ผมไม่ได้ตามบอลไทยเลยครับ

ดูทีมชาติแข่งบ้าง แต่ไม่ทุกนัด

ผมขอถามหลายคำถามหน่อยนะครับ

1.ทำไมคนถึงเกลียดบังยีครับ

2.แล้วถ้าเทียบกับสมยศใครดีกว่าครับ

3.แล้วทำไมสมยศก็เหมือนจะโดนเกลียดเหมือนกัน

4.หรือว่าใครมาเป็นตำแหน่งนี้ยังไงก็ต้องโดนเกลียด

ขอบคุณครับ

ผม copy ของคนอื่นมานะ

รวมผลงานสุดสะเด่าของท่าน "บังยี-วรวีร์ มะกูดี"
(เครดิส เพจฟุตบอลอาเซียน)
หลังจาก ลอร์ด เดวิด ทรีสแมน อดีตประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่ามีบอร์ดบริหารของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟ่า” 4 รายเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ในการโหวตเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งมีชื่อของ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลไทยฯ ติดโผไปด้วย
จากกรณีดังกล่าวส่งผลให้มีแฟนลูกหนังจำนวนมากออกมาตำหนิผลงานของ “บิ๊กยี” ผ่าน MGR Sport ซึ่งหนึ่งในนั้นมีการโพสต์ข้อความถึงผลงานสุดอัปยศของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยภายใต้การนำของ วรวีร์มะกูดี ช่วงที่ดำรงตำแหน่ง 2 สมัยซ้อน เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2550-2554
เริ่มกันที่ ปี 2550
– 19 ตุลาคม 2550 : ทีมชาติไทยชุด U-16 แพ้ไต้หวันในรายการ U-16 ชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือก เพราะนักฟุตบอลต้องไปเล่นให้ทีมโรงเรียนตอนเช้าและมาแข่งทีมชาติตอนบ่าย
– 23 ธันวาคม 2550 : เชิญสโมสรฟุตบอลจากประเทศอิรักมาเตะคิงส์คัพ แต่ลวงคนทั้งประเทศว่าเป็นทีมชาติอิรัก
ปี 2551
– 6 กุมภาพันธ์ 2551 : ทีมชาติไทยชุดใหญ่ นำผู้เล่นติดโทษแบน 2 คนเดินทางไปแข่งนัดเจอกับญี่ปุ่นในนัดเยือน (จุดกำเนิดตกรอบปรีโอลิมปิก)
– 14 มิถุนายน 2551 : ทีมชาติไทยชุดใหญ่ไม่มีสนามซ้อม ทำให้ต้องวิ่งซ้อมที่พื้นปูนหน้าสนามราชมังคลาฯ ก่อนแข่งกับญี่ปุ่น ในอีก 2 วันถัดไป
– 2 กันยายน 2551 : ทีมชาติไทยชุด U-19 เข้าร่วมอุ่นเครื่องในรายการทันเนียน คัพ ที่ประเทศเวียดนาม แต่มีผู้รักษาประตูของทีมไปคนเดียว คือแซมมวล ป.คันนิ่งแฮม เนื่องจาก กวิน ธรรมมาสัจจานันท์ ต้องอยู่ช่วยต้นสังกัดลุ้นแชมป์ดิวิชัน 1 (ก็แล้วทำไมไม่เรียกคนอื่นติดไปแทนทั้งๆ ที่เป็นแค่รายการอุ่นเครื่อง)
ปี 2552
– 2 กรกฎาคม 2552 : ทีมชาติไทยชุดใหญ่ต้องตระเวนหาสนามซ้อม แต่ไม่มีสนามให้ซ้อม ต้องงดซ้อม 1 วัน
– 4 กันยายน 2552 : สมาคมฟุตบอลฯ ยกเลิกการไปเก็บตัวที่ประเทศคูเวต และปฎิเสธคำขออุ่นเครื่องของทีมชาติจีนชุดใหญ่ แต่เลือกที่จะเตะฟุตบอล 4 เส้าที่ภูเก็ต เจอกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด, ฮองอัน ยาลาย จากเวียดนาม และยาดานาบอน จากเมียนมาร์ เพื่อเป็นการเตรียมทีมแข่ง เอเชียนคัพ รอบคัดเลือกแทนโดยอ้างว่าไม่มีงบประมาณ
– 19 ตุลาคม 2552 : ทีมชาติไทยชุด U-16 ตกรอบคัดเลือก U-16 ชิงแชมป์เอเชีย เพราะทีมคิดว่าใช้กฎลูกได้เสีย แต่จริงๆ แล้วใช้ เฮดทูเฮด
– 15 พฤศจิกายน 2552 : นัดนักเตะทีมชาติไทยชุดซีเกมส์มารายงานตัวกับผี (เรียกเด็กมา แต่ไม่มีผู้ใหญ่มาเลยสักคน)
– 15 ธันวาคม 2552 : ออกมาแถลงข่าวเรื่องการเบิกงบ 3 ล้านบาท เพื่อสั่งทำถ้วยแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกให้กับแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกปี 2010 จนเวลาผ่านไปนานเพิ่งจะมีการโชว์ถ้วยเมื่อวันศุกร์ที่ 6 พ.ค. 2554
– 15 ธันวาคม 2552 : นายกสมาคมฯ ประกาศจะหาเกมอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่า จนบัดนี้ 1 ปี 5 เดือน ทีมชาติไทยได้อุ่นเครื่องตามปฏิทิน FIFA เพียง 3 นัด (สิงคโปร์ 1, อินเดีย 2 ไม่นับ แอฟริกาใต้) จาก 13 นัดเท่านั้น
– 29 ธันวาคม 2552 : เชิญทีมชาติซิมบับเวปลอมมาเตะอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทยโดยผลักดันให้ ฟีฟ่า รับรองผลการแข่งขันได้ ซึ่งปัจจุบันยกเลิกการรับรองไปแล้ว
ปี 2553
– 11 มกราคม 2553 : สตง.สั่งสอบสวนทีมชาติไทยชุดซีเกมส์มีการเบิกเบี้ยเลี้ยงเกินจริง (เบิกเบี้ยเลี้ยงเต็มปี แต่จริงๆ แล้วเก็บตัว 3 เดือน แต่หลังจากตกรอบซีเกมส์เลยออกมาอ้างว่าเก็บตัวแค่วันเดียวเลยโดนสั่งสอบ)
– 25 กุมภาพันธ์ 2553 : ชาตรี ฉิมทะเล ตกเครื่องบินเมื่อตอนทีมชาติไทยจะบินไปเก็บตัวที่กาตาร์ ซึ่งไม่มีตั๋วสำหรับ ชาตรี แต่ สตีฟ ดาร์บี้ ที่ถูกสมาคมฯ พักงาน กลับได้นั่งเครื่องไปแทน ก่อนที่ชาตรีจะต้องตามไปทีหลัง
– 2 มีนาคม 2553 : สมาคมฟุตบอลไทยฯ ลืมทำวีซ่าเข้าอิหร่านให้นักเตะและสตาฟฟ์โค้ชทำให้เสียเวลา 3 ชม.ที่สนามบินตอนขาเข้าประเทศ
– 1 ตุลาคม 2553 : ทีมชาติไทยชุด U-19 ออกเดินทางไปแข่ง U-19 ชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้ายที่ประเทศจีนในวันที่ 3 ตุลาคม ทำให้นักเตะมีเวลาปรับตัวกับสภาพอากาศเพียง 1 วันก่อนแข่งกับซีเรีย และแพ้ไป 0-1
– 15 พฤษจิกายน 2553 : ทีมชาติไทยชุดเอเชียนเกมส์ต้องเหลือผู้รักษาประตูคนเดียว เพราะ กวิน ผู้รักษาประตูมือ 1 บาดเจ็บ แต่ทีมชาติไทยดันส่งรายชื่อตัวสำรองเป็นผู้เล่นอายุเกิน 23 ทว่าโควตาอายุเกินเต็ม ทำให้ไม่สามารถเรียกมาเสริมได้ จึงต้องเล่นโดยไม่มีผู้รักษาประตูสำรองในนัดที่เหลือ
– 25 พฤษจิกายน 2553 : ประกาศเรียกตัวนักเตะชุดเอเชียนคัพ ที่จะแข่งในวันที่ 1 ธ.ค. ให้มารายงานตัววันที่ 26 พ.ย. แต่เนื่องด้วยติดการแข่งขันเอฟเอคัพ นัดชิงในวันที่ 28 พ.ย. จึงให้มารวมตัวและเดินทางในวันที่ 29และได้ซ้อมวันที่ 30 เพียงวันเดียวก่อนการแข่งกับลาว ทั้งๆ ที่วิธีแก้ง่ายๆคือระหว่างที่ U-23 แข่งเอเชียนเกมส์ ทีมชาติชุดใหญ่ที่เหลือที่ไม่ติดอะไร ก็สามารถเรียกตัวมาซ้อมร่วมกันก่อนก็ได้
ปี 2554
– 3 กุมภาพันธ์ 2554 : นายกสมาคมฯ สั่งแก้ตารางไทยพรีเมียร์ลีกให้เตะเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ห้ามมีกลางสัปดาห์ ทำให้เกินกำหนดส่งรายชื่อเพื่อเข้าแข่งบอลถ้วยเอเชีย (นายกสมาคมฯ ไม่ทราบว่ากำหนดส่งรายชื่อเมื่อไร) เลยแก้เก้อว่าจะไปขอส่งทีหลังแต่สุดท้ายเหลว ต้องแก้ตารางไทยพรีเมียร์ลีกให้กลับไปเตะกลางสัปดาห์อีกรอบ
– 23 กุมภาพันธ์ 2554 : ทีมฟุตบอลโอลิมปิกทีมชาติไทย ถูกปรับแพ้ปาเลสไตน์ 0-3 เพราะส่งผู้เล่นติดโทษแบนลงสนาม
– 6 พฤษภาคม 2554 : นายกสมาคมฯ ล้มการประชุมเพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่โดยไม่มีการลงมติจากที่ประชุม (ถือว่าผิดกฎของ กกท.)
– 10 พฤษภาคม 2554 : อดีต เอฟเอ อังกฤษ ออกมาแฉว่า วรวีร์ มะกูดีเป็น 1 ในบอร์ดฟีฟ่า ที่ทำการขายเสียงในการโหวตเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 โดยเบื้องหน้าคือให้อังกฤษมาเตะอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทย แต่เบื้องหลังคือขอลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดเกมอุ่นเครื่องนัดนี้ไปทั่วโลก แลกกับการโหวตให้ประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก

1. ผลงานในสนามของยุคบังยี ถ้าไม่นับที่ซิโก้เข้ามาทำก็ย่ำแย่นะ
ตกรอบแรกซีเกมส์ 2 สมัยซ้อน (2009 กับ 2011)
ต่อด้วยตกรอบแรก อาเซียน คัพ 2010 แบบไม่ชนะใครสักนัด (มีเวลาเก็บตัวแค่ 3 วัน เพราะบอลติดโปรแกรมบอลภายใน)
ตกรอบแรกคัดเลือกโอลิมปิกเพราะ ส่งนักเตะที่โดนแบนลงสนามจนโดนปรับแพ้(เจ้าตัวประกาศจะฟ้องศาลกีฬาโลกแล้วก็เงียบฉี่)

ส่วนเรื่องบริหารงานของยุคบังยี เรียกว่าไม่บริหารอะไรเลยจะดีกว่า
จองตั๋วนักเตะ ทีมงานสต๊าฟฟ์ไม่ครบ เห็นประจำ
เอกสารวีซ่านักเตะ ทีมงานสต๊าฟฟ์ ไม่เรียบร้อย ปล่อยนักเตะค้างเติ่งในสนามบินนี่ก็เห็นประจำ
ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ไม่มีสนามซ้อม ต้องไปวิ่งสนามปูน ก็มีมาแล้ว
ทีมซีเกมส์ 2013 ได้แชมป์ เงินอัดฉีดเงียบฉี่ จน ธีราทร ต้องออกมาพูด
สมัยนั้นมีประธานฝ่ายเทคนิค ชื่อ ธัญญา โพธิวิจิตต์ หรือ เป็ดเชิญยิ้ม
แชมป์ไทยลีก ยาสูบ กับ การไฟฟ้า โดนตัดสิทธิ์ไปเล่น ACL เพราะสมาคมส่งเอกสารช้ากว่ากำหนด
แมทช์อุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ แทบจะไม่ค่อยมี มีอยู่ปีนึงทีมชาติชุดใหญ่มีแมทช์เตะแค่ 2 นัดตลอดทั้งปี

2.สมยศ ดูดีกว่าเยอะ
ยุคนี้สร้างโค้ชระดับ A-License ได้เยอะมากๆ
ช่วงก่อนโควิด เรามีแมทช์ฟีฟ่าเดย์แทบจะตลอด
ปัญหาเรื่องวีซ่า หรือสนามซ้อม แทบจะไม่มีให้เห็นเลย
การช่วยเหลือสโมสรให้ผ่านมาตรฐานของ AFC จนตอนนี้เราได้โควต้า ACL 2+2

3. เพราะแกชอบพูดอะไรขวานผ่าซากมากเกินไป และการกดดันจนทำให้ซิโก้ลาออก ส่วนที่ผมไม่ชอบคือ แกทำอะไรตามกระแสมากเกินไป เปลี่ยนนู่นนี่นั่นจนการดำเนินการต่างๆ ไม่ต่อเนื่อง

4. เพราะคนในตำแหน่งนี้ มันเป็นสัญลักษณ์ของการบริหารงานทั้งหมดในฟุตบอลไทย เพราะฉะนั้นถ้าทำอะไรไม่ถูกใจหรือผลงานไม่ดี ยังไงก็โดน

สั้นๆคือ ตู่เวอร์ชั่นนายกสมาคม 5555
ทั้งผลประโยชน์ทับซ้อน บริหารห่วย

แต่ตำแหน่งนี้สัมพันธ์กับการเมืองระดับชาตินะ ผมคิดว่าหลายคนยังไม่รู้

สมยศ ผมว่าแกก็สายภูมิใจไทย

การบริหารจัดการยุคบังยีนี่โคตรห่วยแตก

เทียบสมยศผมให้สมยศดีกว่านะ

สมยศก็ปากแซ่บแล้วผลงานไม่มาก็เลยโดน

เอาจริงๆตำแหน่งนี้ก็ตำบลกระสุนตกอะนะทำดีเสมอตัว

1.เรื่องการจัดการบริหารถือว่าล้มเหลวเลยครับ ปฏิทินทีมชาติอย่าหวังว่าจะมีอุ่นเครื่อง อุ่นแต่ไทยลีคออสตาร์
เรื่องรางวัลอัดฉีดพูดซะดิบดี สุดท้ายต้องให้นักบอลออกมาทวงค่าอัดฉีดเอง มีแต่ป้ายกับคำพูด

2.ให้คนปัจจุบันดีกว่าเยอะเลยครับ ความเป็นมาตรฐาน สากล (ไม่งั้นสโมสรในไทยลีคไม่เลือกแน่นอน)

3.น่าจะเพราะคำพูดแก "ใครไม่อายผมอาย" ซึ่งผมเห็นด้วยกับการปลดซิโก้นะ เพราะมันไปต่อยอดถึงเอเชียไม่ได้จริงๆ

4.คนแรกไม่มีอะไรดีเลย มีดีแค่เลือกโค้ชถูก ณ เวลานั้นเท่านั้นเอง คนปัจจุบันบริหารจัดการให้เป็นสากลดี แต่ผลงานทีมชาติบางทีมักจะสวนทางกับความเป็นสากล


ปล.เวลาจะเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลทีไร ปวดใจทุกที กลัวกลับมายุคนั้นเหลือเกิน ยุคมืดบอลไทย อันดับ raking 150+

1. อีบังนี่แม่งตัวฉุดรั้งการพัฒนาบอลไทยเลย คือเป็นนักการเมืองที่ลงมาทำสมาคมแต่ไม่มีวิชั่นอ่ะ ไม่มองสเต็ปการพัฒนาโดยรวม มาเพราะได้เป็นสมาชิกในฟีฟ่า ซึ่งคาดว่าพี่แกมีผลประโยชน์อยู่ในนั้น

2. สมยศดีกว่าแน่นอน แต่ก็มาจากฝั่งการเมืองอีกนั่นแหละ ตัวพี่แกวิชั่นก็ไม่ได้มีอะไรมาก แฟนบอลพูดอะไรแกก็เฮไปทางนั้น โชคดีที่ตอนเข้ามามีเงินจากลิขสิทธิ์เยอะช่วงแรกเลยไปได้ดี แต่พอวิกฤติมา ทำให้เห็นเลยว่าพี่แกสมแล้วที่เป็นตำรวจ ผลงานหลังบ้านดีกว่าบังยีแน่นอน แต่ผลงานในสนามและช่วงที่สมาคมมีวิกฤติทำให้รู้ว่าพี่ยศมีแต่ปากที่ดี 555

3. ทำไมสมยศถึงโดนเกลียด คนเกลียดมากเพราะ “ใครไม่อายผมอาย” แพ้ญี่ปุ่นอาย แต่ยุคพี่แกมันแพ้อาเซี่ยนด้วยไง คนเกลียดแกส่วนหนึ่งเพราะชอบซิโก้ และคิดว่าแกควรให้เกียรติคนที่ทำทีมชาติไทยมาไกลพอๆกับปีเตอร์ วิธ

4. นายกสมาคมทุกคนโดนเกลียดไหม คงจะอยู่ที่ท่าทีความเป็นธรรมมากกว่า เช่น อีบังมันไปแบนทีมคู่แข่งแบบอิหยังวะ และพรี่ยศก็ปากเสีย แต่ถ้าประนีประนอม และมีผลงานมีการพัฒนาที่ชัดเจน คงไม่มีใครด่ามั้ง

ตอนจะเลือกตั้งให้ถนอมมากันทางเข้าไม่ให้พวกที่ไม่ใช่พวกตัวเองเข้าไปผมงี้ขึ้นเลยช่วงนี้น แต่มันก็ผ่านยุคมืดมาได้ครับ

1. ที่ผมจำได้ดีที่เห็นจากข่าวนะ คือดีลกับอังกฤษไว้แล้วว่าเดี๋ยวจะโหวตเลือกอังกฤษเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก2018 แถมอังกฤษจะมีแมตช์อุ่นเครื่องกับเราด้วย สุดท้ายก็ไปหักหลังเขา ไม่โหวตให้อังกฤษ เขาก็โกรธดิ ยกเลิกแมตช์อุ่นเครื่องด้วย แถมเหมือนเคยเบี้ยวเงินนักเตะด้วย จนอุ้มต้องออกมาทวง

2. สมยศดีกว่าเยอะมากครับ การจัดารตรวจสอบได้ มีความเป็นสากล

3. เพราะไล่ซิโก้แถมมีประโยคใครไม่อายผมอาย

4. ตำแหน่งนี้คือบอลชนะชมโค้ชชมนักเตะ บอลแพ้ไล่นายกฯครับ

ต้องถามก่อนว่ามีอะไรให้ชอบ

บริหารได้แบบ บรรยายเหนื่อยอ่ะ

ไปค้นกระทู้ในพันทิพดูได้

ขอไม่เห็นด้วยนะครับ แกหมดกับบอลไทยเยอะมากแทบไม่ได้อ่ะไรเลย แถมมาช่วงโควิตมีแต้ปัญหาให้แก้ ถ้าบอกแกมีผลประโยชน์ทับซ้อนต้องขี้แจงครับ การโพสโดยไม่มีหลักฐานมันทำให้คนอื่นเสียหลายครับ
อันนี้กราบขอโทษอ่านไม่ละเอียด เข้าใจคลาดเคลื่อนกับความหมายเจ้าของกระทู้
อายจังเลย

สมัยบังยีนี่ถึงขั้นมีม๊อบไล่อะครับ ตัวขยะวงการของจริง มีดีแค่เลือกโก้มาคุมไทยยุคทองเฉยๆ

ส่วนสมยศก็โดนเกลียจากที่ไปว่าซิโก้ขวัญใจแม่ยกนั่นแหละครับ

เอาง่ายๆคืออะไรที่แมร่งไม่ควรทำไม่ควรมีจะหาได้หมดในยุคนั้ิน ส่วนอะไรที่้ควรมีหรือควรทำก็หาไม่ได้เช่นกัน บัดซบที่สุด

อย่าให้พวกแม่งได้กลับมาเลย มันพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อยู่ในตำแหน่งยาวๆอ่ะ

บอกตรงๆ บางคนไม่ได้ชอบสมยศอะไรมากหรอก แต่พอไม่มีขั้วที่ 3 ที่ดูดีอย่างชัดเจน

คนเลยเลือกเอาสมยศไว้ก่อน เพราะกลัวขั้วบังยี มานั่นแหละ....

ทีนี้พอมาดามแป้งทำท่าว่าจะขึ้นเองและดูเข้าได้กับทั้งสองฝั่ง ผลงานตอนเป็น ผจก.มี
คนเลยเริ่มเทใจมา เท่านั้นแหละ

สมัยคุณกิติรัตน์ หรือคุณวิรัช เป็นผจก. เคยเห็นกระทู้เชียร์ให้ขึ้นเป็นอยู่เหมือนกัน (คล้ายๆมาดามตอนนี้)

1. ผลงานในสนามของยุคบังยี ถ้าไม่นับที่ซิโก้เข้ามาทำก็ย่ำแย่นะ
ตกรอบแรกซีเกมส์ 2 สมัยซ้อน (2009 กับ 2011)
ต่อด้วยตกรอบแรก อาเซียน คัพ 2010 แบบไม่ชนะใครสักนัด (มีเวลาเก็บตัวแค่ 3 วัน เพราะบอลติดโปรแกรมบอลภายใน)
ตกรอบแรกคัดเลือกโอลิมปิกเพราะ ส่งนักเตะที่โดนแบนลงสนามจนโดนปรับแพ้(เจ้าตัวประกาศจะฟ้องศาลกีฬาโลกแล้วก็เงียบฉี่)

ส่วนเรื่องบริหารงานของยุคบังยี เรียกว่าไม่บริหารอะไรเลยจะดีกว่า
จองตั๋วนักเตะ ทีมงานสต๊าฟฟ์ไม่ครบ เห็นประจำ
เอกสารวีซ่านักเตะ ทีมงานสต๊าฟฟ์ ไม่เรียบร้อย ปล่อยนักเตะค้างเติ่งในสนามบินนี่ก็เห็นประจำ
ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ไม่มีสนามซ้อม ต้องไปวิ่งสนามปูน ก็มีมาแล้ว
ทีมซีเกมส์ 2013 ได้แชมป์ เงินอัดฉีดเงียบฉี่ จน ธีราทร ต้องออกมาพูด
สมัยนั้นมีประธานฝ่ายเทคนิค ชื่อ ธัญญา โพธิวิจิตต์ หรือ เป็ดเชิญยิ้ม
แชมป์ไทยลีก ยาสูบ กับ การไฟฟ้า โดนตัดสิทธิ์ไปเล่น ACL เพราะสมาคมส่งเอกสารช้ากว่ากำหนด
แมทช์อุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ แทบจะไม่ค่อยมี มีอยู่ปีนึงทีมชาติชุดใหญ่มีแมทช์เตะแค่ 2 นัดตลอดทั้งปี

2.สมยศ ดูดีกว่าเยอะ
ยุคนี้สร้างโค้ชระดับ A-License ได้เยอะมากๆ
ช่วงก่อนโควิด เรามีแมทช์ฟีฟ่าเดย์แทบจะตลอด
ปัญหาเรื่องวีซ่า หรือสนามซ้อม แทบจะไม่มีให้เห็นเลย
การช่วยเหลือสโมสรให้ผ่านมาตรฐานของ AFC จนตอนนี้เราได้โควต้า ACL 2+2

3. เพราะแกชอบพูดอะไรขวานผ่าซากมากเกินไป และการกดดันจนทำให้ซิโก้ลาออก ส่วนที่ผมไม่ชอบคือ แกทำอะไรตามกระแสมากเกินไป เปลี่ยนนู่นนี่นั่นจนการดำเนินการต่างๆ ไม่ต่อเนื่อง

4. เพราะคนในตำแหน่งนี้ มันเป็นสัญลักษณ์ของการบริหารงานทั้งหมดในฟุตบอลไทย เพราะฉะนั้นถ้าทำอะไรไม่ถูกใจหรือผลงานไม่ดี ยังไงก็โดน