BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: ★・:・。Honey。・:・★
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 9247
ที่อยู่: จายเหมี่ยง ❤
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 07:04
[บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer
บทความนี้ผมแปลมาจาก บทความที่ Melissa Reddy นักข่าววงในของหงส์ เขียนลงใน Independent นะครับ

https://www.independent.co.uk/sport/football/transfers/liverpool-transfer-news-mbappe-sancho-havertz-summer-melissa-reddy-a9314306.html

Kylian Mbappe, Jadon Sancho, Kai Havertz? มามองแผนซื้อขายสำหรับตลาด Summer ของ Liverpool ในเชิงลึกกันครับ

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ในระหว่างที่คู่ปรับทั้งหลาย พยายามเซ็นนักเตะกันอย่างวุ่นวาย เพื่อให้ซื้อขายนักเตะได้ทันก่อน deadline 3 คนสำคัญของ Liverpool ได้อยู่อย่างปลีกวิเวกจากสถานการณ์วุ่นวายเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง และพูดคุยกันถึงแผนการซื้อขายนักเตะในช่วง Summer ระหว่างการรับประทานอาหารมื้อเย็นกัน

บทสนทนาระหว่าง Klopp, Michael Edwards, และประธาน FSG อย่าง Mike Gordon นั้นได้ยึดอยู่บนหลักการที่มั่นคง นั่นคือ "อย่าละทิ้งจากหลักการ ที่ทำให้สโมสรมาถึงจุดนี้ได้"

ด้วยเจตจำนงของ Klopp, น้ำพักน้ำแรงทีมงานซื้อขาย และการสนับสนุนจาก FSG ได้ทำให้ Anfield นั้น กลายเป็นจุดหมายของนักเตะหลายๆคน ไม่ใช่แค่ว่าดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดนั้นตกเป็นข่าวกับ Liverpool แต่ยังเป็นทีมที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอๆด้วย

และแน่นอน มันทำให้เกิดความคาดหวังขึ้นมาด้วย (ในการได้นักเตะสตาร์ทั้งหลาย) ซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็ค่อนข้างที่เกินจริงไปหน่อย

เพราะงั้นมาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า Liverpool นั้น สนใจในตัว Kylian Mbappe, Jadon Sancho และ Kai Havertz อยู่หรือเปล่า? แน่นอนว่า สนใจสิ มันคงตลกแย่เลย ถ้าจะไม่สนใจดาวรุ่งเหล่านี้

ผู้เขียนบทความนี้ ได้รายงานถึงความสนใจของ Liverpool ต่อ Mbappe นั้น ตั้งแต่ตอน กุมภาพันธ์ 2016 ตั้งแต่เขายังไม่ได้เซ็นสัญญาอาชีพกับ Monaco เลยด้วยซ้ำ และเอกสารการ scout นั้นได้ถูกร่างขึ้นตั้งแต่ 16 เดือน ก่อนหน้านั้นด้วย

Liverpool นั้นตั้งใจจะดึง Sancho มาจาก Man City ในปี 2017 ด้วย ถ้าหากในตอนนั้น Man City ยอมทำธุรกิจด้วยน่ะนะ และ Havertz นั้น ก็เป็นผู้เล่นที่ Klopp และ Edwards ช่วยกันสรรหาขึ้นมา จากการไล่ติ๊กช่องคุณสมบัติที่ทั้งคู่นั้นตามหา จนมาลงเอยที่เขานี่ล่ะ

Klopp และทีมงานแมวมองเองนั้นชื่นชอบในฝีเท้าของ Son Heung Min และ Marcus Rashford ด้วย แต่ก็เป็นได้แค่เพียงความสนใจเล็กๆ เพราะทั้งสองคนนั้น สโมสรต้นทางไม่มีทางยอมปล่อยให้ Liverpool แน่ๆ

ความสมเหตุสมผลและค่าตัว คือปัจจัยใหญ่ๆเลย ในการตัดสินใจว่าจะซื้อตัวผู้เล่นคนนึงหรือไม่ แล้ว Liverpool ล่ะ มีตังพอหรือเปล่า ที่จะไปล่าดาวรุ่งฝีเท้าดีเหล่านั้น?

คำตอบคือ มีสิ เพราะตั้งแต่ Klopp เข้ามาคุมในปี 2015 ยอดการใช้เงินในตลาดซื้อขายนั้น เป็น +74.5 ล้านปอนด์ (ขายได้มากกว่าซื้อ) โดยยังไม่รวมถึง รายได้อื่นๆจากผลงานในสนาม (ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด UCL รอบลึกๆ เป็นต้น) และไหนจะรายได้จากสินค้าของสโมสรอีกมากมายอีก

ถึงแม้สโมสรจะมีเงินไว้พร้อมสำหรับการซื้อขาย แต่สโมสรนั้นรู้ตัวดีว่า มาถึงในจุดจุดนี้ได้โดยการไม่ใช้จ่ายเกินตัว และคงหลักการนั้นไว้เช่นเดิม

การซื้อขาย จะขึ้นอยู่กับเพียงว่าทีมนั้นจำเป็นจะต้องนำเข้าในตำแหน่งนั้นจริงๆ คือจะต้องมีอิทธิพลกับทีมมากๆ ทำให้ทีมดีขึ้นอย่างมหาศาล แทนที่จะไปรุมแย่งผู้เล่นระดับ High-profile กับทีมอื่นๆ

เช่นกรณีของ Havertz ที่ถูกตั้งราคาไว้ ราวๆ 80++ ล้านปอนด์ ราคานั้นเป็นราวๆ 2 เท่าของราคาตลาดที่ Liverpool ได้ประเมินค่าตัวเขาไว้ เพราะฉะนั้น Liverpool จึงไม่มีแผนที่จะเริ่มคว้าตัวเขาอย่างจริงๆจังๆเลย Liverpool ชื่นชอบในตัวเขาและอยากได้เขานะ แต่ไม่ได้ถึงขนาดจำเป็นต้องซื้อเขาให้ได้ และที่แน่ๆคือไม่ใช่ในราคาระดับนั้น

Sancho และ Mbappe ก็อยู่ในข่ายเดียวกัน ถึงแม้ว่าราคาที่ Livepool ประเมินไว้จะสูงกว่า Havertz ก็ตาม และค่าตัวมหาศาล มันก็พ่วงค่าเหนื่อยสุดล่ำซำมาด้วย ซึ่งจะมีผลกระทบทางอ้อมกับผู้เล่นอื่นๆในทีมอีกด้วย

นอกจากว่า Liverpool จะต้องเสีย 1 ใน 3 ประสานแดนหน้าไป ซึ่ง Liverpool คาดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นใน Summer นี้ เพราะทั้ง Sadio Mane, Mohamed Salah หรือ Roberto Firmino ไม่มีใครแสดงความต้องการในการจะย้ายออกเลย จึงไม่มีที่ในแนวรุกที่จะซื้อตัวรุกสุดเฟี๊ยวฟ๊าว อย่างที่แฟนบอลหลายๆคนหวัง

อีกประเด็นหนึ่งกับผู้เล่น 3 คนนี้ ที่ตกเป็นข่าวกับ Liverpool คือ ขนาดโค้ชคีบอร์ดก็ยังแนะนำได้ ว่าให้เซ็น 3 คนนี้ซะ

คุณไม่จำเป็นต้องเป็น Sporting Director ขั้นเทพ ก็สามารถสรุปได้ ว่า Sancho, Mbappe และ Havertz นั้น เป็นเป้าหมายที่น่าพิจารณา และอย่างที่เราๆเห็นกัน ว่า Edwards และทีมของเขา ประกอบกับหน่วยงานข้อมูลที่นำด้วย Ian Graham ไม่ค่อยจะจิ้มไปที่เป้าหมายที่ชัดๆที่ปรากฎตามหน้าสื่อหรอก

พวกเขาเคยถูกตั้งแง่มาแล้ว กับการสนับสนุนดีล ราคา 29 ล้านปอนด์ในการนำเข้า Firmino, การคว้าตัวแบบไม่มีคนแย่งซื้อ ผู้เล่นที่ล้มเหลวกับเชลซี อย่าง Salah, การไปซื้อ "ใครวะ" อย่าง Andy Robertson มาแก้ปัญหาเรื้อรังในตำแหน่งแบ็คซ้าย, การไปเซ็นปีกดาดๆในลีคมาในราคาที่ไม่เบา อย่าง Mane, และไหนจะ Wijnaldum และ Chamberlain ที่ทุกคนมองว่าซื้อมาทำไม จนถึงการรีบไปซื้อ Minamino มาล่าสุด ก่อนที่ตลาดจะรู้เรื่องค่าฉีกสัญญา

การซื้อที่ค่อนข้างตรงตามข่าว ของ Edwards นั้น มี 2 ดีล คือ Van Dijk และ Alisson ซึ่งเป็นตัวผู้เล่นที่สโมสร "จำเป็น" ที่จะต้องซื้อมาให้ได้ โดยสโมสรได้ใช้วิธีทุ่มสุดตัว เพื่อให้ได้ตัวผู้เล่นมาเลย

Liverpool คิดว่า โดยมองจากสภาพทีมตอนนี้แล้ว ไม่มีตัวเลือกในตลาด Summer ที่จะเข้าข่ายแบบ Van Dijk และ Alisson เลย

ในตอนนี้ เป้าหมายของสโมสรคือ การต่อสัญญา ทั้ง Van Dijk และ Alisson ในระยะยาว โดยทั้งคู่ก็อยากต่อสัญญาเช่นกัน ส่วน Joe Gomez, Trent Alexander-Arnold, Andy Robertson เพิ่งจะต่อสัญญาไปในช่วง 13 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งการจะต่อสัญญา รั้งและตอบแทนขุนพลที่ผลงานเยี่ยมเหล่านี้ไว้ ก็ไม่ใช่ใช้เงินน้อยๆแน่นอน

มีเสียงเรียกร้องที่มีเหตุ มีผล ให้เสริมแบ็คซ้ายมา Stand by และ Liverpool ก็มองหาจริงๆ ในเมื่อ Summer ที่แล้ว โดย Raphael Guerreiro ของ Dortmund นั้น เป็นเป้าหมาย ซึ่งจะราคาราวๆ 17 ล้านปอนด์ และค่าเหนื่อยราวๆ 60k ต่อสัปดาห์

สโมสรรู้สึกว่า มันจะเป็นการใช้เงินโดยที่ไม่จำเป็น เพราะ Robertson จะไม่ได้ลงตัวจริง ก็แค่เมื่อมีอาการบาดเจ็บ หรือโดนแบน หรือพักตัว โดยที่มี James Milner กับ Gomez คอยทดแทนได้อยู่แล้ว พร้อมกับกำลังเฝ้าดูการพัฒนาของ Yasser Larouci อยู่ด้วย

เช่นเดียวกับอีกฝั่ง ที่ไม่อยากจะนำเข้าแบ็คขวา ที่จะต้องควักเงินราวๆ 30 ล้านปอนด์ โดยที่มี Neco Williams กำลังเริ่มเฉิดฉาย Klopp รู้สึกว่าการเพิ่มความหลากหลายในช่วงอายุให้กับทีมนั้นดีกว่ามีไม้แก่(ผู้เล่นอายุมาก)เป็นส่วนมากไว้ในทีม

Liverpool ประเมินว่า นโยบายที่ไม่ใช้เงินอย่างสิ้นเปลือง จะทำให้ทีมนั้นยืดหยุ่นเพียงพอ ที่จะตอบสนอง เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องนำเข้า game-changer (ตัวเปลี่ยนสถานการณ์ในทีม หรือดีลใหญ่ๆ)

เมื่อมองย้อนไปถึง มหากาพ Coutinho ในช่วงปี 2017 ซึ่งทุกอย่างมันเริ่มจาก PSG ที่ไปฉีกสัญญา Neymar ด้วยค่าตัวมหาศาล ซึ่งเป็นตัวจุดประกายให้ Barcelona เริ่มเดินดีลนี้

Coutinho รายงานตัวที่ Melwood อย่างแฮปปี้ ในช่วง pre-season และเตรียมตัวพร้อมกับ season ใหม่ แต่ทุกอย่างพลิกจากหน้ามือเป็นหลังทีนในทันที เมื่อ 21 กรกฎาคม ที่ Liverpool ได้ปัดข้อเสนอของ Barcelona ที่ขอซื้อตัว Coutinho เข้ามา

จนก่อนที่ Coutinho จะมีท่าทีเปลี่ยนไป Klopp ได้พูดคุยกับ Coutinho ในเย็นวันเดียวกันกับที่ข้อเสนอนั้นถูกปัดตกไป โดยไม่มีท่าทีใดๆจาก playmaker ชาวบราซิล ว่าจะอยากออกจาก Anfield ท่าทีของ Coutinho ที่งอแงอยากย้ายขึ้นมานั้น มันขัดกับ character ปกติของเจ้าตัว และบีบให้ Liverpool นั้นต้องปรับเปลี่ยนแผนซื้อขายในช่วงที่ใกล้กับการเปิด season มากๆ

แม้ว่า Liverpool จะรับมือได้ดีกับสถานการณ์นั้น โดยรีดค่าตัวมาได้โดยการันตี 130 ล้านปอนด์ และชะลอการย้ายตัวให้เป็นในตลาดหน้าหนาว และนำเงินไปลงทุนกับดีล Van Dijk และ Alisson ในตอนนี้ Liverpool มั่นใจว่า ทีมนั้นมีความยืดหยุ่นสูงขึ้นมาก ในการรับมือกับสถานการณ์ทำนองเดิม หากเกิดขึ้นในตลาดรอบที่จะถึงนี้

โดยจุดนี้จะเพิ่ม ความแข็งแกร่งให้กับสโมสร ในแง่ที่ จะมีเงินในคลังที่พร้อมจ่าย ยกระดับฝีเท้าของผู้เล่นที่สโมสรสามารถดึงดูดได้ และจะสามารถทำให้สโมสรสามารถรอได้ ที่จะไม่ซื้อคนอื่นในตลาดซื้อขาย หากจำเป็นที่จะต้องรอเป้าหมายที่ถูกสเป็คจริงๆ

Liverpool ไม่จำเป็นต้อง panic buy (แตกตื่น เพื่อไปซื้อตัวแทนที่ย้ายออก) แม้จะมีเหตุการณ์แบบตอน Coutinho เกิดขึ้นอีกจริงๆ ในตอนนี้ Liverpool คาดไว้ว่าจะเสีย Lallana และ Clyne ไป และผู้เล่นที่ต้องการเวลาลงสนามอีกบางคน ใน Summer ที่จะถึงนี้

ดังนั้น Liverpool น่าจะเตรียมตัวกับ ตลาด Summer ที่น่าจะเงียบเหงา นอกจากจะมีปัญหาใหญ่หลวงบางอย่าง เช่น อาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลัก หรือ ผู้เล่นหลักบีบขอย้ายออก ซึ่งเป็นเรื่องที่ Liverpool จะต้องพร้อมแก้

ในเมื่อ Liverpool ไม่จำเป็นต้องมีการผ่าตัดใหญ่ ยกเครื่องใหม่อะไร มันคงแปลกน่าดูที่ Liverpool จะตกเป็นข่าวกับการที่จะยื่นซื้อผู้เล่นในราคาระดับ 80 ล้านปอนด์ หรือมากกว่านั้น

ใครล่ะ ที่จะมาแทนที่ 11 ตัวจริงของ Liverpool ในราคานั้น? 1 ในเรื่องถนัดของการซื้อขายสโมสรคือ การประเมินเป้าหมายอย่างละเอียดยิบ

เป้าหมายนั้นจะทนเป็นเดือนๆ เพื่อจะต้องปรับตัวให้ตรงกับความต้องการของ Klopp ได้มั้ย โดยที่ต้องปรับทั้งเรื่องในสนาม และนอกสนาม ลองดู Robertson หรือ Fabinho ที่ย้ายมาด้วยราคา 43.7 ล้านปอนด์ แต่ต้องรอราว 18 วีค กว่าจะได้เริ่มลงสนาม

Liverpool ตอนนี้ เลี่ยงที่จะต้องสร้างทีมใหม่ และมีเป้าหมายที่จะให้ทีมนั้น โตไปด้วยกัน แก่ไปด้วยกัน ในแบบเดียวกับ Bayern Munich ที่มี Robben และ Ribery ที่อยู่วิ่งกันยันแก่

แต่ถึงอย่างนั้น การผลัดใบผู้เล่น ก็ได้มีการเตรียมไว้แล้ว ทั้งการซื้อ Harvey Elliot เข้ามา และการมองหาผู้เล่นที่หน่วยก้านดี มีศักยภาพสูงในตลาด ที่อยากจะพัฒนาฝีเท้าตนเอง

ผู้เล่นเหล่านี้จะเข้าข่ายเดียวกับ Mane และ Firmino ที่เก่ง ในวันที่ย้ายมา แต่สามารถเติบโตขึ้นได้ จนเป็นสตาร์ได้ ด้วยการฟูมฟักดูแลของ Klopp

ในช่วง 2 เดือนถัดไป Liverpool จะตัดสินใจเรื่องดาวรุ่ง และผู้เล่นที่ถูกปล่อยยืม Curtis Jones พร้อมหรือยังสำหรับการขึ้นชุดใหญ่อย่างเต็มตัว หรือเขาควรออกไปหาประสบการณ์ยืมตัว เพื่อหาเวลาลงสนามมากกว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับ Harry Wilson, Rhian Brewster? การตัดสินใจเหล่านี้ จะทำให้แผนของตลาดซื้อขายของ Liverpool นั้นชัดเจนขึ้น

และเพื่อเป็นการย้ำว่า ความยืดหยุ่นในตลาดเป็นเรื่องที่จำเป็น ในปี 2017 Liverpool นั้นได้เล็งเป้าหมายหลักในแดนหน้าไว้เป็น Julian Brandt

แต่ในเบื้องหลัง ทีมงานแมวมองได้เก็บสถิติ ศึกษารายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับ Salah และไม่กี่เดือนถัดมา เขาก็ได้กลายเป็นเป้าหมายหลักแทน Brandt

Brandt นั้นกังวลเกี่ยวกับเรื่องการปรับตัว หากมาเล่นใน Premier League และกังวลว่าจะได้ลงตัวจริงเสมอๆหรือไม่ แต่ Edwards นั้นมองว่า Salah นั้นสามารถเป็นตัวอันตรายได้ดีกว่า และทำให้การถ่ายบอล เชื่อมเกมของแนวรุก Liverpool จะทำได้ดีกว่า

Klopp นั้นเห็นด้วยอย่างยิ่ง และ Liverpool ก็ได้ปรับเปลี่ยนเป้าหมายทันที ในตอนนี้มันมีบางชื่อที่เป็นมติในการซื้อขายของสโมสรอยู่ก็จริง แต่ในอีก 2 เดือน อาจจะเปลี่ยนคนก็เป็นได้ หรือในทางกลับกันก็เป็นไปได้เช่นกัน

แต่ Liverpool นั้น จะหนักแน่น และยึดอยู่กับหลักการเดิม ที่ทำให้หงส์แดงกลับมาบินสูงดังเดิมอย่างแน่นอน

ปล. เนื่องจากมียูสหนึ่งกล่าวหาผม ว่าไปคัดลอกจากเพจ Legend7 มาแล้วเอามาเปลี่ยนคำ เหมือนเดิมซะ 90% รบกวนทุกท่านช่วยเทียบบทความที่ผมแปล กับ link ด้านล่างด้วยครับ ว่าผมคัดลอกมาเปลี่ยนคำจริงหรือไม่

https://www.facebook.com/Legend7Seven/posts/2884159771675540?__tn__=K-R
แก้ไขล่าสุดโดย อะไรนะ? เมื่อ Tue Feb 04, 2020 15:41, ทั้งหมด 4 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 373
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 07:16
ถูกแบนแล้ว
[RE: [บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer]
อะไรนะ? พิมพ์ว่า:
บทความนี้ผมแปลมาจาก บทความที่ Melissa Reddy นักข่าววงในของหงส์ เขียนลงใน Independent นะครับ

https://www.independent.co.uk/sport/football/transfers/liverpool-transfer-news-mbappe-sancho-havertz-summer-melissa-reddy-a9314306.html

Kylian Mbappe, Jadon Sancho, Kai Havertz? มามองแผนซื้อขายสำหรับตลาด Summer ของ Liverpool ในเชิงลึกกันครับ

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ในระหว่างที่คู่ปรับทั้งหลาย พยายามเซ็นนักเตะกันอย่างวุ่นวาย เพื่อให้ซื้อขายนักเตะได้ทันก่อน deadline 3 คนสำคัญของ Liverpool ได้อยู่อย่างปลีกวิเวกจากสถานการณ์วุ่นวายเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง และพูดคุยกันถึงแผนการซื้อขายนักเตะในช่วง Summer ระหว่างการรับประทานอาหารมื้อเย็นกัน

บทสนทนาระหว่าง Klopp, Michael Edwards, และประธาน FSG อย่าง Mike Gordon นั้นได้ยึดอยู่บนหลักการที่มั่นคง นั่นคือ "อย่าละทิ้งจากหลักการ ที่ทำให้สโมสรมาถึงจุดนี้ได้"

ด้วยเจตจำนงของ Klopp, น้ำพักน้ำแรงทีมงานซื้อขาย และการสนับสนุนจาก FSG ได้ทำให้ Anfield นั้น กลายเป็นจุดหมายของนักเตะหลายๆคน ไม่ใช่แค่ว่าดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดนั้นตกเป็นข่าวกับ Liverpool แต่ยังเป็นทีมที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอๆด้วย

และแน่นอน มันทำให้เกิดความคาดหวังขึ้นมาด้วย (ในการได้นักเตะสตาร์ทั้งหลาย) ซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็ค่อนข้างที่เกินจริงไปหน่อย

เพราะงั้นมาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า Liverpool นั้น สนใจในตัว Kylian Mbappe, Jadon Sancho และ Kai Havertz อยู่หรือเปล่า? แน่นอนว่า สนใจสิ มันคงตลกแย่เลย ถ้าจะไม่สนใจดาวรุ่งเหล่านี้

ผู้เขียนบทความนี้ ได้รายงานถึงความสนใจของ Liverpool ต่อ Mbappe นั้น ตั้งแต่ตอน กุมภาพันธ์ 2016 ตั้งแต่เขายังไม่ได้เซ็นสัญญาอาชีพกับ Monaco เลยด้วยซ้ำ และเอกสารการ scout นั้นได้ถูกร่างขึ้นตั้งแต่ 16 เดือน ก่อนหน้านั้นด้วย

Liverpool นั้นตั้งใจจะดึง Sancho มาจาก Man City ในปี 2017 ด้วย ถ้าหากในตอนนั้น Man City ยอมทำธุรกิจด้วยน่ะนะ และ Havertz นั้น ก็เป็นผู้เล่นที่ Klopp และ Edwards ช่วยกันสรรหาขึ้นมา จากการไล่ติ๊กช่องคุณสมบัติที่ทั้งคู่นั้นตามหา จนมาลงเอยที่เขานี่ล่ะ

Klopp และทีมงานแมวมองเองนั้นชื่นชอบในฝีเท้าของ Son Heung Min และ Marcus Rashford ด้วย แต่ก็เป็นได้แค่เพียงความสนใจเล็กๆ เพราะทั้งสองคนนั้น สโมสรต้นทางไม่มีทางยอมปล่อยให้ Liverpool แน่ๆ

ความสมเหตุสมผลและค่าตัว คือปัจจัยใหญ่ๆเลย ในการตัดสินใจว่าจะซื้อตัวผู้เล่นคนนึงหรือไม่ แล้ว Liverpool ล่ะ มีตังพอหรือเปล่า ที่จะไปล่าดาวรุ่งฝีเท้าดีเหล่านั้น?

คำตอบคือ มีสิ เพราะตั้งแต่ Klopp เข้ามาคุมในปี 2015 ยอดการใช้เงินในตลาดซื้อขายนั้น เป็น +74.5 ล้านปอนด์ (ขายได้มากกว่าซื้อ) โดยยังไม่รวมถึง รายได้อื่นๆจากผลงานในสนาม (ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด UCL รอบลึกๆ เป็นต้น) และไหนจะรายได้จากสินค้าของสโมสรอีกมากมายอีก

ถึงแม้สโมสรจะมีเงินไว้พร้อมสำหรับการซื้อขาย แต่สโมสรนั้นรู้ตัวดีว่า มาถึงในจุดจุดนี้ได้โดยการไม่ใช้จ่ายเกินตัว และคงหลักการนั้นไว้เช่นเดิม

การซื้อขาย จะขึ้นอยู่กับเพียงว่าทีมนั้นจำเป็นจะต้องนำเข้าในตำแหน่งนั้นจริงๆ คือจะต้องมีอิทธิพลกับทีมมากๆ ทำให้ทีมดีขึ้นอย่างมหาศาล แทนที่จะไปรุมแย่งผู้เล่นระดับ High-profile

เช่นกรณีของ Havertz ที่ถูกตั้งราคาไว้ ราวๆ 80++ ล้านปอนด์ ราคานั้นเป็นราวๆ 2 เท่าของราคาตลาดที่ Liverpool ได้ประเมินค่าตัวเขาไว้ เพราะฉะนั้น Liverpool จึงไม่มีแผนที่จะเริ่มคว้าตัวเขาอย่างจริงๆจังๆเลย Liverpool ชื่นชอบในตัวเขาและอยากได้เขานะ แต่ไม่ได้ถึงขนาดจำเป็นต้องซื้อเขาให้ได้ และที่แน่ๆคือไม่ใช่ในราคาระดับนั้น

Sancho และ Mbappe ก็อยู่ในข่ายเดียวกัน ถึงแม้ว่าราคาที่ Livepool ประเมินไว้จะสูงกว่า Havertz ก็ตาม และค่าตัวมหาศาล มันก็พ่วงค่าเหนื่อยสุดล่ำซำมาด้วย ซึ่งจะมีผลกระทบทางอ้อมกับผู้เล่นอื่นๆในทีมอีกด้วย

นอกจากว่า Liverpool จะต้องเสีย 1 ใน 3 ประสานแดนหน้าไป ซึ่ง Liverpool คาดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นใน Summer นี้ เพราะทั้ง Sadio Mane, Mohamed Salah หรือ Roberto Firmino ไม่มีใครแสดงความต้องการในการจะย้ายออกเลย จึงไม่มีที่ในแนวรุกที่จะซื้อตัวรุกสุดเฟี๊ยวฟ๊าว อย่างที่แฟนบอลหลายๆคนหวัง

อีกประเด็นหนึ่งกับผู้เล่น 3 คนนี้ ที่ตกเป็นข่าวกับ Liverpool คือ ขนาดโค้ชคีบอร์ดก็ยังแนะนำได้ ว่าให้เซ็น 3 คนนี้ซะ

คุณไม่จำเป็นต้องเป็น Sporting Director ขั้นเทพ ก็สามารถสรุปได้ ว่า Sancho, Mbappe และ Havertz นั้น เป็นเป้าหมายที่น่าพิจารณา และอย่างที่เราๆเห็นกัน ว่า Edwards และทีมของเขา ประกอบกับหน่วยงานข้อมูลที่นำด้วย Ian Graham ไม่ค่อยจะจิ้มไปที่เป้าหมายที่ชัดๆที่ปรากฎตามหน้าสื่อหรอก

พวกเขาเคยถูกตั้งแง่มาแล้ว กับการสนับสนุนดีล ราคา 29 ล้านปอนด์ในการนำเข้า Firmino, การคว้าตัวแบบไม่มีคนแย่งซื้อ ผู้เล่นที่ล้มเหลวกับเชลซี อย่าง Salah, การไปซื้อ "ใครวะ" อย่าง Andy Robertson มาแก้ปัญหาเรื้อรังในตำแหน่งแบ็คซ้าย, การไปเซ็นปีกดาดๆในลีคมาในราคาที่ไม่เบา อย่าง Mane, และไหนจะ Wijnaldum และ Chamberlain ที่ทุกคนมองว่าซื้อมาทำไม จนถึงการรีบไปซื้อ Minamino มาล่าสุด ก่อนที่ตลาดจะรู้เรื่องค่าฉีกสัญญา

การซื้อที่ค่อนข้างตรงตามข่าว ของ Edwards นั้น มี 2 ดีล คือ Van Dijk และ Alisson ซึ่งเป็นตัวผู้เล่นที่สโมสร "จำเป็น" ที่จะต้องซื้อมาให้ได้ โดยสโมสรได้ใช้วิธีทุ่มสุดตัว เพื่อให้ได้ตัวผู้เล่นมาเลย

Liverpool คิดว่า โดยมองจากสภาพทีมตอนนี้แล้ว ไม่มีตัวเลือกในตลาด Summer ที่จะเข้าข่ายแบบ Van Dijk และ Alisson เลย

ในตอนนี้ เป้าหมายของสโมสรคือ การต่อสัญญา ทั้ง Van Dijk และ Alisson ในระยะยาว โดยทั้งคู่ก็อยากต่อสัญญาเช่นกัน ส่วน Joe Gomez, Trent Alexander-Arnold, Andy Robertson เพิ่งจะต่อสัญญาไปในช่วง 13 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งการจะต่อสัญญา เก็บและตอบแทนขุนพลที่ผลงานเยี่ยมเหล่านี้ไว้ ก็ไม่ใช่ใช้เงินน้อยๆแน่นอนน

มีเสียงเรียกร้องที่มีเหตุ มีผล ให้เสริมแบ็คซ้ายมา Stand by และ Liverpool ก็มองหาจริงๆ ในเมื่อ Summer ที่แล้ว โดย Raphael Guerreiro ของ Dortmund นั้น เป็นเป้าหมาย ซึ่งจะราคาราวๆ 17 ล้านปอนด์ และค่าเหนื่อยราวๆ 60k ต่อสัปดาห์

สโมสรรู้สึกว่า มันจะเป็นการใช้เงินโดยที่ไม่จำเป็น เพราะ Robertson จะไม่ได้ลงตัวจริง ก็แค่เมื่อมีอาการบาดเจ็บ หรือโดนแบน หรือพักตัว โดยที่มี James Milner กับ Gomez คอยทดแทนได้อยู่แล้ว พร้อมกับกำลังเฝ้าดูการพัฒนาของ Yasser Larouci อยู่ด้วย

เช่นเดียวกับอีกฝั่ง ที่ไม่อยากจะนำเข้าแบ็คขวา ที่จะต้องควักเงินราวๆ 30 ล้านปอนด์ โดยที่มี Neco Williams กำลังเริ่มเฉิดฉาย Klopp รู้สึกว่าการเพิ่มความหลากหลายในช่วงอายุให้กับทีมนั้นดีกว่ามีไม้แก่(ผู้เล่นอายุมาก)เป็นส่วนมากไว้ในทีม

Liverpool ประเมินว่า นโยบายที่ไม่ใช้เงินอย่างสิ้นเปลือง จะทำให้ทีมนั้นยืดหยุ่นเพียงพอ ที่จะตอบสนอง เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องนำเข้า game-changer (ตัวเปลี่ยนสถานการณ์ในทีม หรือดีลใหญ่ๆ)

เมื่อมองย้อนไปถึง มหากาพ Coutinho ในช่วงปี 2017 ซึ่งทุกอย่างมันเริ่มจาก PSG ที่ไปฉีกสัญญา Neymar ด้วยค่าตัวมหาศาล ซึ่งเป็นตัวจุดประกายให้ Barcelona เริ่มเดินดีลนี้

Coutinho รายงานตัวที่ Melwood อย่างแฮปปี้ ในช่วง pre-season และเตรียมตัวพร้อมกับ season ใหม่ แต่ทุกอย่างพลิกจากหน้ามือเป็นหลังทีนในทันที เมื่อ 21 กรกฎาคม ที่ Liverpool ได้ปัดข้อเสนอของ Barcelona ที่ขอซื้อตัว Coutinho เข้ามา

จนก่อนที่ Coutinho จะมีท่าทีเปลี่ยนไป Klopp ได้พูดคุยกับ Coutinho ในเย็นวันเดียวกันกับที่ข้อเสนอนั้นถูกปัดตกไป โดยไม่มีท่าทีใดๆจาก playmaker ชาวบราซิล ว่าจะอยากออกจาก Anfield ท่าทีของ Coutinho ที่งอแงอยากย้ายขึ้นมานั้น มันขัดกับ character ปกติของเจ้าตัว และบีบให้ Liverpool นั้นต้องปรับเปลี่ยนแผนซื้อขายในช่วงที่ใกล้กับการเปิด season มากๆ

แม้ว่า Liverpool จะรับมือได้ดีกับสถานการณ์นั้น โดยรีดค่าตัวมาได้โดยการันตี 130 ล้านปอนด์ และชะลอการย้ายตัวให้เป็นในตลาดหน้าหนาว และนำเงินไปลงทุนกับดีล Van Dijk และ Alisson ในตอนนี้ Liverpool มั่นใจว่า ทีมนั้นมีความยืดหยุ่นสูงขึ้นมาก ในการรับมือกับสถานการณ์ทำนองเดิม หากเกิดขึ้นในตลาดรอบที่จะถึงนี้

โดยจุดนี้จะเพิ่ม ความแข็งแกร่งให้กับสโมสร ในแง่ที่ จะมีเงินในคลังที่พร้อมจ่าย ยกระดับฝีเท้าของผู้เล่นที่สโมสรสามารถดึงดูดได้ และจะสามารถทำให้สโมสรสามารถรอได้ ที่จะไม่ซื้อคนอื่นในตลาดซื้อขาย หากจำเป็นที่จะต้องรอเป้าหมายที่ถูกสเป็คจริงๆ

Liverpool ไม่จำเป็นต้อง panic buy (แตกตื่น เพื่อไปซื้อตัวแทนที่ย้ายออก) แม้จะมีเหตุการณ์แบบตอน Coutinho เกิดขึ้นอีกจริงๆ ในตอนนี้ Liverpool คาดไว้ว่าจะเสีย Lallana และ Clyne ไป และผู้เล่นที่ต้องการเวลาลงสนามอีกบางคน ใน Summer ที่จะถึงนี้

ดังนั้น Liverpool น่าจะเตรียมตัวกับ ตลาด Summer ที่น่าจะเงียบเหงา นอกจากจะมีปัญหาใหญ่หลวงบางอย่าง เช่น อาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลัก หรือ ผู้เล่นหลักบีบขอย้ายออก ซึ่งเป็นเรื่องที่ Liverpool จะต้องพร้อมแก้

ในเมื่อ Liverpool ไม่จำเป็นต้องมีการผ่าตัดใหญ่ ยกเครื่องใหม่อะไร มันคงแปลกน่าดูที่ Liverpool จะตกเป็นข่าวกับการที่จะยื่นซื้อผู้เล่นในราคาระดับ 80 ล้านปอนด์ หรือมากกว่านั้น

ใครล่ะ ที่จะมาแทนที่ 11 ตัวจริงของ Liverpool ในราคานั้น? 1 ในเรื่องถนัดของการซื้อขายสโมสรคือ การประเมินเป้าหมายอย่างละเอียดยิบ

เป้าหมายนั้นจะทนเป็นเดือนๆ เพื่อจะต้องปรับตัวให้ตรงกับความต้องการของ Klopp ได้มั้ย โดยที่ต้องปรับทั้งเรื่องในสนาม และนอกสนาม ลองดู Robertson หรือ Fabinho ที่ย้ายมาด้วยราคา 43.7 ล้านปอนด์ แต่ต้องรอราว 18 วีค กว่าจะได้เริ่มลงสนาม

Liverpool ตอนนี้ เลี่ยงที่จะต้องสร้างทีมใหม่ และมีเป้าหมายที่จะให้ทีมนั้น โตไปด้วยกัน แก่ไปด้วยกัน เช่นเดียวกับ Bayern Munich

แต่ถึงอย่างนั้น การผลัดใบผู้เล่น ก็ได้มีการเตรียมไว้แล้ว ทั้งการซื้อ Harvey Elliot เข้ามา และการมองหาผู้เล่นที่หน่วยก้านดี มีศักยภาพสูงในตลาด ที่อยากจะพัฒนาฝีเท้าตนเอง

ผู้เล่นเหล่านี้จะเข้าข่ายเดียวกับ Mane และ Firmino ที่เก่ง ในวันที่ย้ายมา แต่สามารถเติบโตขึ้นได้ จนเป็นสตาร์ได้ ด้วยการฟูมฟักดูแลของ Klopp

ในช่วง 2 เดือนถัดไป Liverpool จะตัดสินใจเรื่องดาวรุ่ง และผู้เล่นที่ถูกปล่อยยืม Curtis Jones พร้อมหรือยังสำหรับการขึ้นชุดใหญ่อย่างเต็มตัว หรือเขาควรออกไปหาประสบการณ์ยืมตัว เพื่อหาเวลาลงสนามมากกว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับ Harry Wilson, Rhian Brewster? การตัดสินใจเหล่านี้ จะทำให้แผนของตลาดซื้อขายของ Liverpool นั้นชัดเจนขึ้น

และเพื่อเป็นการย้ำว่า ความยืดหยุ่นในตลาดเป็นเรื่องที่จำเป็น ในปี 2017 Liverpool นั้นได้เล็งเป้าหมายหลักในแดนหน้าไว้เป็น Julian Brandt

แต่ในเบื้องหลัง ทีมงานแมวมองได้เก็บสถิติ ศึกษารายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับ Salah และไม่กี่เดือนถัดมา เขาก็ได้กลายเป็นเป้าหมายหลักแทน Brandt

Brandt นั้นกังวลเกี่ยวกับเรื่องการปรับตัว หากมาเล่นใน Premier League และกังวลว่าจะได้ลงตัวจริงเสมอๆหรือไม่ แต่ Edwards นั้นมองว่า Salah นั้นสามารถเป็นตัวอันตรายได้ดีกว่า และทำให้การถ่ายบอล เชื่อมเกมของแนวรุก Liverpool จะทำได้ดีกว่า

Klopp นั้นเห็นด้วยอยากยิ่ง และ Liverpool ก็ได้ปรับเปลี่ยนเป้าหมายทันที ในตอนนี้มันมีบางชื่อที่เป็นมติในการซื้อขายของสโมสรอยู่ก็จริง แต่ในอีก 2 เดือน อาจจะเปลี่ยนคนก็เป็นได้ หรือในทางกลับกันก็เป็นไปได้เช่นกัน

แต่ Liverpool นั้น จะหนักแน่น และยึดอยู่กับหลักการเดิม ที่ทำให้หงส์แดงกลับมาบินสูงดังเดิมอย่างแน่นอน  


ขอบคุณสำหรับบทความครับ .
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: อยากไปหา ตอนนี้เลย!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 18119
ที่อยู่: ทุกที่ที่มีเธอ
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 07:24
[RE: [บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer]
อยากได้แบคอัพรบส.+เทรน
มิลเนอร์ โกมเส กัปตัน ทีไร
เกมรุกไม่เวิร์ค เกมรับก็ไม่น่าไว้ใจ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Dave Grohl NIRVANA (1990–1994)
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Nov 2018
ตอบ: 7528
ที่อยู่: CNX
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 07:32
ถูกแบนแล้ว
[RE: [บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer]
เว้นที่ให้ดาวรุ่ง ปีหน้ากลัวช่วง โอลิมปิกกับ แอฟริกันเนชั่น
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5100
ที่อยู่: Liverpool
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 07:41
[RE: [บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer]
เท่าที่ดูแล้ว Big Name น่าจะยาก

ที่เสริมน่าจะเป็นตัวแทน Lallana กับ Lovren แล้วหากมี แบ็คซ้ายราคาดีๆ อายุน้อยๆ พร้อมสำรอง อาจจะมีนำเข้ามา


Werner อาจจะมีลุ้นนิดๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Liverpool
AC Milan
ออนไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 41469
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 07:43
[RE: [บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer]
น่าไปเสริมแบ๊คดาวรุ่ง ซ้าย ขวา ของนอริช มาคอยแบ๊คอัพ เทรน อาโนลด์ กะ โรเบิร์ตสัน นะ

จามาล เลวิส กับ แม๊ค อารอน น่ะ น่าจะตรงสเป๊กอยู่ ดาวรุ่ง เล่นในลีค สัญชาติอังกฤษ มีความเร็ว+ขยัน

นอริชตกชั้นอยู่ละ น่าจะยื่นซื้อไม่แพง แต่เขาจะมารึเปล่านี่ละปัญหา เพราะถ้ามาก็สำรองยาวๆ 100%
( เทรน กะ โรเบิร์ตสัน ยังเล่นได้อีกนาน ดาวรุ่งจะยอมมาสำรองยาวๆรึเปล่าก็ไม่รู้ )
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 6118
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 07:52
[RE: [บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer]
ครับ...มีเงินซื้อล่ะ
แต่ซื้อ ทาคิ... เหมือน
มาช่วยบูมการตลาด
และ ได้ทั้งฝีเท้่มาข่วยยกระดับทีม
.....สุดยอดเว้ยยยย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งตื่น
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3975
ที่อยู่: สนามซ้อมแคริงตัน
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 07:56
[RE][บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer
การมี DOF ดีๆเก่งเรื่องฟุตบอลทำให้ทีมดีแบบนี้ ต่างกับการมี Director ที่เก่งแต่ธุรกิจแต่โง่เรื่องฟุตบอล จะเป็นแบบแมนยูผม
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jul 2009
ตอบ: 10620
ที่อยู่: In The World
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 07:59
[บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer
จากบทความ สรุปคือคงไม่น่าจะได้เห็นซุปตาร์ ชินซะแล้ว
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
แก้ไขล่าสุดโดย The Last Man เมื่อ Tue Feb 04, 2020 08:02, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: 2 สุดยอดมิดฟิลด์แห่งยุค
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Oct 2008
ตอบ: 18151
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 08:05
[RE: [บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer]
ดูจากอายุผู้เล่นน่าจะพีคได้อีก 1 ปี ปีหน้าน่าจะมีซื้อดาวรุ่งฝีเท้าดีเตรียมผลัดฝบ 1-2 คน ล่าสุดแวร์เนอร์บอกมีข้อเสนอจากอังกฤษทีมที่ได้ลุ้น UCL ไม่ซิตี้ก็ลิเวอพูลอะที่สนใจแน่ๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Jul 2007
ตอบ: 2651
ที่อยู่: ใต้(สะ)หวัน
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 08:18
[บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer
GK: อลิซอน อาเดรียน เคลเลเฮอร์

RB: TAA โกเมส(CB3) วิลเลี่ยม

LB: โรเบิร์ตสัน มิลเนอร์(MC5) มาร์ท

CB: VVD คูลิบาลี่ โกเมส(RB2) มาติป ฮูเวอร์

MC: เฮนโด้ ฟาบินโญ่ ซีดุม นาบี้ อ๊อก
โจนส์ กรูยิช

RF: ซาล่าห์ ทาคิ เอลเลียต

LF: มาเน่ โอริกี้ ชาคิรี่

ST: ฟิมิโน่ แวเนอร์

ซื้อเพิ่ม 3คน งบ 120-150ล้าน


อ.มาร์ท(ไมน์04) คูลิบาลี่ แวเนอร์

โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Jun 2009
ตอบ: 2873
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 08:20
[RE: [บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer]
อยากได้แบ็คสำรองที่เล่นได้ซ้าย-ขวาสักคน

จะดาวรุ่งหรือตัวมีประสบการณ์แบบ อาเดรียน ไปเลยก็ได้
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2009
ตอบ: 14412
ที่อยู่: หน้าคอมส์
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 09:25
[RE: [บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer]
เทรนท์กับโรเบิร์ตสัน นี่เล่นได้อีก10ปี+กับ7ปีต่ำๆเลยนะใครจะมานั่งสำรองถ้าไปซื้อดาวรุ่งมาสู้ปั้นเองนั่นแหละดีและ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: #1
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Jan 2009
ตอบ: 12708
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 09:27
[RE][บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer
ตั้งแต่คล๊อปมาทำทีม บัญชีเป็นบวก ชอบตรงนี้
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 1093
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 04, 2020 09:30
[RE: [บทความ] แผนของ Liverpool ในตลาด Summer]
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ครับ

อ่านเพลินมาก
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel