เบอร์บาตอฟ: เส้นทางชีวิตสู่ United [Part 5] "The Final Chapter"
เบอร์บาตอฟ: เส้นทางชีวิตสู่ United [Part 5] "The Final Chapter"
แปลจากบทสัมภาษณ์ของเบอร์บาตอฟ จาก ManUtd.com ใครรักใครคิดถึงเบอร์บาตอฟ มาอ่านชีวิตของเขากว่าจะมาเป็นนักเตะแมนยูฯว่าต้องผ่านอะไรมาบ้างกันครับ
ใครยังไม่ได้อ่าน Part 1-4 ลิงค์อยู่ด้านล่างนะครับ
ขออนุญาตรบกวนพื้นที่บอร์ดถี่หน่อยนะครับ ผมจะรีบแปลให้จบ เพราะเดี๋ยวหลังจากนี้กลัวจะไม่ว่างครับ
--------------------------------------------------------------
Part 5 "The Final Chapter"
“การฝึกซ้อมร่วมกับเขาในทุกๆวันนั้น มันไม่ใช่เรื่องยากหรอก... มันเหมือนฝันร้ายเลยล่ะ!!!”
“คุณล้วนมีทีมหรือนักเตะที่คุณไม่อยากแข่งด้วยอยู่แล้ว เวลาคุณต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านั้น คุณต้องคิดในใจว่า”
‘โอ้ย ไม่ใช่วันนี้นะโว้ย วันนี้กูไม่มีอารมณ์กับเรื่องแบบนั้น’
“วิด้าคือหนึ่งในนักเตะที่รับมือได้ยากเหล่านั้น”
“ตอนผมยังอยู่สเปอร์ส เขาคือฝันร้ายเสมอ ต่อมาในการซ้อมตอนที่ผมมาอยู่ยูไนเต็ดแล้ว มันเหมือนสงคราม ไม่สำคัญว่าใครอยู่ตรงหน้าเขา รอนนี่(โรนัลโด้) รูนี่ย์ หรือตัวผม มันไม่สำคัญ ทุกคนจะถูกเขาเตะหมด”
“เมื่อเราลงแข่ง ผมโคตรโล่งใจที่เขาอยู่ทีมเดียวกันกับผม หลังเกมเขามักกลับมาพร้อมกับเลือดออก หัวปูด แต่คุณก็เห็น ทุกอย่างมันคือการทำเพื่อทีม เขายอมสละหัวของเขาเพื่อทีม”
“ความสำเร็จเป็นสิ่งหอมหวานสำหรับผม ผมรู้ว่าสำหรับวิด้าก็เหมือนกัน เขาผ่านสิ่งต่างๆมาเหมือนผม เรื่องแย่ๆทั้งหลายแหล่ เขาโตขึ้นท่ามกลางสงคราม ตอนนี้ถ้าคุณไปเซอร์เบีย คุณจะยังคงเห็นรูจากกระสุนตามอาคารต่างๆอยู่เลย”
“ผมว่าวิด้าผ่านสิ่งที่เลวร้ายมามากกว่าตัวผม ดังนั้นสำหรับเขาการประสบความสำเร็จในชีวิตน่าจะเป็นเรื่องที่มีค่ามากกว่าผมเสียอีกนะ”
“คุณมีผู้เล่นอย่างผม หรือวิด้า มีนักเตะที่อยู่กับทีมมานานตั้งแต่เด็กๆ และมีคนทุกประเภทที่แตกต่างกันไป แต่เซอร์อเล็กซ์สามารถพูด และผลักดันพวกเราทุกคนไปข้างหน้าได้”
“บางครั้งในการซ้อม ท่านเซอร์เดินเข้ามา ตอนที่เรากำลังอบอุ่นร่างกาย หรือยืดเส้นกันอยู่ เขาเข้าไปหานักเตะเป็นรายบุคล บางวันเขาจะพูดกับนักเตะบางคนสองถึงสามนาที แต่ละวันสำหรับแต่ละคน ทำให้พวกเรารู้สึกพิเศษกันในแต่ละวันสลับกันไป”
“นี่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของปรัชญาของเขา เขาพูดคุยกับทุกๆคนตัวต่อตัวเลยล่ะ มันยากนะ เวลาคุยกับคนอื่นๆคุณจำเป็นต้องทำตัวไม่เหมือนปกติ เพราะทุกคนมีอีโก้สูง ทุกคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นคุณจำเป็นต้องรู้ว่าควรจะพูดยังไงกับแต่ละคน สุภาพกับบางคน ขำๆกับบางคน เกรี้ยวกราดกับบางคน หรือต้องหยาบคายในบางครั้ง แต่เขาทำมันได้ เขาสามารถการพูดคุยกับทุกๆคนได้เลยล่ะ”
“นั่นคือท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอกูสัน ผู้มีล้านแชมป์ ล้านความสำเร็จในชีวิต ดังนั้นคุณต้องฟังเขา ฟังว่าเขาพูดอะไร มันเป็นสิ่งวิเศษ และนักฟุตบอลชอบทำให้รู้สึกว่าตัวเองพิเศษ แม้ว่ามันจะเป็นเวลาไม่กี่นาที หรือสิบนาที แต่การทำให้นักเตะรู้ว่าเป็นส่วนนึงของทีม การที่สนใจพวกเขา แม้ว่าเขาไม่ได้ลงเล่น ท่านเซอร์จัดการเรื่องนี้ได้ดีมาก”
“และการพูดก่อนเกม หรือการพูดกระตุ้นทีม บางครั้งมันเหมือนในหนังเลย เขาพูดเรื่องชีวิตเขา พูดเรื่องเขาโตมาในอู่ต่อเรือ เรื่องพ่อเขา เรื่องตัวเขา พูดเกี่ยวกับหลาๆคนบนโลกที่ไม่ได้โชคดีเหมือนพวกเรา และในตอนท้าย คุณจะรู้สึกเหมือนกับ….”
‘เห้ยพวก กูอยากจะออกไปขย้ำทีม***นั่นแล้ว’
“ดังนั้นเราเลยออกไปเล่นแบบถวายหัวให้ท่านเลย แม้ว่าสิ่งที่ผมทำได้มันจะเล็กน้อยก็ตาม”
“นั่นคือทั้งหมด หลังจากวันที่ 1 ก.ย. 2008”
“วันที่เขามารอรับผมที่สนามบิน”.....
The End
เรื่องราวทั้งหมดนี้เบอร์บาตอฟให้สัมภาษณ์กับ ManUtd.com เว็บออฟฟิเชียลของสโมสร เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2018 เนื่องในโอกาสที่วันนี้เมื่อ 10 ปีก่อน (1 ก.ย. 2008) วันที่เบอร์บาตอฟเข้ามาเป็นส่วนนึงของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านครับ
Credit:
https://www.manutd.com/en/news/detail/dimitar-berbatov-exclusive-interview-to-mark-10-year-anniversary-of-joining-man-united
อาจจะแปลผิดเพี้ยนจากต้นฉบับไปบ้าง เพื่ออรรถรสในการอ่านนะครับ
--------------------------------------------------------------
เกร็ดเพิ่มเติมเล็กน้อย
- ไอดอลของเบอร์บาตอฟคือ "อลัน เชียเรอร์" เบิร์บมีเสื้อนิวคาสเซิลเบอร์ 9+ชื่อ"อลัน เชียเรอร์"เก็บเอาไว้
- ช็อตแอสซิสบรรลือโลก เบิร์บบอกว่า
"ตอนนั้นผมคิดแค่ว่าต้องทำมัน แต่พอได้กลับมาดูย้อนหลังแล้ว ผมบอกตัวเองว่า"
"กูทำอะไรไปวะเนี่ย"
ไม่ได้ยิงเยอะแบบรุด ไม่ดุดันแบบรูนี่ย์ ไม่รวดเร็วเหมือนซาฮา
ไม่พริ้วเหมือนเตเวซ ไม่ได้หาช่องเก่งแบบชิชา ไม่ฮาแบบเวลเบค
ไม่คมเท่าโรบิน ไม่อหังการ์แบบอิบรา และไม่ถึกแบบลูคาคู
จากรายชื่อกองหน้าตัวจริงของทีมตลอดหลายปีมานี้ ผลงานของเบิร์บอาจจะดีเป็นลำดับท้ายๆ และว่ากันตามตรงการเล่นของเขาอาจจะ"ไม่เข้ากับทีม"เอาซะเลย บทจะสากก็มีเยอะแยะ ซึ่งคนที่มาดูบอยุคหลังๆคงไม่มีใครพูดถึงเขาเท่าไหร่แล้ว
แต่ !!!
เขาเป็นที่จดจำของแฟนๆในยุคนั้น เพราะบุคลิก สไตล์การเล่น และคาแรคเตอร์ที่แสดงออกมาว่ารักแมนยูฯแค่ไหน
ถึงจะไม่ได้เก่งถึงระดับเป็นตำนานของทีม แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แมนยูฯไนเต็ดไม่มีใครเท่ และคลาสสิคเท่าเบอร์บาตอฟครับ
หนึ่งในนักเตะที่ทำให้ผมอยากดูบอล เพราะแค่อยากห็นเขาเล่นในสนาม
Always remember you, DB9
Dimitar "The Artist" Berbatov
The United Greats
ปัจจุบันเบอร์บาตอฟยังไม่แขวนสตั๊ดนะครับ
ฤดูกาลก่อนไปเล่นในลีกส์อินเดีย แต่ตอนนี้เป็นนักเตะฟรีเอเยนต์
ในวัย 37 ย่าง 38 เขายังไม่ประกาศว่าเลิกเล่นฟุตบอลแต่อย่างใด
ถ้าติดตามในโซเชียลของเขาจะรู้ว่าเขายังมีวินัย และดูแลร่างกายอย่างดีอยู่เสมอครับ ที่สำคัญเทคนิคยังสุดยอดเหมือนเดิม
และด้วยหน้าตาบุคลิกแบบมาเฟีย เขาได้ไปเล่นหนังในประเทศแล้วด้วย
ติดตามเบอร์บาตอฟได้ที่
FB:
https://www.facebook.com/berbatov.bg
IG:
https://www.instagram.com/berbo9/
และข้อมูลสถิติ ความสำเร็จของเขาได้ที่นี่เลยครับ
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1679963
--------------------------------------------------------------
เบอร์บาตอฟ: เส้นทางชีวิตสู่ United [Part 1]
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1683082
เบอร์บาตอฟ: เส้นทางชีวิตสู่ United [Part 2]
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1683205
เบอร์บาตอฟ: เส้นทางชีวิตสู่ United [Part 3]
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1683304
เบอร์บาตอฟ: เส้นทางชีวิตสู่ United [Part 4]
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1683405
--------------------------------------------------------------
พบกันใหม่โอกาสหน้าครับทุกท่าน