“จากเต็งบ๊วย สู่แชมป์” ทำไมทีมชาติกรีซ สามารถไปไกลถึงแชมป์ยูโร 2004
17 ปี ที่แล้ว ทีมชาติกรีซ สามารถคว่ำชาติเจ้าภาพ โปรตุเกส คว้าแชมป์ยูโร 2004 ได้ และนี่คือแชมป์แรกในประวัติศาสตร์ของทีมชาติกรีซ
ก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นต์ชาติกรีซ คือเต็งบ๊วยของการแข่งขัน นักบอลเป็นใครแทบจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แถมยังอยู่กลุ่มที่หินที่สุด (Group of death) รวมเสือ สิงห์ กระทิง แรด มาอยู่ในกลุ่มนี้ ทั้ง
โปรตุเกส เจ้าภาพที่เต็มไปด้วยนักเตะระดับโลก เช่น หลุยส์ ฟิโก้, รุย คอสต้า, เดโก้ และดาวรุ่งพุ่งแรงวัย 18 ปี (ในขณะนั้น) อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้
สเปน อดีตแชมป์ 1 สมัย ก็ขนดาวดังมาล้นทีม เช่น ราอูล กอนซาเลซ, คาร์เลส ปูโยล, ชาบี เออร์นานเดซ, ชาบี อลอนโซ่, อีเคร์ กาซิยาส รวมถึงกองหน้าดาวรุ่งในขณะนั้น เฟอร์นานโด ตอร์เรส วัย 20 ปี
และรัสเซีย ที่ชื่อชั้นดูจะพวกฟัดพอเหวียงกับกรีซได้
[เส้นทางการสร้างเทพนิยายกรีก บทยูโร 2004]
รอบแบ่งกลุ่ม
นัดแรก เจอ โปรตุเกส เจ้าภาพ และก็สามารถสร้างเซอร์ไพร์ ได้ตั้งแต่เกมแรก เมื่อพลิกเอาชนะได้ 2-1
นัดที่ 2 ยังคงทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง สามารถเสมอกับ สเปนไปได้ 1-1
นัดสุดท้าย กรีซเกือบจะตกรอบ เมื่อแพ้รัสเซีย 2-1 แต่ขณะเดียวกันอีกสนาม สเปน ดันไปแพ้ โปรตุเกส ทำให้ กรีซ จูงมือโปรตุเกสผ่านเข้ารอบต่อไป
รอบก่อนรองชนะเลิศ
กรีซ ต้องเข้ามาเจอกับทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์เก่าในปี 2000 ที่เต็มไปด้วยนักเตะระดับโลกทั้ง ซีเนดีน ซีดาน, เธียร์รี่ อองรี, โรแบร์ ปีแรส และอีกมากมาย แต่ถึงอย่างนั้น ทีมชาติกรีซ กลับสร้างปาฏิหาริย์ได้อีกครั้ง เฉือนเอาชนะแชมป์เก่าด้วยสกอร์ 1-0 ส่งฝรั่งเศสกลับบ้านทันที
รอบรองชนะเลิศ
กรีซ เจอกับทีมชาติเช็ก ซึ่งก็มีนักเตะดังไม่แพ้ฝรั่งเศส นำมาโดย พาเวล เนดเวด , ปีเตอร์ เช็ก, มิลาน บารอส, แยน โคลเลอร์ และ โทมัส โรซิคกี้ เกมนี้ดูอึดอัดเป็นพิเศษเสมอกันในเวลา 0-0 สุดท้ายช่วงต่อเวลาพิเศษ กรีซก็ขึ้นนำได้สำเร็จ ในนาทีที่ 105 และเป็นประตูชัย เอาชนะเช็กไปได้ 1-0
รองชิงชนะเลิศ
กรีซ โคจรมาพบกับ ทีมชาติโปรตุเกสอีกครั้งนึง ด้านเจ้าภาพหวังจะล้างแค้นกรีซที่ทำแสบไว้ตั้งแต่นัดเปิดสนาม เกมนี้โปรตุเกสทำเกมบุกจัดเต็มใส่ กรีซ ตามคาด แต่สุดท้ายในนาทีที่ 57 เป็น กรีซ ที่โดนกดมาทั้งเกม ได้ประตูออกนำ 1-0 หลังจากขึ้นนำได้ ก็ตั้งรับแน่น และสามารถยันสกอร์นี้ไว้ได้จนจบเกม
กรีซ ทำให้แฟนบอลเจ้าภาพน้ำตาร่วงอีกครั้งเมื่อเอาชนะ โปรตุเกส 1-0 จากโอกาสทำประตูที่เข้ากรอบเพียงครั้งเดียวในเกม คว้าแชมป์ยูโร 2004 ได้อย่างปาฏิหาริย์ นี่คือแชมป์ระดับเมเจอร์ รายการแรกและรายการเดียวของทีมชาติกรีซ จนถึงปัจจุบัน
[ทำไมทีมชาติกรีซถึงได้แชมป์ยูโร 2004]
ขอยกเครติดให้กุนซือของทีมชาติกรีซในขณะนั้น อ๊อตโต้ เรห์ฮาเก้ล ยอดกุนซือชาวเยอรมัน ที่ศึกษาทีมชาติกรีซมาเป็นอย่างดี ทั้งด้านกายภาพ และจิตใจ เขาดึงความสามารถ และสปิริตของผู้เล่นออกมาได้ รวมถึงรู้ว่าพวกเขาควรจะเล่นแบบไหน และต้องทำอะไร ในการแข่งขันแบบทัวร์นาเม้นต์
ในเมื่อความสามารถของนักเตะไม่ได้เป็นจุดเด่นของทีมชาติกรีซ เมื่อเทียบกับชาติอื่นๆที่มีซุปเปอร์สตาร์เต็มทีม ดังนั้น อ๊อตโต้ เรห์ฮาเก้ล จึงซื้อ “เกมรับ” เป็นหลัก ใช้ความแข็งแรงของนักเตะบีบเกม ตัดเกม และสวนกลับ เน้นลูกตั้งเตะ และเน้นบอลโยน ผลที่ออกมาคือ
- กรีซ เสียประตูน้อยมาก เสีย 4 ประตูตลอดทั้งทัวร์นาเม้นต์ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในรอบแบ่งกลุ่ม รอบลึกๆ กรีซไม่เสียประตูให้ทีมไหนเลย ทั้งๆ ที่เจอแต่ชาติมหาอำนาจทั้งนั้น
- ชนะคู่แข่งด้วยผลต่างประตู 1 ลูกทั้งหมด (1-0, 2-1)
ทั้งหมดนี้ตรงตามแผนที่ อ๊อตโต้ เรห์ฮาเก้ล ได้วางไว้อยู่แล้ว ประกอบกับหัวจิตหัวใจของนักเตะกรีซทุนคนที่ไม่ยอมแพ้ และต่อสู้มาจนสุดท้ายคว้าแชมป์ยูโร 2004 แบบหักปากกาเซียนทั้งโลก
ข้อมูลเพิ่มเติม
อ๊อตโต้ เรห์ฮาเก้ล เคยสร้างปาฏิหาริย์มาแล้วก่อนหน้านี้ เคยพาทีมที่เพิ่มเลื่อนชั้นขึ้นมาอย่าง ไกเซอร์เสลาเทิร์น คว้าแชมป์บุนเดสลีกา ในฤดูกาล 1997-98 เรียกได้ว่าเป็นงานถนัดของเขาเลยทีเดียว