ทางลัดไปห้องชงชา
ต้องผ่านรั้วหนามข้างห้องพยาบาล
เมื่อมักเน่เหลือบมองไปข้างๆ
ก็แอบเห็นเจ้าเด็กขี้เกียจกำลังมาสายเหมือนกัน
เราสองปีนบันไดช่าง แต่เธอขอขึ้นไปก่อน
กระโปรงน้องมันช่างสั้นยิ่งนัก
สิ่งที่เห็นนั้นมีแค่แก้มขาวๆ สั่นไหวไปมา
แต่ไม่กี่อึดใจนัก เสียงระฆังคาบแรกก็ดังขึ้น…
…เป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย
ลมหายใจเข้าออกดั่งพายุสุริยะ
ชีพจรมากกว่า 557 ครั้ง/นาที
หัวใจกำลังจะหลุดออกจากอก
เหงื่อไหลพรากเสมือนประปานครหลวง
ความรู้สึกเหล่านี้เป็นเพราะความรักงั้นหรือ?
ถึงมักเน่จะเข้าห้องได้ทันเวลา
แต่ทำไมใจดวงนี้ยังสงบเยือกเย็นไม่ได้
เสียงอาจารย์ลุงอยากจะหลับคาเบาะ
แต่สิ่งที่อยู่ในหัวเต็มไปด้วยใบหน้าของเธอ
เมื่อมองลอดช่องหน้าต่างไปที่ห้องติดกัน
น้องหันมาสบตาและยิ้มเบาๆ ให้กันขณะที่เปลี่ยนเสื้ออยู่
รู้สึกแปลกจริงๆ
ที่เราสองนั้นมีความรู้สึกไปในทิศทางเดียวกัน
เธอชอบกินอะไร?
เธอจะชอบนั่งชิงช้ารึเปล่า?
อ่านการ์ตูนแบบไหน?
ฟังเพลงอะไรบ้าง?
ฮิปฮอป ป๊อป ร๊อค เร็กเก้ บัลลาด?
ภายในห้องที่มีแต่กลิ่นชาเขียว
มักเน่เริ่มสูดลมหายใจลึกๆ ทำตัวเองให้ผ่อนคลาย
ถ้าหลับตาลงตอนนี้จะเป็นยังไงกันนะ?
เริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาแล้วสิเนี่ย
ยังไม่ได้กินโมจินั่นเลย
เมื่อเริ่มจกขนมเข้าปาก
เธอก็ปรากฏกายอยู่ตรงหน้า
ถั่วแดงบด แป้งโมจิและชาเขียวค่อยๆ ไหลออกทางมุมปาก
หัวใจเต้นเร็วยิ่งกว่าจรวด SpaceX
ถ้าบีบปากให้แคบลง
จะเคี้ยวได้นานแค่กันนะ?
จะนานเท่ากับการรอโบกรถแท๊กซี่รึเปล่า?
หรือนานจนกว่าจะได้อยู่บนสรวงสวรรค์
ถ้าหยุดเวลาได้แบบในหนังก็คงจะดี
ถึงแม้จะรู้ตัวว่ามันเป็นเรื่องเพ้อฝัน
ไม่มีทางที่คนอย่างมักเน่จะมี mana ได้
ไม่เคยคิดที่จะมีความคิดแบบนี้ขึ้นมาสักครั้ง
แต่คิดว่าชีวิตแบบนี้มันก็ไม่น่าเบื่อ
เพราะระหว่างดื่มชาเขียว
เราสองคนจ้องตากันในห้องนั่นแล้ว
เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีใครรู้
ในห้องชงชา