เสียราคาทีมเต็ง!ชาลเก้ไม่ฟื้นเละคารัง'แฮร์ธ่า'สอย 2-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ชาลเก้ 04 เสียราคาเต็งแชมป์สุดๆ เมื่อได้เล่นในบ้านตัวแท้ๆแต่กลับพลาดท่าโดนทีเด็ด อองเดร ดูด้า เหมาทำคนเดียว 2 ประตูโทษช่วยให้แฮร์ธ่า เบอร์ลิน พลิกล็อคบุกมาชนะไป 2-0 โดยเจ้าถิ่นเหลือแค่ 10 คนเมื่อโคโนปริยานก้าถูกไล่ออกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ขณะที่ดาเนียล คาลิกูลี พลาดจุดโทษในครึ่งแรก
ชาลเก้ 04
Starting Formation: 4-3-3
14.
บาบา ราห์มาน
73'
6
13.
เซบาสเตียน รูดี้
51'
6
36.
บรีล เอ็มโบโล่
57'
6.5
ตัวสำรอง
8.
ซูอัต แซร์ดาร์
51'
6.5
19.
กิโด้ บวร์กสตัลเลอร์
57'
6
25.
อามีน ฮาริต
73'
6
ฟุตบอลบุนเดสลีกา
สนาม เวลตินส์ อารีน่า
วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน 2561
กรรมการ ซาสช่า สเตจมันน์
ชาลเก้ 04
0
2
แฮร์ธ่า เบอร์ลิน
อองเดร ดูด้า 15'
อองเดร ดูด้า 90+6'
ชาลเก้ เล่นในบ้านตัวเองเกมนี้ส่ง เซบาสเตียน รูดี้ มิดฟิลด์ตัวใหม่ทที่เพิ่งได้มาจากบาเยิร์น มิวนิค ลงสนามเป็นตัวจริงทันที โดยเกมรุกมีการปรับเปลี่ยนพอสมควร เมื่อบวร์กสตัลเลอร์ มีชื่อเป็นตัวสำรองเปิดโอกาสให้ บรีล เอ็มโบโล่ กลับมาเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับ นาบิล เบนทาเล็บ และเยฟเฮน โคโนปริยานก้า ที่วันนี้ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง
ชาลเก้เริ่มเกมได้ดีกว่า
เริ่มเจ้าถิ่นทำได้ดีกว่าและมีลุ้นก่อนเลยจากคาลิกูลี่ ที่ครอสให้ เอ็มโบโล่ ได้โหม่งแต่ยังไม่ดีพอจะเป็นประตู จากนั้นคาลิกูลีได้โหม่งบ้าง ก็ยังพลาดเป้าอยู่ดี
แฮร์ธ่าเปลี่ยนตัวไว
แฮร์ธ่าโชคร้ายต้องเปลี่ยนตัวคนแรกอย่างรวดเร็ว เมื่อคาริม เรกิก มีอาการบาดเจ็บต้องส่ง ดิลโรซุน แทนที่ในแนวรับ
กรูยิชทำเสียจุดโทษ
กรูยิช ไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ผู้ตัดสินให้จุดโทษแก่ชาลเก้ทันที ก่อนมีการขอดู VAR ทำให้เกมดีเลย์อยู่พักนึง สุดท้ายชาลเก้ได้จุดเหมือนเดิม
คาลิกูลีสังหารจุดโทษพลาด
อย่างไรก็ตาม คาลิกูลี ทำแฟนบอลชาลเก้ ผิดหวังเมื่อสังหารจุโทษพลาด สกอร์จึงยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
แฮร์ธ่าพลิกนำ 1-0 จากดูด้า
ไม่เสียประตูไม่พอ แฮร์ธ่ากลับพลิกขึ้นนำ 1-0 เฉยเลย เมื่อตัวสำรองดิลโรซุน ทำเกมขึ้ทางซ้ายก่อนจ่ายเข้ากลางให้ ดูด้า ยิงไปติดบล็อคกองหลังชาลเก้ กลายเป็นบอลแฉลบเข้าประตูไป
โคโนปริยานก้าได้สับหลุดเสา
ชาลเก้ได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ โคโนปลียานก้า ลากลุยทางซ้ายก่อนตัดเข้ากลางแล้วสับด้วยขวานอกเขตทันที บอลพุ่งหลุดกรอบออกหลังไปแบบได้ลุ้น
เอ็มโบโล่โขกติดเซฟอีก
จากนั้นเจ้าถิ่นได้ลุ้นต่อ เมื่อเอ็มโบโล่ได้โขกจ่อๆที่เสาไกล แต่ยาร์สไตน์ โชว์ซูเปอร์เซฟช่วยชีวิตแฮร์ธ่าได้อย่างยอดเยี่ยม
กาลูหลุดเดี่ยวแต่ยิงถากเสา
ชาลเก้ มีโอกาสมากจริงๆ จังหวะนี้ กาลู หลุดเดี่ยวกลางสนามเข้าไปยิงพลาดมือยาร์สไตน์ได้แล้วแท้ๆ แต่บอลดันวิ่งหลุดเสาไกลออกหลังไปซะอีก
ชาลเก้ยิงไม่ได้จบครึ่งตามหลัง 0-1
ท้ายครึ่ง ชาลเก้ พยายามบุกต่อเนื่องเพื่อหวังได้ประตูคืน แต่กดดันได้ไม่ต่อเนื่อง จบครึ่งแรก แฮร์ธ่า ยังรักษาสกอร์นำที่ 1-0 ได้อยู่
เกมรุกชาลเก้ยังทือต้องถอดรูดี้ออก
กลับมาเล่นในครึ่งหลัง ชาลเก้ ยังเปิดเกมรุกไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เดือดร้อนกุนซือเทเดสโก้ต้องแก้เกมส่ง แซร์เดอร์ แทนที่เซเบาสเตียน รูดี้
ชาลเก้ส่งบวร์กสตัลเลอร์ลงสนาม
แฮร์ธ่าชัดเจนเล่นเกมรับเป็นหลักพวกเขาตั้งโซนเหนียวแน่นจนชาลเก้บุกลำบาก จังหวะนี้บวร์กสตัลเลอร์ กองหน้าตัวเก่งถูกส่งลงมาแก้เกมแทนที่เอ็มโบโล่
ชาลเก้บุกจริงแต่แทบไม่ได้ลุ้น
ชาลเก้ ครองบอลได้มากกว่าอย่างชัดเจน แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะเข้าไปทำอันตรายแนวรับแฮร์ธ่าได้เลย ขณะที่ทีมเยือนได้เล่นเกมสวนกลับหลายหนและก็ทำได้ดีเกือบบวกเพิ่มได้
ฮาริตได้ยิงจ่อๆติดบล็อคอีก
ฮารีต อีกหนึ่งตัวสำรองน่าจะตีเสมอให้ทีมอย่างที่สุด จากจังหวะที่แนวรับแฮร์ธ่าสะกัดบอลไม่ขาด บอลมาอยู่ตรงหน้าเขาและได้ยิงไม่กี่หลาในเขตโทษ แต่วันนี้นักเตะแฮร์ธ่าเหนียวมากยังตามมาทิ้งตัวบล็อคลูกยิงได้ทันอีก
ยาร์สไตน์โชว์ซูเปอร์เซฟ
อูธเกือบตีเสมอได้สำเร็จ เมื่อได้พลิกตัวยิงจ่อๆแล้วแท้ๆ แต่ยาร์สไตน์ไวทายาดยังใช้มือปัดบอลเซฟทีมเอาไว้ได้อีก
โคโนปริยานก้าใบแดงเสียจุดเทษ
ชาลเก้ต้องเหลือแค่ 10 คน จากจังหวะที่แฮร์ธ่าพากันขึ้นมาลุ้นตีเสมอกันหมด แล้วถูกตัดบอลได้โดนเล่นเกมโต้กลับเร็ว เดือดร้อนโคโนปริยานก้าที่ควบตามหลังมาต้องทิ้งตัวสะกัดบอล เสียฟรีคิกนอกเขตพร้อมกับโดนใบแดงไล่ออก
ดูด้าฟรีคิกส่งทีมชนะ 2-0
จากฟรีคิกนี้เองที่ทำให้แฮร์ธ่าตอกฝาโลงชนะเจ้าถิ่นไป 2-0 จากฝีเท้าของเจ้าเดิม ดูด้า ปั่นไซด์โค้งเสียบมุมชนะฟาห์รมันน์ หมดสิทธิ์เซฟ
หมดเวลา ชาลเก้หมดราคาทีมรองแชมป์เก่าเมื่อพ่ายคารังต่อแฮร์ธ่าไป 2-0
แฮร์ธ่า เบอร์ลิน
Starting Formation: 3-4-3
4.
คาริม เรกิก
6'
6
17.
มักซิมิเลียน มิตเตลสตัดท์
8
8.
ซาโลมง กาลู
90+4'
7
19.
เวดัด อิบิเซวิช
67'
6.5
ตัวสำรอง
16.
จาไวโร่ ดิลโรซุน
6'
7
28.
ฟาเบียน ลุสเท่นเบอร์เกอร์
67'
6.5
32.
เดนนิส ยาสเตอร์เซมบ์สกี้
90+4'
6.5
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Mon Sep 03, 2018 07:05, ทั้งหมด 16 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ