reference คือคิดเองแล้วเอาข้อมูลส่วนที่ตัวเองไม่ได้คิดมาแปะไว้แล้วใส่อ้างอิง

ส่วนก็อปคือ ไม่ได้คิดเองเลย

reference เป็นการอ้างอิงถึงสิ่งที่เรากำลังกล่าวถึงโดยมีที่มาของสิ่งนั้น เช่น ผมจะอธิบายค่าแรงโน้มถ่วงของโลกมีค่า 9.81 m/s^2 ผมก็จะ ref ข้อมูลว่าตัวเลข 9.81 ที่ผมยกมานั้นมาจากที่ไหน ซึ่งแหล่งที่ผมเอามาอ้างอิงนั้นเค้าได้ทำการทดลอง ทำการวัดผล สรุปผลออกมาเป็นตัวเลขว่า แรงโน้มถ่วงโลกมีค่า 9.81 ซึ่งคนอ่านก็จะต้องพิจารณาเองว่า สิ่งที่ผมบอกน่าเชื่อถือแค่ไหน ถ้ามีหลาย ๆ คนบอกว่าค่าแรงโน้มถ่วงมีค่า 9.81 (มีการ ref จากหลายแหล่งข้อมูล) มันทำให้รู้ว่าตัวเลขหรือข้อมูลที่ผมบอกควรจะเชื่อมากแค่ไหน

การ copy ก็เป็นการคัดลอกข้อความ คือ ไม่มีการเรียบเรียงใหม่ มีคนเคยทำไว้ยังไง ก็เอามาเลย ไม่มีการดัดแปลง หรือ ในบางกรณี บางงานก็จะมีการจำกัดความแตกต่างกันไปในแต่ละวงการ เพราะ มีเรื่องของธุรกิจมาเกี่ยวข้อง ก็จะมีคำว่า "คัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง" มาเกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้คิดค้น

ถ้าตามภาษาคนทำหนังสือ

copy ก็ลากข้อความมาวางเลย

reference คือเอาข้อมูลมาเรียบเรียงใหม่ ให้มีภาษาเป็นของตัวผู้เขียนเอง

ซึ่งมันใช้ได้กับหนังสือ เพราะมันมีเนื้อหา fact เป็นศูนย์กลาง เขัยนเยิ่ยเย้อไงก็ได้ให้เป็นภาษาเรา

แต่ถ้าพูดถึงเพลงมันไม่มี fact คงต้องแล้วแต่คนมอง

มันอ่านว่า

รี เฟ เรนส์

รีฟส์ เรนส์

รี เฟอร์ เรนส์

ตกลงอ่านออกเสียงแบบไหนกันแน่ครับ

Cop เอามาทั้งดุ้น

Ref ปรับเปลี่ยนจากต้นฉบับด้วยการคิดใหม่แต่อาจมีต้นแบบมาจาก Ref

เรฟเฟเร้น ครับ

ขอบคุณมากครับ บอกตรงๆ ผมอ่านเป็น รีเฟอร์เรนส์

reference คืออ้างอิงครับ เอาแนวคิดหรือปรัชญา หรือบทความจากที่อื่นมาตีความแล้วเขียนออกมาให้ได้ใจความตรงนั้นบางส่วน ไม่ว่าจะใหญ่หรือจะเล็ก



แต่ copy คือการเอาข้อความนั้นมาทั้งดุ้น ไม่ต้องมีการตีความและอะไรเลย

ref ส่วนมากจะเอามามากกว่า1แหล่งนะครับ เช่น เอาของA มาส่วนนึง B ส่วนนึง เราคิดเองส่วนนึง ออกมาเป็นงานเรา และให้เครดิต

ส่วน ก็อปคือ เอามาดื้อๆ แล้วบอกว่าคิดเอง

เอาง่ายๆ อะไรที่ฟ้องลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาไม่ได้ นั่นก็ ref หมดอะ (ถึงไม่ให้เครดิตก็ตาม)

เวลาทำรายงานบางทีคำพูดหรือประโยคที่เป็นทฤษฎีเราจะพูดลอยๆไม่ได้
เราก็ต้องหา Ref มาเพื่อยืนยันประโยคนั้นๆ
Copyมันก็ตามความหมายแหละครับอยู่ดีๆเอามาแปะลอยๆ เขาก็จะถามว่าคุณคิดขึ้นเองใหม

reference คือการอ้างอิง บทความนั้น มาเขียนในแบบตัวเองครับ
คนเราสำนวน แนวทาง ทัศนคติ รวมถึงวิธีการคิด การเขียน ไม่เหมือนกันครับ
ดังนั้น เรฟ. ก็คือการอ้างอิงว่า เราคิดแบบคนนี้แหละ แล้วก็บอกแนวของเราไปว่า ของเราหล่ะเป็นแบบไหน ทำไมถึง้ได้ผลเหมือนเค้า หรือทำไมเราคิดเหมือนเค้า

ส่วนCopy ก็คือการลอกทั้งดุ้น ไม่ได้เปลี่ยนใจความอะไรเลย
หรือบางคน อาจจะPlagiarism แบบเนียนๆ แต่มันก็จับได้อยูดี
เพราะคนเราไม่เหมือนกัน การลอก แบบเปลี่ยนแค่คำเชื่อม เปลี่ยนบางคำ บางประโยค ยังไงก็คือลอกครับ ถ้าคนผลงานวิชาการหรืออ่านงานวิชาการมาเยอะๆยังไงก็รู้ครับ...

อันนี้จากความคิดของผมนะครับ

Reference เป็นการเอามาบางส่วน เอามาต่อยอด ดัดแปลง พัฒนา เปลี่ยนแนวคิด ให้เป็นผลงานใหม่ โดยมีกลิ่นของผลงานเดิมอยู่เล็กน้อย

Copy จะเป็นการเอาแกนของผลงานนั้นมาใช้ เอาส่วนสำคัญมาใช้ แนวคิดยังเหมือนเดิม โครงยังเหมือนเดิม

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลงานที่คุณอ้างถึงเป็นแบบไหนด้วยนะครับ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นเรื่องเพลง
ถ้า Ref อาจจะดึงเอาเมโลดี้บางช่วง หรือบีทบางช่วง มาปรับจังหวะ ใส่โทนเพิ่ม ใส่โน๊ตเพิ่ม ปรับบีท พวกนี้ในวงการโฆษณานั้นทำเป็นประจำครับ เราเอาเพลงที่ชอบ หรือต้องการใช้มาขยับ เปลี่ยนเสียง ยกโน๊ตให้สูงขึ้นหรือต่ำลงกว่าเดิม ใส่ลงไปเพิ่ม ดังนั้นเพลงประกอบของบางโฆษณาเราถึงรู้สึกว่ามันคล้ายกับเพลงนั้นเพลงนี้

แต่ถ้าก้อปในแง่เพลง ผมว่าคือการเอาเพลงมาเลย เอาโน๊ตมาทั้งช่วง เอาจังหวะหรือบีทมาใช้เลย หรือเอาเนื้อมาทั้งท่อน อาจจะมีเปลี่ยนอะไรนิดหน่อย แต่รู้ได้ทันทีว่าเอามาจากไหน

ส่วนเรื่องให้เครดิตหรือไม่ อันนี้ผมว่าคนละประเด็นกัน ถึงก้อปก็ให้เครดิตได้ครับ หลายๆคนบอกว่าการให้เครดิตคือ การ Reference แต่ผมคิดว่าถ้าลอกเอาผลงานมา คือ การก้อปแบบให้เครดิตอยู่ดี ซึ่งต่างจาก Reference ในแง่ความหมายนะครับ

Reference นึกสภาพ สั่งข้าวผัดหมู เจอแต่วิญญาณหมู
ไม่มีเนื้อจากการ copy มีแต่กลิ่น

ก๊อปคือ Ctrl+c แล้ววาง จบ ทำให้ดูเหมือนงานตัวเอง คำพูดตัวเอง

Ref คือ Ctrl+c แล้ววาง แล้วแก้ไขเป็นสำนวนเราเอง

โดยใส่ที่มาให้ด้วยว่ามาจากไหน โดยยังคงเนื้อหาหลักไว้

เช่น

Ref นาย ก บอกว่า กระเพาหมูร้านนี้อร่อย ผมก็อยากลองสักครั้งเหมือนกัน

Copy กระเพาหมูร้านนี้อร่อย

ref สืบต้นตอได้ง่าย ให้เครดิต
ก็อป ต้องสืบเองแบบลับๆ