ช่วงวันหยุดผ่านมานี้ได้มีโอกาสนั่งดูไฮไลท์เก่าๆบวกกับเปรียบเทียบฟอร์มการเล่นช่วงหลังๆ ได้แต่ตั้งข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเชลซี ทำไมถึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ขนาดนี้ วันนี้เลยเอาบทความสั้นๆมาถกประเด็นกัน


อย่างที่เกริ่นครับเชลซีช่วงหลังมานี้ ฟอร์มการเล่นดูแกว่งลงไปอย่างชัดเจน เนื่องด้วยปัญหาหลายๆอย่างตามข่าวที่รู้ๆกัน
ปัญหานักเตะตัวหลักเจ็บและผู้เล่นสำรองไม่สามารถทดแทนได้/ปัญหาจากที่โรมัน อบราโมวิชถูกแซงก์ชั่น/ปัญหาจากการที่ลูกากูออกมาให้สัมภาษณ์ว่าแนวทางการเล่นที่เชลซีต่างกันกับอินเตอร์ซึ่งออกมาขอโทษภายหลัง/เรื่องส่วนตัวของทูเคิล(ซึ่งไม่น่าจะเอามาเป็นประเด็นเยอะ)

ทำให้เชลซีฤดูกาลนี้ฟอร์มถดถอยลง ซึ่งมันก็ไม่แปลกขนาดกุนซือชั้นเซียนอย่าง "เจอร์เกน คลอปป์" ที่เจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเหมือนกันในฤดูกาลที่แล้วไหนจะมรสุมชีวิตต่างๆ ก็เล่นเอาลิเวอร์พูลเกือบแย่เหมือนกัน


โรมัน อบราโมวิชถูกแแซงก์ชั่น


แต่ทีนี้เรามาเข้าสาเหตุที่ทำไมเชลซีเกมรุกปีนี้ฟอร์มไม่คงเส้นคงวากันดีกว่า เกิดจากปัญหาอะไรกันแน่ จะขอแบ่งเป็น3หัวข้อหลักครับ

1.ปัญหาแนวรุกที่ไม่มีความสม่ำเสมอ
ดูเหมือนว่าฤดูกาลนี้3แดนหน้าของ โทมัส ทูเคิล จะไม่มีประสิทธิภาพเอาซะเลย เนื่องด้วย อนึ่งฟอร์มการเล่นส่วนตัวของนักเตะที่ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้
แต่จุดสำคัญคือดูเหมือนว่าทูเคิลจะยังไม่มีผู้เล่น3แกนหลักในใจ
สังเกตุได้จาการที่ทูเคิลชอบโรเตชั่นผู้ที่เล่นดีมักจะได้ลงส่วนพอใครเล่นไม่ดีมักจะเปลี่ยนเป็นคนอื่นและดรอปไปยาว อย่างช่วงต้นฤดูกาลจะเป็น ฮาแวตซ์/ลูกากู/เมาท์ ช่วงกลางฤดูกาลจะเป็น พูลิซิส/แวร์เนอร์/ฮาแวตซ์และซิเย็ค ท้ายฤดูกาลจะยึดที่ แวร์เนอร์/ฮาแวตซ์ เมาท์/ในเมื่อตัวรุกสลับหมุนกันไปแบบนี้จึงทำให้เกิดการไม่สมดุลหรือความมั่นคงในแดนหน้า หรือที่เรียกกันว่า"คิดเยอะไป"

2.ปัญหาอาการบาดเจ็บผู้เล่นตัวหลัก
ปัญหานี้ดูเหมือนจะเป็นแผลใหญ่ที่ส่งผลออกมาชัดเจนสุด การขาดหายไปของเจมส์และชิลเวลล์ และการเจ็บออดๆแอดของผู้เล่นหลายๆคนไม่ว่าจะเป็น จอร์จินโญ่ กองเต้ คริสเต็นเซ่น แวร์เนอร์ พูลิซิส เมาท์ และอีกหลายๆคน ทำให้ทูเคิลต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า บางนัดต้องเอาเซ็นเตอร์มายืนเป็นวิงแบ็ค อย่างนัดที่เจอคริสตัลพาเลส จำใจต้องเอาซาร์มาเล่นวิงซ้าย คริสเต็นเซ่นเล่นวิงขวา หรือนัดที่ต้องการโรเตชั่นต้องให้ รูเบน ลอฟตัสชีค คริสเตียน พูลิซิส หรือ คัลลั่ม ฮัดสันโอดอย มายืนเป็นวิงแบ็คจำเป็น และด้วยปีนี้ปล่อยผู้เล่นออกไปเยอะทำให้สควอดทีมเล็กลงและไม่ได้เสริมเข้า อันนี้น่าเห็นใจมาก

3.ปัญหาเกี่ยวกับแท็คติคของทูเคิล
ก็ต้องยอมรับกันด้วยว่าปีนี้เหมือนจะเป็นปีทดลองอะไรหลายๆอย่างของทูเคิล เช่นการปรับแท็คติคไปเล่นแผนอื่นอย่าง 4-2-2-2บ้าง หรือ4-3-3บ้าง ซึ่งการปรับแท็คติคระหว่างฤดูกาลทำให้ผู้เล่นหลายคนปรับตัวเข้ากับแผนไม่ค่อยได้ จะมีบางคนที่โดดเด่นขึ้นมา
ยกตัวอย่าง ฮาคิม ซิเย็ค ที่พอปรับแผนมาเล่นหลัง4แล้วเจ้าตัวดูเหมือนจะได้สร้างสรรค์เกมรุกได้มากขึ้น แต่กลับกันผู้เล่นหลายคนยังไม่สามารถปรับเข้ากับแผนได้จนต้องเปลี่ยนกลับมาเล่นหลัง5คนดังเดิมเพื่อให้รูปเกมแบบแผนคงที่เหมือนเดิม
เพียงแต่ตอนนี้ผู้เล่นที่ทูเคิลเลือกดูเหมือนจะไม่เข้าระบบสักเท่าไร


จากสถิติท่านNakkiiที่เอามาลง

ค่าเฉลี่ยการทำประตู,จังหว่ะสร้างสรรค์เกม,จังหว่ะง้างยิงของเชลซีน้อยมาก



พูดถึงโรเมลู ลูคาคู

โรเมลู ลูคาคู เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ฟอร์มเชลซีดรอปลงไป จากนักเตะที่ลงนัดแรกเจออาร์เซนอลโชว์ฟอร์มได้ประทับใจจนได้เป็นแมนออฟเดอะแมทช์ในนัดนั้น

การทำชิ่งจากศูนย์หน้า การเข้าใจจังหว่ะทำชิ่งพักบอล จังหว่ะหาช่องจบสกอร์และเข้าฮอสทำประตู การเข้าใจจังหว่ะง้างยิง สิ่งเหล่านี้ที่เชลซีเคยมีดูเหมือนจะหายไปพร้อมกับฟอร์มการเล่นของลูกากู ซึ่งสาเหตุหลักๆที่เดาจากความน่าจะเป็นคือการผิดใจกันระหว่างลูกากูและทูเคิล

หลังจากที่ลูกากูเคยได้ออกมาวิจารณ์แท็คติคของ โทมัส ทูเคิล ช่วงหนึ่งว่าเล่นไม่เหมือนกับตอนที่เขาอยู่ที่อินเตอร์ มิลาน ซึ่งภายหลังลูกากูได้ออกมาขอโทษผ่านวิดิโอให้สัมภาษณ์ทางYoutubeของสโมสรภายหลัง

แต่ก็ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างโทมัส ทูเคิลและลูกากูจะไม่เหมือนเดิมแล้ว ช่วงหลังทูเคิลใช้งานลูกากูน้อยลง และเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บบวกกับแมทช์ลงเล่นน้อยทำให้ดูเหมือนขาดความมั่นใจไป

ประเด็นที่สองคือกองกลางคอร์หลักที่ขาดหายไปอย่าง "มัตเตโอ โควาซิส" ที่ดูเหมือนว่าจะเล่นได้เข้าขาและเข้าใจลูกากูมากที่สุด เป็นคนที่จ่ายบอล ทำชิ่งกับลูกากูมากสุด ซึ่งจุดนี้กองกลางเชลซีไม่มีใครทำได้ ไม่ว่าจะเป็น เอ็นโกโล่ กองเต้ ที่นานๆจะมีลูกจ่ายสวยๆหรือคีย์พาสดีๆประปรายให้เห็น หรือ จอร์จินโญ่ ซึ่งไม่ใช่นักเตะที่จะพาขึ้นหน้าเพื่อเปิดช่องจ่ายแต่เป็นนักเตะที่เน้นคุมจังหว่ะมากกว่า ทำให้จุดนี้เชลซีตกลงไปเนื่องด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บ(อีกแล้ว)


มัตเตโอ โควาซิส และ โรเมลู ลูคาคู



แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นภาพรวมก็ต้องขอชมว่าทูเคิลทำผลงานออกมายังคงทำได้ตามเป้าหมายอยู่ และขอภาวนาให้น้าทูรีดพบฟอร์มเก่งออกมาได้เร็วๆ ก่อนที่จะมีเกมเข้าชิง เอฟเอ คัพ ที่จะเจอของแข็งลิเวอร์พูลครับ



สุดท้ายลองมาย้อนดูไฮไลท์นัดที่ลูกากูเล่นได้ดีกันครับ



*หมายเหตุคลิปหลักสโมสรเอามาลงไม่ได้ต้องเปิดดูในYoutube ขออนุญาตแฟนอาร์เซนอลครับ

ถ้าจะเทียบกับหงส์ปีก่อน ให้ลองนึกภาพเอา jorginho มายืน CB คู่กับ kante ครับ ถึงจะบอกได้ว่านักเตะบาดเจ็บแบบหงส์ปีก่อน

ผมเพิ่มให้อีกหนึ่งปัญหา Human error ปีนี้เยอะมากก มีให้เห็นแทบทุกนัด ทำทีมพังมาก็หลายนัดอยู่

เอาจริงๆ นัดที่เล่นหลัง 4 ดูวูบวาบขึ้นจริงเพราะตัวรุกเยอะขึ้น แต่อันตรายจริงมั้ยผมว่ายังเฉยๆอะ ยิ่งถ้าไปเทียบกับ แมนซิ ลิเวอร์ นี่จะเห็นภาพชัด

เชลซีทีเด็ดน้อย อาวุธน้อย เปรียบเป็นนักมวย เชลซีจากมวยบ๊อกเซอร์สายรัดกุม การ์ดหนาๆ ปรับไปชกสายไฟต์เตอร์ เดินเปิดหน้าไล่ยำ แต่หมัดเด็ดก็มีแค่ ฮุคขวา ( เมาท์ เจมส์ ) คู่ชกเขาก็จับทางง่ายหน่อย

ไปดูแมนซิ ลิเวอร์ เขามีทั้ง ฮุคซ้าย ( ตัวรุกซ้าย ) ฮุคขวา ( ตัวรุกขวา ) อัปเปอร์คัท ( แทงทะลุช่องตรงกลาง ) ตัดลำตัว ( ยิงไกลแถวสอง ) เขาน็อคได้หมดอะ มาจากทุกทิศทุกทาง คู่ชกก็รับมือยากขึ้น


ถ้าจะหลัง 4 มีปีก คือต้องหวังให้ พูลิซิช ซีเย็ค คืนร่างพีคอะ แล้วต้องหวังให้ไม่เจ็บซ้ำด้วยนะ 2 คนนี้จอมเจ็บ

ผมเลยคิดว่าปีหน้าไม่ว่าจะหลัง 3 หรือหลัง 4 ก็ต้องเสริมอาวุธในแนวรุกอยู่ดี

อีกอย่างที่หลัง 4 ลิเวอร์พูล ซิตี้ต่างชาวบ้านคือโกลเขาดันสูงมาเป็นสวีปเปอร์ได้ เอาจริงแบ็กของสองทีมนั้นเขาก็เติมสูงเหมือนวิงอยู่นะ แดนหลังที่เหลือเซ็นเตอร์ 2 คนแต่เขาวิ่งโคเวอร์แบ็กได้เหมือนเซ็นเตอร์ซ้ายขวาของแผนหลังสามเลย เพราะเหมือนมีโกลมาเติมเต็มไม่ต่างแผนหลังสามเป็นเซ็นเตอร์ตัวกลาง

อันนี้ก็เอาปีก-กองกลาง-กองหลังเล่นวิงแบ้คแล้วนะ

จริงครับ ผมว่ามิติเกมรุกส์ มีปัญหาจริงๆ

วิเคราะห์ได้ดี