อึดเต็มพิกัด!!หมียื้อ120น.ต้านไม่ไหว'โครแอต'แม่นโทษ 4-3 ลิ่วตัดเชือก
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
อีกหนึ่งเกมระดับคุณภาพของฟุตบอลโลกหนนี้ เมื่อรัสเซียฟาดฟันกับโครเอเชียในเกมสุดอึดวิ่งฟัดกันไม่มีหมด 120 นาที (เสมอ 1-1 ใน 90 นาที) โดยเจ้าภาพรอดตัวได้ยื้อถึงเกมจุดโทษหลังได้ประตูตีเสมอ 2-2 นาที 115 จากมาริโอ แฟร์นานเดส ก่อนท้ายของท้ายที่สุดจะเป็นโครเอเชียที่แม่นโทษกว่าเอาชนะไปได้ 4-3
รัสเซีย
Starting Formation: 4-2-3-1
1.
อิกอร์ อคินเฟเยฟ (GK) (C)
6
19.
อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ
53'
6.5
17.
อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน
101'
6.5
6.
เดนิส เชอรีเชฟ
66'
7.5
22.
อาร์เต็ม ซูบา
79'
7
ตัวสำรอง
8.
ยูริ กาซินสกี้
79'
6.5
9.
อลัน ซาโกเยฟ
101'
7.5
10.
โฟดอร์ ซโมลอฟ
66'
7.5
21.
อเล็กซานเดอร์ อีโรคิน
53'
6.5
ฟุตบอลโลก 2018 รอบก่อนรองชนะเลิศ
สนาม โอลิมปิสกี้ สตาดิโอน ฟิชท์, โซชิ
วันเสาร์ที่ 7 กรกฏาคม 2561
กรรมการ ซานโดร ริชชี่
EX. รัสเซีย
2
2
โครเอเชีย
โครเอเชีย ชนะการดวลจุดโทษ 4-3
เดนิส เชอรีเชฟ 31'
มาริโอ แฟร์นานเดส 115'
อังเดร ครามาริช 39'
โดมากอย วิด้า 100'
โครเอเชีย ลงสนามรอบก่อนรองชนะเลิศปรับเปลี่ยนทีมเล็กน้อยเมื่อถอดมิดฟิลด์ตัวรับ มาร์เซโล่ โบรโซวิช ออกแล้วส่งตัวรุกอย่างอังเดร ครามาริช ลงเป็น 11 ตัวจริง มีอิวาน เปริซิช และอันเต้ เรบิช คอยทำเกมริมเส้น โดยทีเด็ดของทีมยังอยู่ที่กลางคุมจังหวะของสองมิดฟิลด์เทพอย่าง ลูก้า โมดริช และอิวาน ราคิติช เช่นเดิม
รัสเซีย เปลี่ยนทีมแค่ 1 ตำแหน่งใช้เดนิส เชอรีเชฟ แทนที่ยูริ เซียร์คอฟ คอยปั้นเกมรุกทางซ้าย ขณะที่อลัน ซาโกเยฟ ดาวเตะประจำทีมซึ่งเจ็บไปตั้งแต่เกมนัดแรก เกมนี้ยังมีชื่อเป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น
- รัสเซีย ปะทะโครเอเชีย มา 3 หน สองหนจบลงที่ผลเสมอ 0-0 และโครเอเชียชนะ 3-1 เมื่อปี 2015
- โครเอเชีย ทำได้ถึง 8 ประตู จาก 4 นัดในฟุตบอลโลกหนนี้ ซึ่งเท่ากับพวกเขาเล่น 6 แมตช์จากฟุตบอลโลกสองสมัยในปี 2006 และ 2014 เลยทีเดียว
- รัสเซีย มีโอกาสยิงเข้ากรอบถึง 10 ครั้งจาก 2 นัดแรกในฟุตบอลโลกหนนี้ แต่ 2 เกมหลังจากนั้นพวกเขามีโอกาสยิงเข้ากรอบแค่ 2 หนเท่านั้น
- 10 ประตูจาก 12 ลูกที่โครเอเชีนทำได้ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เกิดขึ้นในครึ่งหลัง
- มาริโอ มานด์ซูคิช ยิงประตูที่ 3 ในฟุตบอลโลกให้โครเอเชียในเกมพบเดนมาร์ก ตอนนี้มีแค่เพียงดาวอร์ ซูเคอร์ เท่านั้นที่ยิงได้มากกว่าเขาในฟุตบอลโลก (6 ประตู)
ซูบาซัดทักทายก่อนเลย
รัสเซีย ฮึกเหิมตามเสียงเชียร์ของแฟนบอลเจ้าถิ่น เปิดฉากกดดันสูงโครเอเชียตั้งแต่เริ่มต้นเกม และมีลุ้นก่อนเลยจากจังหวะที่กองหลังโครแอตโหม่งสกัดบอลไม่ขาดลูกมาตกใส่ทางปืน ซูบา ฮาล์ฟวอลเล่ย์ไปติดบล็อคลอฟเรนซะก่อน
โครเอเชียลุ้นบ้างจากเรบิช2หนติด
ถัดจากนั้นเป็นโครเอเชียที่ได้ลุ้นบ้าง จากลูกยิงมุมแคบทางขวาของเรบิช อคินเฟเยฟ ไม่พลาดทิ้งตัวเซฟบอลไว้ได้ทัน ก่อนที่เรบิชจะได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกโหม่งแต่ข้ามคานไปอีก
มานด์ซูคิชยิงจ่อๆวืดเป้า
ทัพโครแอตตั้งหลักได้แล้ว เมื่อเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้เยอะกว่า จังหวะนี้ เวอร์ซาลจ์โก้ เติมเกมสูงทางขวาก่อนครอสเรียดเข้าไปหน้าประตูให้มานด์ซูคิชเข้าฮอส แต่หัวหอกทำไม่ดีเตะบอลแป๊กลูกลอยโด่งหลุดกรอบไปแบบน่าเสียดาย
โครเอเชียครองบอลดีกว่า
20 นาทีผ่าน เกมของโครเอเชียดีกว่าชัดเจน แต่รัสเซียเองก็แพ็คเกมรับได้ดีแถมยังมีจังหวะตอบโต้กลับด้วยลูกวางยาวได้ลุ้นอยู่ในบ้างจังหวะอีกด้วย
เปริซิชทิ้งตัวโหม่งบอลหลุดกรอบ
โครแอตมีโอกาสอีกครั้งจากการขึ้นเกมทางกราบขวาของเวอร์ซาลจ์โก้ตามเดิม คราวนี้เขาครอสบอลเข้าไปกลางประตูให้เปริซิชทิ้งตัวสะบัดบอลไปที่เสาไกล บอลโดนบางเกินกว่าจะหวังผลเป็นประตู
เชอรีเชฟยิงสุดสวยให้รัสเซียนำ 1-0
รัสเซียขึ้นนำ 1-0 จากลูกยิงสุดสวยของเชอรีเชฟ เริม่จากจังหวะที่ตัวเขาเองปั้นบอลเดินเกมจากครึ่งสนามก่อนฝากบอลให้ซูบาแล้วกลับมาแต่งบอลเข้าซ้ายข้างถนัดแล้วซัด 25 หลาบอลพุ่งแรงฮุคเสียบมุมเสาชนิดเอาไปเลยคะแนนความสวยงาม 10/10
รัสเซียคึกบุกต่อเนื่อง
พอออกนำกำลังใจมันมาจะเห็นได้ชัดเลยว่าเกมรุกรัสเซียดีขึ้น แนวรับโครแอตดูมีปัญหาในการตามประกบซูบา
เกมรับหมีพลาด,ครามาริชโขกตีเสมอ 1-1
โครเอเชียตามตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว เปิดบอลหลุดขึ้นทางซ้ายจนสุดเส้นหลังของ มานด์ซูคิช ก่อนจะตบเข้ามากลางประตูไปที่จุดนัดพบให้ครามาริช โขกโล่งๆในระยะเผาขนคนเดียวกลางวงล้อมกองหลังรัสเซีย 5 ตัว สุดปัญญาที่อคินเฟเยฟจะช่วยป้องกันไว้ได้
จบครึ่งแรกเสมอ 1-1
หลังจากนั้น ทั้งสองทีมไม่ได้โหมเกมหนักใส่กันสักเท่าไหร่ จนกระทั่งจบครึ่งแรกเสมอกันไป 1-1 ไว้กลับเข้าห้องแต่งตัวไปหาวิธีมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลัง
ครึ่งหลังโครแอตเปิดฉากบุกใส่ทันที
ออกสตาร์ตครึ่งหลัง โครแอตยังเหมือนในครึ่งแรกเมื่อเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้ดีกว่าทางเจ้าถิ่น แต่โอกาสในพื้นที่สุดท้ายยังไม่จะแจ้งอะไรมากมายนัก
รัสเซียถอดซาเมดอฟออกให้อีโรคินแทน
รัสเซีย ปรับเกมด้วยการปรับตัวคนแรกทันทีเมื่อส่งอเล็กซานเดอร์ อีโรคิน แทนที่ซาเมดอฟ
เปริซิชซัดชนเสาน่าได้ประตุสุดๆ
โครเอเชีย ไม่ได้ประตูได้ยังไง เป็นจังหวะที่กองหลังรัสเซียโหม่งบอลทิ้งไม่ขาดมาตกที่หน้าประตูตัวเอง และก็เป็นเปริซิชที่ได้บอลแต่งหนึ่งจังหวะแล้วเลือกหักยิงเข้าเสาไกล บอลผ่านมืออคินเฟเยฟไปชนเหลี่ยมในใครก็ต้องติดว่าเป็นประตูแน่แล้ว แต่ที่ไหนได้ ลูกวิ่งผ่านหน้าปากประตูไปเฉยเลย โชคดีมากๆสำหรับเจ้าถิ่น
ซูบาโขกติดเซฟประตู
ความใหญ่ของซูบาสร้างปัญหาในแนวรับโครเอเชียต่อเนื่อง จังหวะนี้เขาได้ขึ้นโหม่งหน้าประตูโครเอเชีย โชคยังดีที่บอลไปตรงตัวซูบาซิช
โครแอตเปริซชออกให้โบรโซวิชช่วยคุมกลาง
โครเอเชียปรับแก้เกมบ้างเมื่อถอดเปริซิชออกแล้วส่งมิดฟิลด์ที่ถนัดเกมรับกว่าอย่าง โบรโซวิช ลงสนาม
เกมเร็วมาก,ภาพรวมโครเอเชียทำได้ดีกว่า
โครเอเชียต่อบอลทำเกมรุกได้ดีกว่า เกมค่อนข้างเร็วบอลเคลื่อนที่ตลอดเวลา ส่วนรัสเซียก็ยังคงคุมพื้นที่เล่นเกมรับได้เหนียวแน่น เป็นช่วงเวลาที่เร้าหัวใจของแฟนบอลทั้งสองทีม
อีโรคินขึ้นโขกคนเดียวหลุดคาน
รัสเซีย นานๆบุกที เซตนี้ต่อบอลเข้าทำสวยงามและได้จบสกอร์ด้วย เป็นการเปิดจากทางขวาของแฟร์นานเดส ให้ตัวสำรองอีโรคิน โหนตัวโขกหน้าประตูแต่บอลข้ามคานไปแบบได้ลุ้น
โครแอตเกือบได้จากโมดริช
โครเอเชีย บุกหนักและได้ลุ้นอีกชุดจากบอลขลึงซ้ายที-ขวาที สุดท้ายเป็นโมดริชที่ง้างทางวอลเล่ย์บอลไปติดบล็อคปลิ้นมาให้เวอร์ซาลจ์โก้ได้ยิงซ้ำอีกทีก็ยังไม่ได้ประตู
ซูบาหมดแรงถูกถอดออก
ซูบาทำงานอย่างหนักจนหมดแรงถูกถอดออกให้กาซินสกี้งเล่นแทน
ทั้งสองทีมสู้ท้ายเกมได้คู่คี่มาก
ทั้งสองทีมยังคงพยายามหาโอกาสปิดสกอร์เพื่อจบเกมนี้
โครแอตส่งโควาซิชแทนที่ครามาริช
โครแอตทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่งโควาซิชแทนที่ครามาริชในเกมรุก
ซูบาซิชเจ็บเล่นเอาโครแอตใจหาย
นายทวารซูบาซิชเกิดเจ็บต้นขาหลังขณะที่ทีมเปลี่ยนตัวไปครบโควตาแล้ว เล่นเอาเกมหยุดไปหลายนาทีเพื่อดูอาการ แต่สุดท้ายก็ฝืนเล่นต่อไปได้
ซูบาซิชโชว์เซฟทั้งที่เจ็บ
เหมือนรัสเซียรู้ว่าซูบาซิชเจ็บ เลยลักไก่ยิงมุมแคยทันที เดือนร้อนมือกาวโครแอตต้องทุบบอลทิ้งเล่นเอาใจหายใจคว่ำ
เวลาปกติเสมอ 1-1 ต้องลุ้นกันต่อ
หมดเวลาปกติ รัสเซียยื้อโครเอเชียไว้ที่ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
ซูบาติชเล่นต่อได้,เวอร์ซาลจ์โก้เจ็บต้องเปลี่ยน
ลุยก่อนต่ออีก 30 นาที ข่าวดีของโครเอเชียก็คือ ซูบาซิช สามารถเล่นต่อไปได้ แต่ข่าวร้ายก็คือเวอร์ซาลจ์โก้เจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่งเวดรัน ชอว์ลูก้า ลงมาแทน
โครแอตป้อแป้แซงนำ2-1 จากวิด้า
โครเอเชียที่ป้อแป้นักเตะหมดแรง-บาดเจ็บ แต่กลับทำประตูขึ้นนำ 2-1 ได้สำเร็จ จากลูกเตะมุมที่ตกเข้าหัววิด้า บอลกระดอนลงพื้นผ่านทุกชีวิตที่อยู่ตรงนั้นพุ่งเสียบตาข่ายชนิดอคินเฟเยฟไม่มีสิทธิ์ป้องกัน
หมีส่งซาโกเยฟแทนโกโลวิน
รัสเซีย ส่งไม้ตายคนสุดท้ายลงสนามทันที เป็นซาโกเยฟ แทนที่โกโลวิน
รัสเซียไม่มีทางเลือกต้องบุกแหลก
หลังจากเสียประตู รัสเซียบุกแหลกทันที แต่ก็ทำได้ดีสามารถกดดันแนวรับโครเอเชียได้ต่อเนื่องตามประสาคนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
ซูบาซิชโชว์เซฟลูกยิงคูซาเยฟ
รัสเซียบุกดหนักมาก จังหวะนี้ได้ลุ้นจากลูกวอลเล่ย์ของคูซาเยฟ แต่ซูบาซิชยังเซฟไว้ได้
หมีทำได้.แฟร์นานเดสโขกตีเสมอ2-2
ในที่สุดความพยายามของรัสเซียก็สัมฤทธิ์ผลตามตีเสมอ 2-2 สำเร็จ เริ่มจากฟรีคิกทางขวา เป็นซาโกเยฟที่บรรจงเปิดเข้าไปหน้าประตูให้แฟร์นานเดส เทกตัวขึ้นโขกโล่งๆไม่พลาดเป้า
สู้กันจนหมดแม็กก็ยังกินกันไม่ลง เสมอกันไป 2-2 ต้องไปลุ้นกันต่อในเกมดวลจุดโทษตัดสิน
ซโมลอฟ - ไม่เข้า
โบรโซวิช - เข้า
ซาโกเยฟ - เข้า
โควาซิช - ไม่เข้า
แฟร์นานเดส - ไม่เข้า
โมดริช - เข้า
อิ๊กนาเชวิช - เข้า
วิด้า - เข้า
คซาเยฟ - เข้า
ราคิติช - เข้า
จบเกมโครเอเชียแม่นจุดโทษกว่า เป็นฝ่ายได้ผ่านเข้าไปตัดเชือกที่สกอร์ 4-3
โครเอเชีย
Starting Formation: 4-2-3-1
2.
ซิเม่ เวอร์ซาลจ์โก้
97'
7
3.
อิวาน สตรินิช
74'
6.5
9.
อังเดร ครามาริช
88'
7.5
4.
อิวาน เปริซิช
63'
6.5
ตัวสำรอง
5.
เวดรัน ชอร์ลูก้า
97'
6.5
8.
มัตเตโอ โควาซิช
88'
6
11.
มาร์เซโล่ โบรเซวิช
63'
7
22.
โยซิป ปิวาริช
74'
6.5
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Sun Jul 08, 2018 06:31, ทั้งหมด 42 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ