป็นสตอรี่จากพรากที่โคตรจะโรแมนซ์

เหมือนเบ็คดังมากๆ แล้วเฟอร์กี้มองว่าแกหลงแสงสี โดนเมียคุมไรแนวนี้

ทำให้ไม่ทุ่มเทกับฟุตบอลเท่าที่ควร รวมไปถึงนัดปัญหา แกว่าเบ็คไม่ลงมารับ หรือเล่นไม่ดี ไม่ทุ่มเท อะไรแบบนั้น

ละก็เตะรองเท้าระบายอารมณ์หลังเกม แต่ดันไปโดนคิ้วเบ็คพอดี ก็เลยเกิดเป็นเรื่องบาดหมางกัน

กว่าจะคืนดีกันก็หลังจากแต่ละคนวางมือกับแขวนสตั๊ดไปหลายปีเลยนะ

เพราะจำได้ว่าหลังจากนั้นเบ็คจะไปย้ายไปเล่น เมเจอร์ลีก ยังอยากกลับมาแมนยูเลย แต่เฟอร์กี้ไม่สนใจ (ยังไม่หายโกรธ)

แกไม่เอาพวกงัดข้อกับแก ขนาดรูนี้ย์นัดสุดท้ายของแกยังไม่มีแม้ชื่อตัวสำรองเลย

เบ็คแฮมคือแกหลายรอบแล้ว ลูกรัก แกด้วย จนไม่ไหวจริงๆ เหมือนจุดปะทุเดือดพอดีในเกมสที่แพ้แล้วตกรอบ

เคสเบาๆก็ที่แกไปโมฮอคแล้วเฟอรกี้ไม่รู้ พอลงสนามแล้วถึงเห็นทรงผมโครตเท่ห์ ข่าวดังไปทั่วโลก

แต่เฟอร์กี้ สั่งโกนเลย สกินเฮด เท่ห์อีก ซ่ะงั้น อย่าง่ายๆมุขโจ๊กๆ ถ้ามีกระสุน 1 นัดจะยิงใครเวนเกอร์ หรือ วิคเตอเรีย

แกบอกว่า ขออีก 1 นัดได้ไหม พวกเราก็ฮากันหล่ะ แต่ไม่เคยถามใจเบ็คแฮม กับ วิคเตอเรียเลย

ถ้าคนมีประเด็นกันต่อให้ใกล้ไกล ไม่พอใจแน่ๆ

รองเท้าบินคือปลายเหตุ ต้นเหตุมันสะสมมาสักพักแล้ว

1. เรื่องนอกสนามคือเบคเริ่มมีกิจกรรมอื่นนอกจากฟุตบอล ทั้งออกงานกับวิคตอเรีย ตัวเองก็มีงานอื่นๆเข้ามามากขึ้นด้วย คือเริ่มใช้ชีวิตแบบเซเลปจนป๋ารู้สึกว่าเยอะเกินไป

2. เรื่องในสนาม เบคเริ่มอยากมาเล่นเป็นตัวกลาง (ถ้าสังเกตช่วงนั้น จะหุบมาอยู่กลางสนามบ่อยขึ้น) ซึ่งเกินหน้าที่ที่ป๋ามอบหมายให้ ป๋าไม่พอใจส่วนนี้มาสักพักแล้วเพราะเบ็คเริ่มแสดงอาการแข็งข้อ อีกเรื่องก็คือทรงผม ถ้าจำไม่ผิดจะตัดโมฮอคมาแล้วโดนสั่งให้แก้ไขทันที ก็เลยเป็นที่มาของสกินเฮดในช่วงนั้น

ว่ากันแบบเป็นกลาง ช่วงนั้นเบ็คก็เริ่มมีอาการเหลิงขึ้นมาจริงๆครับทั้งในและนอกสนาม ในสนามก็เรื่องหุบมาเล่นกลางสนามนี่ชัดเจนมาก เริ่มเรียกบอลเยอะขึ้น เริ่มทำตัวเป็นศูนย์กลางทีมมากขึ้น รวมทั้งอาการแอ๊คเวลาเล่นที่เริ่มมีเพิ่มขึ้นด้วย นอกสนามก็คือการแต่งตัวจ๋าๆ เริ่มสักเริ่มสรรหาทรงผมใหม่ให้เป็นที่สนใจของนักข่าว

จนมาถึงเรื่องรองเท้าบินอย่างที่รู้กัน

ส่วนจุดจบคือป๋าสั่งขายครับ ไม่ใช่เบ็คขอย้าย

แฟนแมนยูตอนนั้นไม่ได้เลือกข้างเฟอร์กี้กับเบ็คแฮม
เป็นที่รักทั้งคู่ แค่ติดตามสถานการณ์ และไม่อยากให้เบ็คแฮมจากไป

นัดสำคัญกับรีลมาดริด ขนาดต้องการชัยชนะ ป๋ายังดองเบ็คจนให้มาลงท้ายเกม เบ็คยิงเข้าด้วย แต่เป็นการยิงสั่งลาเวทียุโรปกับยูไนเต็ดแล้ว

ทำให้ผมนึกถึงมูกับป๊อกเลย จำได้แม่นจะงัดกันในสนามซ้อม
มูก็ใส่ยับเลยมันคือไวรัสทีม สุดท้ายบอร์ดเลือกป๊อก

ถ้าไม่มีวิค เบคก็คงเป็นวันแมนคลับเหมือนเพื่อนๆแน่นอน

สาเหตุ​ก็เหมือนตามที่หลายคนบอก ส่วนตัวมองว่าคิดถูกทั้ง 2 ฝั่ง
ป๋าเองก็ต้องการคนที่โฟกัสกับการเล่นฟุตบอล มี Passion​ ในการเล่นเพื่อคว้าแชมป์​ ถ้าเก็บไว้มันจะส่งผลระยะยาวกับทีมเลยตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ใครจะรู้ถ้ายังเก็บพี่เบคไว้แมนยูอาจจะไมาได้แชมป์เพิ่มก็ได้

ส่วนพี่เบคเองก็คิดถูก เพราะอาชีพนักฟุตบอลมันไม่ยืนยาว การเป็นดารามันยืนยาวกว่า ตัวอย่างมีให้เห็นเยอะทั้ง R9, Ronaldinho หรือหลายๆคน แล้วตัวเองก็มี Skillplay แต่ไม่ได้โดดเด่นถึงขั้นนั้น แถมยังต้องรักษาสภาพร่างกาย ในขณะที่วงการแฟชั่นมันทำงานกลางคืนมันสวนทางกัน เลยไปเส้นทางนั้นแล้วกลายเป็นผู้มีอิทธิพล​ในวงการดาราระดับโลกจะดีกว่า

ลองคิดดูถ้าพี่เบคยังอยู่อังกฤษที่เป็นเมืองแห่งแฟชั่นอยู่แล้ว สิ่งเร้ามันเยอะมาก ซักวันนึงต้องหลุดโฟกัส การไปอยู่สเปนก็ถือเป็นโอกาสที่ดี

ปล.ขนาดตอนนั้นโซเชียลมีเดียยังไม่บูมเจ๊วิคยังบ่นแมนยูออกหน้าหนังสือเป็นว่าเล่นเลย

นัดนี้แหละ ดอน เอดู จัดฟรีคิกให้

จริงเลย ถ้าวันนั้นป๋าไม่อีโก้ ให้พี่เบ็คลงแต่แรก อาจจะชนะมาดริดก็ได้ ปีนั้นอาจจบได้แชมป์ UCL อีกรอบก็ได้

เฟอร์กี้โมโหเตะสตั๊ดระบายอารมณ์แต่ไปโดนหางคิ้วเบคแฮมแตกด้วย