Wheat Beer (Weizenbier ภาษาเยอรมัน) เป็นเบียร์ที่มีความเก่าแก่และClassic มากๆของโลก
แหล่งผลิตเบียร์ชนิดนี้ที่เอกอุมากๆของโลกต้องยกให้ 'แคว้นบาวาเรีย' ทางใต้ของเยอรมันนีซึ่งคนแถวนั้นจะเรียก'Weißbier'

ถ้าเป็นทางฝั่งเบลเยี่ยมจะเรียกว่า'Witbier' แต่Characterจะต่างจากของเยอรมันนิดหน่อย
เบลเยี่ยมจะออกไปทางผักชี ส้มอ่อนๆ ดอกไม้อ่อนๆ (ตัวคุ้นเคยในบ้านเราก็Hoegaardenไง)

ในขณะที่ฝั่งเยอรมันCharacterออกทาง กล้วยหอม ขนมปัง กานพลู หมากฝรั่ง วนิลา
ใส่ฮ็อปน้อยมาก ขมน้อย ฟองฟูเป็นโฟม ฉ่ำ มีความซ่าสูง
ผลิตด้วย มอลต์จากข้าวสาลีในปริมาณ50-70% ซึ่งจะต่างจากเบียร์ประเภทอื่นๆที่จะใช้มอลต์จากข้าวบาร์เล่ย์
การหมักWheat Beer จะใช้ยีสต์ลอย"Top-Fermenting Yeast"หมักจบ ยีสต์ก็ลอยอยู่ผิวน้ำ
ส่วนพวกLager Beer จะใช้ยีสต์จม"Bottom-Fermenting Yeast"หมักจบ ยีสต์ก็ตกตะกอนนอนก้นถัง
ยีสต์ หรือ ส่าเหล้าเนี้ย จะไปเปลี่ยนน้ำตาลในมอลต์ ให้กลายเป็นแอลกอฮอล์และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
นอกจากนี้Weizenbier ยังสามารถแยกย่อยได้อีก
Hefeweizen : เป็นเบียร์สีเหลือง ขุ่น เหตุเกิดจากการที่ไม่ได้กรองเอายีสต์ออกไป สเน่ห์คือหอม ละมุน
Kristallweizen : ก็คือมีการกรองกากยีสต์ออกไป จะทำให้สีใสขึ้น
Dunkelweizen : เบียร์สีมืด ซึ่งเกิดจากการคั่วมอลต์ ลดความเป็นกล้วยลง แต่จะได้กลิ่นคาราเมล กลิ่นคั่วเข้ามาแทน
Weizenbock : ขั้นกว่าของ Hefeweizen มีรสที่จัดจ้าน และปริมาณแอลกอฮอล์ที่แรงขึ้น Full Bodyกว่า

เปิดหัวด้วยตัวที่คุ้นเคยในบ้านเราละกัน

Paulaner Hefe-Weissbier Naturtrüb 5.5%
Type : Weissbier - Hefeweizen
Country : Germany
Price : 189 Bath

เบียร์แต้มสูง ติดใน List Top 20 เป็นเบียร์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาดีในตลาดบ้านเรา
ฟองเหลืองขุ่นกลิ่นมอลต์นำ กล้วยจางๆ อบเชยบางๆ ยีสต์ โดยรวมกลิ่นทั้งหมดค่อนข้างอ่อน
ความซ่ากำลังดี โปร่ง ให้ความสดชื่นมากๆ ไหลๆครับ
8.5/10


Erdinger Weissbier 5.3%
Style: Weissbier - Hefeweizen
Country : Germany
Price : 176 Bath

ฟองฟู ตามแบบฉบับของ Wheat Beer ตกใจกลิ่นเพราะมันเหมือนกับLagerบ้านเราเป๊ะ
Mouth Feelจะออกทางน้ำๆ ซ่านิด มอลต์หน่อย ยีสต์บางๆ ไม่ทิ้งอะไรไว้ในปาก
ถ้าคุณชอบอะไรที่มันบางเบา โปร่ง อาจจะชอบตัวนี้ก็ได้นะ แต่สำหรับผมเฉยๆ ไม่ซ้ำ
6.5/10

Schneider Weisse Aventinus Tap 6 8.2%
Type : Bock - Weizenbock
Country : Germany
Price : 159 Bath

เบียร์ Rate 100/100 ฟองยุบตัวไว ในBeeradvocate ยืน1
ผมกินเทียบกับ Tap 5 ตัวข้างบน แก้วต่อแก้ว Backgroundพบว่ามันมีความคล้ายกันอยู่ แต่สิ่งที่แตกต่างออกไป ชัดเจนคือ

ตัวนี้มีคาร์บอร์เนชั่นสูงกว่า(ความซ่านั่นแหละ) กลิ่นและสัมผัสของแอลกอฮอล์สูงกว่า แม้จะอยู่ที่ 8.2% เท่ากันก็ตาม
มีความเผ็ดกว่า มีส้มเขียวหวาน มีชบเชยและกานพลูแทรกด้วย กินแล้วร่างกายจะรู้สึกอุ่นกว่า
สรุป "Tap5 ออกแนวหวาน+นุ่ม ชอบได้ง่ายมาก" "ส่วนTap6 ออกทางบุก+Fresh ซับซ้อนกว่า"
9.5/10


Weihenstephaner Hefe Weissbier 5.4%
Type : Weissbier - Hefeweizen
Country : Germany
Price : 179 Bath

World Class Beer ยืน1 ในสายHefeweizen แต้ม98/100 ทั้ง Ratebeerและ Beeradvocate
ฟองฟูงาม กลิ่นกานพลูโดดเด่นมากทำให้สดชื่น กลิ่นกล้วยหอมสอดแทรกขึ้นมาตามด้วย มอลต์อ่อนๆ

รสชาติตรงกลิ่น พร้อมด้วยความหวานบางๆมอลต์ วนิลา+เลม่อนหน่อยๆ ซ่าพอดี
Aftertasteทิ้งความมอลต์ไว้ในปากราวๆ20-30วิครับ กินเย็นจัดๆกับอาหารประเภทSeafood อย่างแจ่ม
จอมกวาดเหรียญอีกตัว ไม่หล่นครับ ไหลๆ ลื่นๆ ยาวๆ
9/10


Weihenstephaner Vitus 7.7%
Type : Bock - Weizenbock
Country : German
Price : Bath

เบียร์ระดับTop จอมเก็บเหรียญรางวัลในสายอีกตัว กลิ่นกานพลู กล้วย มอลต์ และขนมปังโฮลวีตอ่อนๆ
Body กลางๆ ค่อนไปทางเต็ม (เบียร์บางตัวจะโปร่ง Dry กินแล้วหายวับ แล้วแต่คนว่าชอบแบบไหน)

มีความซ่าอยู่บ้าง เผ็ดบางๆ กานพลู กล้วย สาลี่ ขนมปัง แอลกอฮอล์ 7.7% ลื่นๆแบบนี้ โปรดระวังทางต่างระดับ
โดยส่วนตัว คิดว่าตัวนี้ต้องกินคู่กับอาหารอะไรสักอย่าง แต่ดันนึกไม่ออกว่าอะไร 555+
9.8/10


Ayinger Urweisse 5.8%
Type : Weissbier - Dunkelweizen
Country : Germany
Price : 205 Bath

เบียร์ตัวTop ยืน1ในสาย ยืนระยะกวาดเหรียญรางวัลมาตั้งแต่ปี2001
ซ่าน้อย ฟองหนานุ่ม กลิ่นกล้วย ถั่ว กานพลู และมอลต์มาในระดับพอดี
รสชาติผมกล้าพูดเลยว่านี่คือDunkel ที่ทำให้ผมว่ารู้สึกว่า"เชี้ยยย แม่งดีจริงว่ะ"รสตรงกลิ่น

Dryโปร่ง Aftertaste หวานกล้วยบางๆ นุ่มละมุน พริ้วๆสุดๆ ไม่เลี่ยน ไม่เอียน แนะนำกินในขณะที่เย็น อย่าปล่อยให้อุ่น
โคตรดี ถ้าคุณชอบWheatเบียร์ หยิบไปโลด ไม่กรุ๊งกริ๊ง ไม่หล่นแน่นอน
10/10

ผมรู้สึกว่าเบียร์ประเภทนี้ ให้พลังงานค่อนข้างสูง หนำซ้ำกินขวดเดียวไม่เคยพอ
การกินเยอะๆ ส่งผลต่ออาการ "ลงพุงแน่นอน" เอาพอกรึ่มๆ พอประมาณครับ

Krombacher Weizen 5.3%
Type : Weissbier - Hefeweizen
Country : Germany
Price : 147 Bath

ฟองดีหนานุ่ม กลิ่นกล้วยจางๆ กานพลูบ๊างบาง มอลต์เด่น ค่อนข้างซ่า รสตรงกลิ่นเลย
Aftertaste ทิ้งรสชาติคล้ายเวลาเราเคี้ยวเมล็ดข้าวดิบไว้ที่ลิ้น ตัวนี้ควรกินเย็นจัด อย่าปล่อยให้อุ่น
7/10


Franziskaner Weissbier Naturtrub 5%
Type : Weissbier - Hefeweizen
Country : Germany
Price : 139 Bath

เบียร์โลกเก่าติดTop15 ในสาย ฟองเยอะแต่ยุบไว กลิ่นยีสต์ กับมอลต์เด่น
รสชาติดีกว่ากลิ่น มิวนิคมอลต์ตรงสเปก Wheat Beer German บาง เบา ลื่น นุ่มนวล ซ่าน้อย

เหมาะกับการซัดโฮกกก!!เวลาอากาศร้อนๆ ค่อนข้างโปร่ง น้ำๆ ไม่หวาน ไม่เลี่ยน
Aftertaste มอลต์บาง กล้วยบาง มีเปรี้ยวนิดๆในตอนท้าย ราคาไม่รุนแรงมาก
9/10


Schneider Weisse Tap7 5.4%
Type : Weissbier - Dunkelweizen
Country : German
Price : 149 Bath

แต้มสูง อันดับ6 ฟองน้อยผิดคาดแฮะ กลิ่นเผ็ดกานพลูนำ มีกล้วยจ๊างจาง
รสชาติหวานมอลต์ในตอนต้น ซ่ามากกก ต่อด้วยเลม่อน ขนมปัง โปร่งตัดจบไว สบายๆ
8/10


Schneider Weisse Tap 5 Meine Hopfen Weisse 8.2%
Type : Wheat Ale - India / Hopfenweisse
Country : Germany
Price : 215 Bath

Ranking 3 ในสาย ฟองนุ่มๆ กลิ่นยีสต์ กลิ่นขนมปัง+กล้วยตาก อบน้ำผึ้ง โชยกรุ่น
เมื่อกินแล้วจะให้รสชาติหวาน นุ่มละมุน ได้กลิ่นดอกไม้หอมๆแทรกขึ้นมา ทิ้งแอลกอฮอล์เล็กๆในตอนท้าย

ผมว่ามันออกแนวลูกครึ่ง Wheat Beer + Pale Ale หรือIPA ที่มีHop ทางดอกไม้สอดแทรก
ตัวนี้อาจจะทำให้คนที่ไม่เคยกิน ชอบได้ง่ายๆมากๆครับๆ
9.5/10

Schneider Weisse Aventinus Tap 6 8.2%
Type : Bock - Weizenbock
Country : Germany
Price : 159 Bath

เบียร์ Rate 100/100 ฟองยุบตัวไว ในBeeradvocate ยืน1
ผมกินเทียบกับ Tap 5 ตัวข้างบน แก้วต่อแก้ว Backgroundพบว่ามันมีความคล้ายกันอยู่ แต่สิ่งที่แตกต่างออกไป ชัดเจนคือ

ตัวนี้มีคาร์บอร์เนชั่นสูงกว่า(ความซ่านั่นแหละ) กลิ่นและสัมผัสของแอลกอฮอล์สูงกว่า แม้จะอยู่ที่ 8.2% เท่ากันก็ตาม
มีความเผ็ดกว่า มีส้มเขียวหวาน มีชบเชยและกานพลูแทรกด้วย กินแล้วร่างกายจะรู้สึกอุ่นกว่า
สรุป "Tap5 ออกแนวหวาน+นุ่ม ชอบได้ง่ายมาก" "ส่วนTap6 ออกทางบุก+Fresh ซับซ้อนกว่า"
9.5/10


Weihenstephaner Hefe Weissbier 5.4%
Type : Weissbier - Hefeweizen
Country : Germany
Price : 179 Bath

World Class Beer ยืน1 ในสายHefeweizen แต้ม98/100 ทั้ง Ratebeerและ Beeradvocate
ฟองฟูงาม กลิ่นกานพลูโดดเด่นมากทำให้สดชื่น กลิ่นกล้วยหอมสอดแทรกขึ้นมาตามด้วย มอลต์อ่อนๆ

รสชาติตรงกลิ่น พร้อมด้วยความหวานบางๆมอลต์ วนิลา+เลม่อนหน่อยๆ ซ่าพอดี
Aftertasteทิ้งความมอลต์ไว้ในปากราวๆ20-30วิครับ กินเย็นจัดๆกับอาหารประเภทSeafood อย่างแจ่ม
จอมกวาดเหรียญอีกตัว ไม่หล่นครับ ไหลๆ ลื่นๆ ยาวๆ
9/10


Weihenstephaner Vitus 7.7%
Type : Bock - Weizenbock
Country : German
Price : Bath

เบียร์ระดับTop จอมเก็บเหรียญรางวัลในสายอีกตัว กลิ่นกานพลู กล้วย มอลต์ และขนมปังโฮลวีตอ่อนๆ
Body กลางๆ ค่อนไปทางเต็ม (เบียร์บางตัวจะโปร่ง Dry กินแล้วหายวับ แล้วแต่คนว่าชอบแบบไหน)

มีความซ่าอยู่บ้าง เผ็ดบางๆ กานพลู กล้วย สาลี่ ขนมปัง แอลกอฮอล์ 7.7% ลื่นๆแบบนี้ โปรดระวังทางต่างระดับ
โดยส่วนตัว คิดว่าตัวนี้ต้องกินคู่กับอาหารอะไรสักอย่าง แต่ดันนึกไม่ออกว่าอะไร 555+
9.8/10


Ayinger Urweisse 5.8%
Type : Weissbier - Dunkelweizen
Country : Germany
Price : 205 Bath

เบียร์ตัวTop ยืน1ในสาย ยืนระยะกวาดเหรียญรางวัลมาตั้งแต่ปี2001
ซ่าน้อย ฟองหนานุ่ม กลิ่นกล้วย ถั่ว กานพลู และมอลต์มาในระดับพอดี
รสชาติผมกล้าพูดเลยว่านี่คือDunkel ที่ทำให้ผมว่ารู้สึกว่า"เชี้ยยย แม่งดีจริงว่ะ"รสตรงกลิ่น

Dryโปร่ง Aftertaste หวานกล้วยบางๆ นุ่มละมุน พริ้วๆสุดๆ ไม่เลี่ยน ไม่เอียน แนะนำกินในขณะที่เย็น อย่าปล่อยให้อุ่น
โคตรดี ถ้าคุณชอบWheatเบียร์ หยิบไปโลด ไม่กรุ๊งกริ๊ง ไม่หล่นแน่นอน
10/10

ผมรู้สึกว่าเบียร์ประเภทนี้ ให้พลังงานค่อนข้างสูง หนำซ้ำกินขวดเดียวไม่เคยพอ
การกินเยอะๆ ส่งผลต่ออาการ "ลงพุงแน่นอน" เอาพอกรึ่มๆ พอประมาณครับ

บทความดีเลยครับ แต่รูปต้องเอียงคอนิดนึง555

ถ้าเบียร์หาซื้อตามห้างสำหรับผม Vitus นี่เดอะเบสเลย

ไป Top ซื้อมาแช่ในตู้เย็นสบายๆ

ว่าแล้วออกไปหามากินตอนเชียร์บอลสะหน่อย

หมายถึงรูปมันตะแคงข้างเหรอครับ

หรือว่าผมถ่ายรูปเอียง

ผมว่าผม Rotate ก่อนUploadแล้วนะ ดูผ่านPCก็ปกติ

T___T

ขอบคุณครับ..ถึงกับต้องเซฟรูปไปลองซื้อดื่ม

ชอบนะสายนี้ แต่กินบ่อยนี่บวมแน่นอน


Vitus เจอต้องหยิบ เสียดายtops บางที่ไม่ค่อยลงของ

ผมนึกว่าคิดไปเองคนเดียว พักหลังๆ บางสาขาตัดตัว Vitus ออกไปเลย

ดีหน่อยที่ผมอยู่ใกล้สาขาที่มันไม่เคยขาดของ

น่าเสียดายอีกอย่าง ที่ตัวAyinger ค่อนข้างหายากนิดนึง ต้องไปร้านขายคราฟต์บางร้านเท่านั้น ถึงจะมี

ใน10ตัวนี้นอกจาก Ayinger ผมลองมาครบแล้ว สายวีทนี่สายโปรดเลย

ผมนี่โคตรชอบ paulaner munchner hell เลย นุ่มแต่แรง

ผมไปโดนมาแล้วWeihenstephaner Hefe และ Weihenstephaner Vitus เดินเข้าร้านเบียร์ไปเค้าแนะนำมา เล่าว่าเก่าแก่งู้นงี้ พันปี เราบอกปดติเราเป็นคอPualaner คนขายบอกอันนี้ดีกว่า หอมกว่านุ่มกว่าทุกอย่าง

พอกลับบ้านไปได้ชิมทั้ง2ผมกลับผิดหวังนะ ไม่เหมือนที่โฆษณา ผมว่าไม่นุ่มไม่หอม สีเบียร์ก็ใส ได้แต่ความเข้มและขมมากผมดื่มไม่ลื่นเท่าPualanerเลยพูดตรงๆ ผมดื่มPualanerยังได้อรรถรสกว่าส่วนตัว10ะแนนยังไม่เคยลอง

ต้องไปจัด

5555 มีต้องมีอยู่แล้วครับ เหตุการณ์แบบนี้
เปรียบเทียบกับการปรุงก๋วยเตี๋ยว แต่ละคนชอบและปรุงไม่เหมือนกัน

สัปดาห์หน้ายังมีอีก10ตัวครับ มีเบียร์ Octoberfest ปนมาด้วย ^O^

ขาด kaiserdom ราคามิตรภาพไป อิอิหยอกๆ

สายผมเลยสายนี้