ชาคิรี่เปิดตัวอลังการ!!!'หงส์'ไม่พูดเยอะยิงผีเมื่อยตีน 4-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เด็กผีเช้านี้ออกจากบ้านต้องหาปี๊บคลุมหัวเมื่อ ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มเทวดาถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เหลือซาก 4-1 เซอร์ดาน ชาคิรี่ ลงสนามนัดแรกครึ่งหลังผลงานอลังการจ่ายให้เพื่อนยิง 1 และตีลังกายิงเองสุดสวยอีก 1 !!!
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
Starting Formation: 4-2-3-1
13.
ลี แกรนท์(GK)
46'
38.
อักเซล ทวนเซเบ้
81'
21.
อันเดร์ เอร์เรร่า[C]
81'
8.
ฆวน มาต้า
71'
35.
เดเมทรี มิตเชลล์
71'
7.
อเล็กซิส ซานเชซ
81'
ตัวสำรอง
40.
โจเอล เปเรยร่า(GK)
46'
17.
เฟร็ด
71'
44.
ทาฮิธ ชอง
71'
47.
อังเคล โกเมส
81'
52.
โร-ชอน วิลเลี่ยมส์
81'
46.
โจชัว โบฮุย
81'
อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ 2018
สนาม มิชิแกน สเตเดี้ยม
เสาร์ที่ 28 กรกฎาคม 2561
กรรมการ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
1
4
ลิเวอร์พูล
0-1 มาเน่ 28' (Pen.)
1-2 สเตอร์ริดจ์ 66'
1-3 โอโจ้ 74' (Pen.)
1-4 ชาคิรี่ 82'
ไฮไลท์อยู่บนม้านั่ง!เฟร็ดผี-ชาคิรี่หงส์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดไอซีซีนัดแรกดวลจุดโทษสุดฮาชนะ เอซี มิลาน แต่หากนับเฉพาะ 90 นาทีพวกเขาอุ่นเครื่องมา 3 นัดเสมอหมดเลย นัดนี้ได้ เฟร็ด รอลงสนามนัดแรกจากในม้านั่งสำรอง
ลิเวอร์พูล เล่นไอซีซีมา 2 นัดแล้วชนะ 1 และแพ้ 1 นัดนี้ กราบาร่า ได้โอกาสเฝ้าเสาตั้งแต่ต้นเกมส่วนแนวรุกสตาร์ททั้ง มาเน่ กับ ซาล่าห์ และม้านั่ง ชาคิรี่ มาแล้วรอลงเล่นนัดแรก
น้องกี้โฉบไขว้ติดไบญี่
ลิเวอร์พูล บุกจากซ้ายไปขวาของจอเปิดฉากบุกอยู่ฝ่ายเดียวตามฟอร์มแล้วก็ทักทายก่อน คามาโช่ ทุ่มบอลจากริมเส้นฝั่งขวาไปเสาแรก มิลเนอร์ โฉบมาตวัดเรียดจากสุดเส้น โซลันกี้ โฉบมาไขว้ติด ไบญี่ ยืนขวางบล็อคไว้ได้
ซาล่าห์เสยโดนแกรนท์ปัด
โอกาสทองของ ลิเวอร์พูล มาแล้วจากคู่หูคู่แบก มาเน่ ยกบอลข้ามหัวคู่เซ็นเตอร์ฯให้ ซาล่าห์ หลุดเดี่ยวโหม่งเสยหน้ากรอบ 6 หลาทว่า แกรนท์ โชว์ซูเปอร์เซฟถอยไปปัดปลายมือข้ามคานไปได้
VVDโขกย้อยๆ!พี่น้อยเสยทิ้งเหลือเชื่อ
จังหวะต่อเนื่อง หงส์แดง ได้เตะมุมฝั่งซ้าย มิลเนอร์ ยกมือส่งสัญญาณแล้วโยนโด่งมาเสาสอง ฟาน ไดจ์ค โหม่งบอลย้อยข้ามหัว แกรนท์ จะเข้าอยู่แล้วแต่ เอร์เรร่า ไปช่วยกระโดดโหม่งเสยทิ้งจากเส้นไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เฮ!น้ามูโชว์คว้าบอล
ไฮไลท์แรกของ แมนยู มาจากข้างสนามเมื่อ แกรนท์ เตะบอลลอยออกข้างให้เจ้านาย โจเซ่ มูรินโญ่ ยกมือคว้าบอลไว้ได้อย่างสวยงามเรียกเสียงเฮจากแฟนบอลส่วนในทวิตเตอร์มีคนแซวว่าหนึบกว่า คาริอุส เสียอีก
เด็กมันห้าว!กราบาร่าหลอกเล็กซี๊ดหลังหัก
คามิล กราบาร่า มือกาวของ ลิเวอร์พูล มีซีนเด่นของตัวเองรับบอลคืนหลังจากเพื่อนแล้วถูก อเล็กซิส วิ่งบีบให้จวนตัวแต่เจ้าหนูอายุ 19 โชว์ความนิ่งเกินวัยล็อกด้วยขวาหลบสตาร์ชิลีซะเสียหลักแล้วจ่ายต่อให้เพื่อนอย่างสวยงาม
มิตเชลล์หวดไร้ทรง!จุดโทษมาเน่กดเสียบมุมหงส์นำ
จากนั้นเกมนิ่งไปพักนึงโดยที่ หงส์แดง ยังเหนือกว่าแล้วก็มาได้จุดโทษจากบอลลอยมาในเขตโทษฝั่งขวา ซาล่าห์ หันไปเจอบอลก่อนถึงเร็วกว่า มิตเชลล์ ยกเท้าสูงหวดโฉ่งฉ่างป้าบเข้าให้เสียจุดโทษ ซาดิโอ มาเน่ คนเดิมแปด้วยขวาหนีมือ แกรนท์ เสียบมุมซ้ายเข้าไปไม่พลาด
กราบาร่าสารภาพ!อันเดรียสฟรีคิกงดงาม1-1
ทว่า ปีศาจแดง กลับมาได้เร็วใช้โอกาสครั้งแรกอย่างคุ้มค่าตีเสมอ 1-1 ฟรีคิกระยะอันตราย อันเดรียส เปเรยร่า ปั่นด้วยขวาบอลโค้งข้ามกำแพงเสียบเสาแรกอย่างสวยงามโดยที่ กราบาร่า ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากยืนมองบอลลอยเข้าประตู
หงส์กดยับ
ช่วงใกล้หมดครึ่ง ลิเวอร์พูล ได้จบติดๆกันเริ่มจากเตะมุมฝั่งขวาโยนไป ฟาน ไดจ์ค ได้โขกเข้ามือ แกรนท์ ! จากนั้น หงส์แดง บุกมาทางขวาอีกรอบ คามาโช่ หักเรียดบอลเลยไปถึง โมเรเน่ ได้ซัดในกรอบด้านซ้ายแต่ติดบล็อค
เล็ดซี๊ดเริ่มยั๊วะ
เกมรุก ยูไนเต็ด ไม่มีอะไรเลยนอกจากโต้กลับทิ้งบอลไปให้ อเล็กซิส พลิกเอาเองซึ่งก็ถูกอัดฟาวล์แทบทุกครั้งจนเจ้าตัวเริ่มยั๊วะโวยผู้ตัดสินแสดงถึงความมุ่งมั่นในเกม
สุดท้ายหมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1 ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ครองบอลมากถึง 59% โอกาส 8 (5) ต่อ 1 (1) ครั้ง
หงส์มาแล้วชาคิรี่-ผีเปลี่ยนแค่โกล
ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ได้ฤกษ์ส่ง เซอร์ดาน ชาคิรี่ ลงสนามนัดแรกให้ต้นสังกัดใหม่รวมถึง ฟิลลิปส์, วู้ดเบิร์น, โอโจ้, เคลเลเฮอร์ ลงแทน ลัลลาน่า, คลาวาน, ซาล่าห์, มาเน่ และ กราบาร่า
ฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนคนเดียว โจเอล คาสโตร โกลดาวรุ่งลีลาแพรวพราวลงแทนพี่ใหญ่ แกรนท์
เสียท่าเล็กซี๊ด!พี่อ่างเหลืองเลย
อเล็กซิส ซานเชซ ยังคงพลิกบอลเรียกฟาวล์ได้แล้วในที่สุดก็ได้ผู้โชคดีคือ ฟาบินโญ่ ยังดูช้าๆอยู่และเสียใบเหลืองรายแรกจากการตัดเกมหอกนักเปียโน
สเต็ปเหลือกิน!คามาโช่โยกๆๆสับเข้ามือโจเอล
ดาวรุ่งคนนึงฝั่ง ลิเวอร์พูล ที่โดดเด่นคือ ราฟาเอล คามาโช่ แบ็คขวาโปรตุกีสเติมเกมเมามันส์โดยดอกนี้โชว์ลีลาโยกจน มิตเชลล์ หลงกระชากถึงเส้นหลังแล้วเปิดเต็มข้อกึ่งยิงยัดมุมแคบแต่ โจเอล ไม่พลาดรับไว้ได้
ชาคิรี่จ่าย!หริดอย่างคมลงปุ๊บยิงปั๊บ2-1
หลังจากเปลี่ยนตัวอีกโขยงแป๊ปเดียว ลิเวอร์พูล ก็ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 บอลยาวไปที่ว่างในเขตโทษฝั่งขวา ชาคิรี่ กวดไปเก็บได้โดน ไบญี่ พัวพันเลยไม่ฝืนจ่ายคืนหลังให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ แปด้วยขวาบอลพุ่งเรียดลอดขา ทวนเซเบ้ ชนเสาสองเข้าไปอย่างคมเลยเล่นซะ โจเอล ยืนขาตาย
หริดโค้งๆเฉี่ยวเสา
หงส์แดง เปลี่ยนทั้งทีมแล้วแต่เกมรุกยังน่ากลัวเหมือนเดิม ชาคิรี่ เปิดจากข้างซ้ายบอลเลยไปเสาไกล โอโจ้ เก็บได้ไหลคืนหลังให้ สเตอร์ริดจ์ แต่งเข้าซ้ายปั่นบอลโค้งเฉี่ยวเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
ถึงเวลาเฟร็ด
รูปเกมเป็นรองแถมโดนนำพอ ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัว เฟร็ด ลงไปเลยหมองๆหน่อยเอาเป็นว่าได้ลงนัดแรกให้ต้นสังกัดใหม่แล้วมาพร้อมกับเจ้าหนู ชอง โดยถอด มาต้า กับ มิตเชลล์ ออก
อีกจุดโทษ!โอโจ้กดหาย3-1
ลิเวอร์พูล ได้จุดโทษครั้งที่ 2 ของเกม โรเบิร์ตสัน แบ็คจอมลุยสอดไปรับบอลในที่ว่างเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วถูก เอร์เรร่า เกี่ยวร่วงตอนง้างเท้า ผู้ตัดสินอยู่ตรงนั้นพอดีเป่าเป็นจุดโทษ เชยี่ โอโจ้ รับหน้าที่เจอ โจเอล ใช้มุขชี้บอกทางป่วนสมาธิแต่ โอโจ้ โนแคร์แปด้วยซ้ายไปอีกทางอย่างเยือกเย็น 3-1
ฟิลลิปส์เจ๋ง!ตัวๆหยุดเล็กซี๊ดได้
โอกาสดีของ ยูไนเต็ด นานๆจะมาที อเล็กซิส เลี้ยงหลุดไปในเขตโทษดวลตัวต่อตัวกับ ฟิลลิปส์ หลอกแล้วกระชากมาทางขวาหามุมยิงแต่ ฟิลลิปส์ ไม่พรวดตามมาทันแหย่ขาบล็อคบอลออกหลังไปได้
เปิดตัวเหมือนฝัน!!!ชาคิรี่ตีลังกายิงหล่อเลย4-1
ลิเวอร์พูล สาแก่ใจนำขาดลอยแล้ว 4-1 บุกบอลทะลักมาทางซ้ายของกรอบ วู้ดเบิร์น เก็บได้หยอดโรยๆไปหน้าประตู เซอร์ดาน ชาคิรี่ โชว์ลีลาตีลังกายิงด้วยซ้ายโดนเต็มเท้าบอลพุ่งตุงตาข่ายอย่างสวยสดงดงาม ! ยิง 1 จ่าย 1 ไปแล้วสำหรับปีกป้ายแดงรายนี้
หงส์แดงแรงฤทธิ์ยิงผีงิ่ด4-1!!!
จากนั้นสกอร์ขาดแล้วแต่ หงส์แดง ตัดไม้ข่มนามบุกไม่เลิกจนเกมรับคู่ปรับป้อแป้ไปหมด อย่างไรก็ตามสุดท้ายไม่มีประตูเพิ่มจบเกม ลิเวอร์พูล ต้อนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขาดลอย 4-1 !!!
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
73.
คามิล กราบาร่า(GK)
46'
64.
ราฟาเอล คามาโช่
65'
4.
เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค
65'
17.
รักนาร์ คลาวาน
46'
18.
อัลเบร์โต้ โมเรโน่
65'
7.
เจมส์ มิลเนอร์[C]
65'
3.
ฟาบินโญ่
65'
20.
อดัม ลัลลาน่า
46'
11.
โมฮาเหม็ด ซาล่าห์
46'
29.
โดมินิค โซลันกี้
65'
10.
ซาดิโอ มาเน่
46'
ตัวสำรอง
62.
ควอฮิน เคลเลเฮอร์(GK)
46'
12.
โจ โกเมซ
65'
26.
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
65'
47.
เนธาน ฟิลลิปส์
46'
48.
เคอร์ติส โจนส์
65'
16.
มาร์โค กรูยิช
65'
23.
เซอร์ดาน ชาคิรี่
46'
58.
เบ็น วู้ดเบิร์น
46'
68.
เปโดร ชิริเบญ่า
65'
15.
แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
65'
54.
เชยี่ โอโจ้
46'
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Sun Jul 29, 2018 08:15, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ