ถึง แมวสยาม : ความผูกพันที่จะไม่มีวันลืม...ตลอดไป
6 สิงหาคม 2561
ในขณะที่ผมกำลังรับประทานมื้อกลางวันในร้านตามสั่ง ทันทีที่เปิดเฟซบุ้ค สิ่งแรกที่เจอคือ “ประกาศสำคัญเกี่ยวกับ Siamese Kittenz” ผมเปิดอ่านดู แม้จะไม่ละเอียดทุกตัวอักษร...ผมรู้สึกได้ทันทีว่า “น้ำตาคลอ”
แทบจะไม่มีจิตใจทำการอันใดอีกเลยตลอดบ่าย แค่มีชีวิตอยู่ได้ก็น้ำตาไหลแล้ว
ย้อนไปเท่าที่จำได้ ณ ตอนนั้น “รักติดใจ” กับ “ความผูกพัน” เป็นเพลงที่ผมฟังบ่อยมากฟังแล้ววนไปฟังอีก โดยเฉพาะเพลงหลัง ถึงขนาดที่เคยตั้งกระทู้ในนี้ว่า “เสียดายเพลงนี้มาผิดเวลาไปหน่อย...”
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1493990
โดยโพสเพลงอะไรก็ไม่รู้ ของศิลปินที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน (ถ้ามองในแบบกระแสหลัก) แต่ผมฟังแล้วรู้สึกว่าเพราะดี อีกทั้งเนื้อหาที่ค่อนข้างเหมาะกับช่วงสุดท้ายของการร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน ออกโทนแอบเศร้าลึกๆ ซึ่งมันควรจะเป็นที่รู้จักมากกว่านี้ เพลงนี้ทำให้ผมอยากจะติดตามศิลปินกลุ่มนี้ตั้งแต่นั้นมา... และอยากจะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจเล็กๆที่อยากเห็น “แมวสยาม” ไปได้ไกลกว่านี้
จากก้าวแรก...
Siamese Kittenz (ไซมิส คิทเท่นส์) เป็นกลุ่มศิลปินหญิงแนวไอดอล (Idol Girl Group) รุ่นแรกๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทย มีจุดเริ่มต้นจาก “L” project (“แอล” โปรเจ็ค) ของ KelbaMusic ที่เฟ้นหาเด็กผู้หญิงวัยแรกสาวเพื่อมาฟอร์มเป็น “วงไอดอลไทย โดย(ฝีมือ)คนไทย” โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากวงไอดอลญี่ปุ่น อาทิ AKB48, Morning Musume ฯลฯ สมาชิกที่เข้ามาชุดแรกคือ พิม กับ เฟย์ ตามด้วยชุดสองคือ ไหม เฟท และจุ๊ยซ์ และชุดสุดท้ายคือ แพตตี้ และต้นหลิว
เมื่อได้สมาชิกครบทั้ง 7 คน จึงเริ่มทำการบันทึกเสียง และเรียนเต้นสำหรับเพลงแรก แต่เนื่องด้วยช่วงแรก สมาชิกมักจะมาเพียง 2 คนบ้าง 3 คนบ้าง จนกระทั่งวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 เมื่อสมาชิกพร้อมหน้ากันทั้ง 7 คนเป็นครั้งแรก จึงถือเป็นวันก่อตั้ง “Siamese Kittenz” อย่างเป็นทางการ โดย "ไหม" ซึ่งอาวุโสที่สุดจึงได้รับตำแหน่งหัวหน้าวงไปโดยปริยาย
ปี 2558
สู่โลกกว้าง...
หนึ่งปีต่อมา เพลง “ซึนเดเระ” (Tsundere) ก็ได้เผยแพร่สู่สาธารณชน พร้อมทั้งเปิดตัว Siamese Kittenz ในฐานะน้องใหม่วงการเพลงไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยแนวทางผสมผสานระหว่างรูปแบบวงไอดอลญี่ปุ่นกับภาพลักษณ์แบบเด็กไทย แม้ว่ากระแสตอบรับ (feedback) ของเพลงนี้จะมีทั้งด้านบวกและด้านลบ แต่ก็เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับการผลิตผลงานต่อไป นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในซีรี่ส์ “ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น” ซีซั่น 3 อีกทั้งได้ออกรายการ “Gang Cartoon Kidz” ช่อง GMM25
ตอน 1
ตอน 2
ปี 2559
ไอดอลไทย...
ผลงานเพลงลำดับที่ 2 “รักติดใจ” (Love Addict) คราวนี้แนวทางมีการปรับสัดส่วนเป็น T-POP ให้มากขึ้น โดยกิมมิคหลักอยู่ที่การใส่เสียงระนาดเข้าไปในเพลงป็อปร่วมสมัย อีกทั้งใน MV ยังได้ “ขุนอิน” (ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า) มาเล่นระนาดด้วย นอกจากนี้ยังมีซีนที่เปิดตัว “เรย์” ในฐานะสมาชิกคนที่ 8 แต่ทว่าเธออยู่ได้เพียงไม่กี่เดือนก็ออกจากวงช่วงปลายปีนั้น (ปัจจุบันเรย์อยู่ใน Gelato โปรเจคพัฒนาสู่การเป็นศิลปินของค่าย mono music โดยปรากฏใน MV เพลงเปิดตัวอย่าง Where are you now? ที่ร้องโดย ลานนา ฟรีแมน ด้วย)
หลังจากนี้ ผมก็เริ่มติดตามวงนี้อย่างเป็นทางการ
ปี 2560
สู่ยุคกลาง...
ผลงานเพลงลำดับที่ 3 “ความผูกพัน” ต้องย้อนไปช่วงปลายปีที่แล้ว ทางค่ายจัดกิจกรรมพิเศษโดยให้แฟนเพลงเลือก “เซ็นเตอร์” ของเพลงใหม่นี้ หลังจากที่สองเพลงที่ผ่านมาแพตตี้ถือครองตำแหน่ง ผลปรากฏว่าเฟทชนะคะแนนโหวตเหนือเพื่อนสมาชิกอย่างถล่มทลาย และเงินที่ได้จากกิจกรรมนี้จึงได้นำไปเป็นทุนทำ MV เพลงดังกล่าว โดยนำเสนอเรื่องราว (story) ของการจากลาเพื่อนที่คุ้นเคยผ่านตัวหลักก็คือ เฟท แม้จะมีความยาวถึง 9 นาทีกว่า (2 นาทีหลังคือการขอบคุณผู้สนับสนุน) แต่ก็เป็นผลงานที่ผมประทับใจมากที่สุดชิ้นหนึ่งในแง่ของโปรดักชั่น และการลำดับเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ
นอกจากนี้ ยังมีเพลงรองคือ “Happy Hour” ซึ่งไหมที่ได้คะแนนรองลงมาเป็นเซ็นเตอร์
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่วงขึ้นแสดงในอีเวนท์เล็กๆงานหนึ่ง เฟทประกาศ “จบการศึกษา” เพื่อมุ่งมั่นกับการเรียนเต็มตัว จึงทำให้สมาชิกเหลือ 6 คน ต่อมาจุ๊ยซ์ก็มีเหตุจำเป็นคือ เข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลาหนึ่งปี ทำให้นำไปสู่การถ่าย MV เพลงลำดับที่ 5 (ตั้งแต่ไก่โห่) ด้วยสมาชิกทั้ง 7 คน ในทันที
ช่วงปลายปี วงได้จัดกิจกรรมเพื่อแฟนคลับกลุ่มเล็กๆ ถึงสองครั้ง รวมทั้งขึ้นแสดงในงาน TGCC 2017 ทั้งที่เดอะ มอลล์ บางกะปิ และเดอะ มอลล์ โคราช โดยที่บางกะปิ เป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปดูน้องๆแสดงถึงหน้าเวที ซึ่งโดยรวมก็ทำได้ดีในระดับหนึ่งตามศักยภาพของไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป SME ที่นานๆจะได้งานเข้ามาที แค่ได้เห็นตัวจริงของน้องๆด้วยสองตาตัวเองก็ดีใจมากแล้ว
โอกาสสำคัญ...
ปี 2561
เข้าสู่ปีที่ 4 ของวง ณ ตอนนี้ BNK48 กลายเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปประเทศไทยอย่างเป็นทางการจากกระแสของเพลงคุกกี้เสี่ยงทาย ตามห่างๆมาด้วย SWEAT16! ที่เดบิวท์มาไล่เลี่ยกัน สำหรับวงที่บุกเบิกมากว่าสองปี ระหว่างรอฟังเพลงใหม่ที่ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะมา เมื่อทราบว่าจะมีกิจกรรม “จับมือแมว” ผมตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะไปให้ได้ เพราะสังหรณ์ใจว่า หากไม่ได้ไปครั้งนี้ก็อาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว แต่ด้วยงบประมาณที่มีอยู่จำกัด ทำให้ผมเลือกจับกับคนที่ผมชอบที่สุดสองคนคือ กัปตันไหม และหลิว (คามิโอชิ) ซึ่งทั้งสองคนทำให้ผมรู้สึกดีเป็นอย่างยิ่ง ทั้งความน่ารักดีต่อใจของทั้งสองสาว และโอกาสครั้งสำคัญที่ผมจะได้พูดสิ่งที่อยากจะบอกถึงทั้งสองสาวอย่างใกล้ชิด (แม้จะเพียงคนละ 12 วิ กว่าๆ) ทั้งๆที่วันนั้นผมมาแบบฉายเดี่ยว ไม่รู้จักใครเลยสักคน แถมมาตั้งแต่เขาเพิ่งตั้งบูธขายของยันงานเลิก โดยได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับสมาชิกทั้ง 5 คนด้วย (อีก 3 คนถึงไม่ได้จับมืออย่างน้อยได้ร่วมถ่ายรูปก็ยังดี) นับเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว (ตามที่ผมได้เขียนรีวิวจับมือแมวในนี้แหละ)
ในงานวันนั้นยังมีการเปิดตัวเพลง “เตือนฉันที” เต็มเพลงครั้งแรก โดยเพลงนี้ได้ประกอบซีรีส์ “notification (เตือนนัก..รักซะเลย)” ของ Mello (แอปพลิเคชั่นของช่อง 3) นับเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Siamese Kittenz อีกทั้งได้ออกรายการ “รีวิวบันเทิง” ทางช่อง 3 (โดยช่อง 28 จะได้แอร์ไทม์นานกว่าช่อง 33 หลายเท่า) และยังให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวและสื่อออนไลน์ชื่อดังอย่าง “the matter” ด้วย
รายการรีวิวบันเทิง (ตั้งแต่นาที 9.42)
คลิปสัมภาษณ์ใน “the matter”
เปิดดูคลิปจากเว็บเฟสบุค
ถึงเวลา...
และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา MV เพลง “เตือนฉันที” ของวง ก็ได้เผยแพร่ทางยูทูปอย่างเป็นทางการ ด้วยงานโปรดักชั่นคุณภาพ ที่มาพร้อมกับการเติบโตของแมวสยามทั้ง 7 คน (แม้ว่าจะถ่ายไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว) ท่ามกลางเกิร์ลกรุ๊ปไทยที่ตอนนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวนับตั้งแต่ BNK48 ที่สร้างกระแสวงไอดอลอย่างเป็นรูปธรรมในอุตสาหกรรมเพลงไทย SWEAT16! ที่ออกมาไล่เลี่ยกัน ตามมาด้วยวงที่เพิ่งเกิดใหม่อย่าง 7th Sense, Siam Dream, Dev Zero รวมทั้งสายเคป็อปอย่าง Rose Squartz
แต่แล้วประกาศสำคัญที่ลงในเฟซบุ้คเพจ Kelba Music (เคลบ้ามิวสิค) ผู้สร้าง ผู้ผลิต และผู้ดูแล Siamese Kittenz ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2561
https://www.facebook.com/notes/kelbamusic/ประกาศสำคัญเกี่ยวกับ-siamese-kittenz/2025565430788159/
สิ่งที่เกิดขึ้นนับว่า “กะทันหัน” อย่างรุนแรง ทั้งในกลุ่มผู้ติดตามวงจริงๆ หรือรู้จักจากสื่อออนไลน์ “รันวงการ” แม้แต่เพจเกี่ยวกับไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปหลายแห่งต่างมีปฏิกิริยาต่อประกาศสำคัญนี้ไปในทิศทางเดียวกัน การยุติสถานะของสมาชิกแมวสยาม (รุ่นบุกเบิก) ทั้งชุด คงเป็นเรื่องที่มิตรรักแฟนเพลงของวง “พอจะเข้าใจได้” แต่สำหรับผมที่ติดตามวงตั้งแต่ยุคกลาง (หากจำความได้ น่าจะต้นปี 2560 เพราะตอนนั้นชอบเพลงความผูกพันมาก เลยอยากรู้ว่าหน้าตาของ MV นี้จะเป็นอย่างที่คิดไหม) ก็พอจะ “ทำใจได้ระดับหนึ่ง” เพราะด้วยธรรมชาติของวงนี้ เป็นวงขนาดเล็ก มีจำนวนสมาชิกที่เหมาะสม อีกทั้งสมาชิกก็มีอายุไม่ห่างกันมาก ทว่าความเป็นจริง ศิลปินกลุ่มนี้ยิ่งกว่าวงอินดี้หลายวงทุกวันนี้ด้วยซ้ำ ทำออกมาปีละ 1 เพลง อันนี้ยังพอเข้าใจได้ ครั้นจะทำเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ ก็เกินศักยภาพของทั้งค่ายที่มีศิลปินเพียงกลุ่มเดียว ไม่ต้องพูดถึงการทำให้เป็นที่รู้จักในพื้นที่กระแสหลัก ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง แค่ต้นทุนทั้งด้านเนื้อหาและเวลาในการผลิตงาน “หนึ่งชิ้น” ที่ประดุจทำงานศิลปะชิ้นเอก ทำให้ภายนอกอาจเข้าใจว่าที่วงนี้หายไปนานคงถอดใจออกจากวงการอย่างเงียบๆ (ถ้าว่ากันตามบริบทของวงการเพลงในประเทศไทย)
แต่ปัจจัยหลักที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ “สมาชิก” เพราะจากเท่าที่ทราบ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เคยผ่านงานบันเทิงในระดับประเทศ อีกทั้งการที่ค่ายรับงานเข้ามาเพียงประปราย จึงไม่ได้กระทบกับภารกิจหลักคือการเรียน (อย่างมากแค่ช่วงมีงานที่เหนื่อยกว่าปกติมากหน่อย) จนตอนนี้สมาชิกทุกคนต้องเตรียมตัวสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ขณะที่ไหมกับจุ๊ยซ์ก็เริ่มต้นกับชีวิตนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยระดับประเทศ แน่นอนว่าทั้งเรื่องเรียนและการทำกิจกรรมต่างๆจะมีความสำคัญต่ออนาคตภายภาคหน้าของทุกคน
นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญในประกาศดังกล่าว กล่าวถึง “บทสรุป” ของการทำงานเพลงตลอด 4 ปีที่ผ่านมาที่แม้ว่าจะมีอุปสรรคหลายเรื่อง แต่ด้วยปณิธานอันชัดเจนกับการทำงานเพลงและดนตรีอย่างมีคุณภาพ ในที่สุดโปรเจค “วงไอดอลไทยในอุดมคติ” ก็บรรลุผลสมความปรารถนา โดยผลงานทั้งหมด รวมทั้งอีกหนึ่งเพลงที่คนภายนอกอาจยังไม่เคยฟัง มีกำหนดจะจำหน่ายอัลบั้มเต็มอย่างเป็นทางการในปี 2562 นี้ อันเป็นบทสรุปของโปรเจคการทำวงไอดอลไทยตามศักยภาพตามมีตามเกิดอย่างสมบูรณ์
และคงถึงเวลาแล้วสำหรับ Siamese Kittenz ไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปรุ่นบุกเบิกในวงการเพลงไทย เมื่อสมาชิกทั้ง 6 คน จะยุติการเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2561 นี้ และยังไม่รู้ว่าอนาคตจะมีโอกาสได้เห็น Siamese Kittenz Gen.2 ตามที่ประกาศไว้หรือไม่
ตลอดเวลาเกือบสองปีที่ผมติดตาม ทุกครั้งฟังเพลงของวงนี้ ไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ ทำให้ผมรู้สึกดีมีความสุขและยิ้มได้เสมอ เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับวง ทั้งคลิปใน youtube และเรื่องเล่าของสมาชิกที่โพสลงในเพจส่วนกลางของวง สั้นบ้าง ยาวบ้าง บางวันก็เลยเวรของตัวเองแล้วเพิ่งมาโพสวันถัดไปก็มี แต่ทุกเรื่องราวที่ปรากฏมักมีมุมเล็กๆที่น่าสนใจซ่อนอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นหัวใจสำคัญในการดำรงอยู่ (active) ของวงมาตลอดสี่ปีกว่าๆ และอีกไม่กี่วันนับจากนี้
ในฐานะแฟนคลับแมวสยามคนหนึ่งที่ติดตามวงมาพอสมควรจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว อยากจะขอบคุณ “ทีมงานคุณภาพ” ทุกภาคส่วน ทั้งทีมผู้ผลิต ทีมเบื้องหลัง ทีมโปรดักชั่นทั้งร้อง เต้น และทำ MV จากภายนอก ทีม PR รวมถึงสื่อออนไลน์ทุกรายที่ช่วยเผยแพร่และนำเสนอไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปแบรนด์เล็กๆกลุ่มนี้สู่สาธารณชน กลุ่มแฟนคลับและมิตรรักแฟนเพลงที่ติดตามวงมาตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงทุกวันนี้
และที่สำคัญที่สุดสำหรับผมคือ น้องๆทั้ง 7 คน ที่ร่วมกันก่อร่างสร้าง Siamese Kittenz เผื่ออนาคตข้างหน้า อาจจะยังมีอยู่ต่อไป หรือ กลายเป็นไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปในตำนานที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างสีสันในวงการเพลงไทย ก่อนที่กระแสวงไอดอลสไตล์ญี่ปุ่นจะเกิดและเติบโตอย่างมากในประเทศไทยตราบถึงปัจจุบันนี้
จากเด็กสาวในเพลงซึนเดเระเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้สมาชิกทุกคนต่างเติบโตเป็นสาวเต็มตัว
อัดเสียงเพลงแรก (เซ็ตรวมทั้ง 7 คน)
ซึนเดเระ
รักติดใจ
ความผูกพัน
Happy Hour
เตือนฉันที
รูปเซ็ตนี้น่าจะถ่ายวันงานจับมือแมวเดือนมีนาคม 2561
สุดท้ายนี้ จะขอกล่าวถึงน้องแมวทั้ง 7 สักเล็กน้อย จากที่ได้เห็นผ่านสื่อออนไลน์
พิม สาวนักชิมเอ้ย!กิน ผู้มองโลกแบบสดใส เป็นมิตรจิตมิตรใจกับแฟนคลับมากที่สุดคนหนึ่ง คำว่า “เสียใจ” คือสิ่งที่ฟังจากปากพิมทีไรรู้สึกได้ถึงความน่ารักทุกครั้งไป
เฟย์ เหมือนจะเรียบนิ่งที่สุดในวง แต่ไลฟ์เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอพูดได้มีรสชาติมาก สารพัดเรื่องเล่ายันเผากันเองแบบฮาๆ ขณะที่เธอกำลังพูดเพลินก็โดนตัดสัญญาณเฉยเลย
ไหม แม้ตัวเล็กจนเนียนกับเด็ก ม.ต้นได้เลย แต่ความเป็นผู้ใหญ่ ที่เป็นทั้งผู้นำและพี่สาวที่คอยดูแล ให้คำปรึกษา รวมทั้งบริหารจัดการเกี่ยวกับวงหลายเรื่องด้วยตัวเอง เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ไซมิส คิทเท่นส์เดินทางมาได้ไกลถึงจุดนี้ ขอบคุณสำหรับการอ่านรีวิวในวันนั้นแล้วมาโพสเล่าในวันต่อมา _/\_
เฟท หลังออกจากวงไปก็กลับไปเรียนอย่างเต็มที่ และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี คลิปเต้นมุ้งมิ้งก็น่าสนใจดี
จุ๊ยซ์ เด็กที่ร้อง “หมวยนี่คะ” ใน SuckSeed กำลังเดินหน้าต่อไปในฐานะนิสิตรั้วจามจุรี แต่หากปลายปีนี้ถ้าจะจัดอีเวนท์ส่งท้ายได้ก็คงจะดี
แพตตี้ น้องเล็กที่ยังรักษาความเป็นติ่งเกาเสมอต้นเสมอปลาย ไลฟ์วันก่อนนึกว่าดูแพตซัดทุกความจริง บ่นถึงการดำรงชีวิตในกรุงเทพฯ แม้จะมีความเป็นเด็กอาร์ติสตามสายที่กำลังเรียน แต่ก็มีโมเมนต์รักษ์โลกให้คนได้ชื่นชมด้วย
หลิว ความชอบดาราศาสตร์เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจเด็กคนนี้เสมอมา ที่ผ่านมาทั้งเรียนดีและกิจกรรมเด่น แต่ก็เป็นหนึ่งเดียวที่ยังไม่ได้ไลฟ์ออนทวิตซ์ เสียดายที่คงไม่มีโอกาสได้ฟังเธอร้อง cover ความผูกพัน แบบ acoustic ที่คนอย่างผมก็ทำได้แค่พิมพ์เท่านั้น
ขอให้ทั้ง 7 สาวเดินหน้ากับเส้นทางชีวิตที่แต่ละคนเลือกไว้ และสมหวังได้เรียนในคณะ/สาขาที่ตนปรารถนา
ดีใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้จักและมีโอกาสที่ครั้งหนึ่งได้เข้าร่วมงานของวงนี้ แม้จะเป็นเพียงแค่ครั้งเดียวก็ตาม ถึงจะเป็นวงที่ไม่ใหญ่หรือโด่งดังในสายตาคนทั่วไป แต่ภูมิใจที่ได้เป็นคนเล็กๆคนหนึ่งที่คอยให้กำลังใจและสนับสนุนน้องๆไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปสายเลือดไทยกลุ่มนี้
ที่เขียนมาทั้งหมดใช้เวลากว่าหนึ่งวันกับการคิดสดและเรียบเรียงเท่าที่จะทำได้ (จริงๆอยากเขียนอีกแต่คิดไม่ออกแล้ว
) หากมีผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้
และขอขอบคุณภาพประกอบจากเพจ kelbamusic, SMKTclub และเว็บ akibatan
ฉันจะอยู่ตรงนี้อยู่เคียงข้างเธอ และคิดถึงอยู่เสมอ ไม่ลบเลือนไป
โลกจะหมุนจะเวียน แปรเปลี่ยนสักแค่ไหน ใจฉันจะอยู่ตรงที่เดิม
ฉันจะอยู่ตรงนี้เมื่อเธอหันมา ในวันที่เธออ่อนล้า และไม่เหลือใคร
คนๆนี้คนเดิมยังรักเสมอไป เวลาไม่เคยลบเลือน ความผูกพันของเรา
SIAMESE KITTENZ
ขอบคุณทุกท่านสำหรับการรับชมครับ