ต่อจากกระทู้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานะครับ"กระทู้ วันนี้ผมก็เห็นกางเกงในสาวมา"
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1643803/1/#37684568
ลายเเทง เผื่อใครจะอ่านกระทู้นี้ จะได้รู้ที่ไปที่มา
เข้าเรื่องกันเลยนะครับ
วันนี้ผมก็มีประชุมเวลาเดิมตึกเดิม เเต่ผมเลือกที่จะไม่เอารถไปเพราะตอนเย็น
ผมต้องไปกินข้าวกับที่บ้านเเถวอโศกกลัวเลิกงานจะไม่ทันกินข้าว
ผมเลยตัดสินใจนั่งใต้ดินไป
(วันอังคารที่ผ่านมาที่รอให้น้องเขาส่งข้อความมาขอบคุณ หรือโทรมา
สรุปเงียบครับไม่มีอะไรทั้งสิ้น)
พอไปถึงสถานีลุมพีนีเดินออกจากประตูกำลังจะเลี้ยวขึ้นบันไดเลื่อน
ผมก็เจอน้องlighting designer กำลังจะเลี้ยวขึ้นบันไดเลื่อน
ออกมาจากอีกประตู ตอนน้องเขาเห็นผมก็สะดุ้งตกใจเเบบออกอาการ
ทางหน้า เเล้วร้องก็รีบเดินฝั่งซ้ายขึ้นไป ส่วนผมยืนผิดหวังเเบบเงียบๆ
อยู่ฝั่งขวา คิดในใจว่าเอาเเล้วประชุมกันวันนี้ จะสั่งเเก้งานยังไงวะ
เมื่อผมกลายเป็นคนโรคจิตในสายตาอีน้องนี้ไปเเล้ว
(วันนี้น้องเขาใส่กระโปร่งทรงเอเเต่ยาวหน่อยเสมอเข่า + เสื้อยืดสีขาว)
ผมไปถึงห้องประชุมวันนี้ผมเป็นคนที่สายสุด ตำเเหน่งนั่งตามเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน
ฝั่งที่นั่งหันหลังให้ประตูห้องคือ อินทีเรีย เเละลูกค้าอีก 2 คน (ฝั่งนี้เป็น ญ ทั้งหมด)
ส่วนฝั่งที่หันหน้าเข้าประตูคือทีมสถาปนิกคือผมเเละเพื่อน กับพี่วิศวกรงานระบบ
(ฝั่งนี้เป็น ดุ้น ทั้งหมด)
พอผมนั่งก็เริ่มการประชุม เเล้วความเป็นมืออาชีพของน้องเขาก็เริ่มต้นขึ้น
น้องเขาชี้เเจงเเบบ ขอเเก้โน่นเเก้นี้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมก็คิดในใจเอาวะโรคจิตก็โรคจิต สั่งเเก้ผนังอะไรมาถ้ามันปรับเเบบเยอะ
ผมก็จะไม่เเก้ให้ไฟต้องตามผมสิ จะให้ผมไปตามไฟได้ไง
ประเด็นหลักวันนี้สาวเจ้าอยากให้ผมเพิ่มความหนาผนังด้านข้างอาคาร
เพื่อจะซ่อนไฟไว้ในส่วนผนัง เเต่ผมไม่อยากเเก้รูปด้านอาคารเเล้ว
ผมก็เลยไม่ยอม ก็เถียงกันไปกันมาออกรสออกชาติกันพอสมควร
lighting designer : สถาปนิกเพิ่มอีกให้ได้รึเปล่าคะ ไฟไม่สวยก็จะโทษlightingอีก
หลังจากประโยคนี้หลุดออกมา ผมก็จัดเต็มในเรื่องงานครับ
+ อารมณ์เสียด้วยนิดหน่อยที่ทำดีเเล้วไม่ได้ดี
ผมก็บอกให้หาที่ซ่อนที่อื่น ใต้เเผ่นผนังที่เซาะอะไรพวกนี้
ไม่ใช่เอะอะอะไรก็จะให้เพิ่ม ก็เขียนกันในเเบบที่กางอยู่กลางโต๊ะตัวเดิม
ขนาด 1.20 เมตรนี้เเหละครับ คนอื่นๆที่นั่งฟังก็เริ่มเบื่อเขาก็กินน้ำกดโทรศัพท์รอ
เพราะผมกับน้องเขาย้ำเรื่องเพิ่มขนาดผนังกันพอสมควร สุดท้ายน้องเขาก็ยอมผม
lighting designer : งั้นเอาตามที่คุยกันนะคะ เเต่มีข้อเเก้อีกนิดหนึ่ง
เเล้วน้องเขาก็สเก็ตลง ผมก็งงมันจะอะไรกับผมหนักหนา
ผมก็เลยลุกขึ้นไปดูที่เเบบกลางโต๊ะอีกรอบว่าเขาจะเเก้อะไรอีก
เสื้อยืดของน้องคอมันก็กว้างก้มเขียนทีก็จะเห็นถึงสะดืออยู่เเล้ว
พอตั้งสติได้ผมก็เริ่มมอง detail ซ่อนไฟที่เขาสเก็ตไว้
พยายามจ้องเพราะน้องเขาสเก็ตไว้เล็กมาก
เเล้วตัวหนังสือที่เขียนสเปค detail ไว้ก็คือ "ขอบคุณเรื่องซิปกางเกงนะค่ะ"
พอผมอ่านเสร็จก็มองหน้าน้องเขาน้องเขาก็ยิ้ม
lighting designer : สรุปตามนี้นะค่ะ ขอบคุณมากๆ
เเล้วก็จบการประชุมครับ ไม่รู้จะดึงไปดึงมาทำไม ส่งข้อความมาบอกผมก็จบเรื่องเเล้ว
ประชุมเสร็จก็เเยกย้าย ผมเลยลงมากินข้าวที่ร้านอาหารใต้ตึก
ทางเชื่อมไปฝั่งโรงเเรมผมกับเพื่อนก็เร่งกินกันเพราะต้องกลับ
ออฟฟิตไปทำงานต่อ พอเรียกพนักงานเก็บเงินเขาก็บอกว่า
พนักงานร้านอาหาร : ของพี่เสื้อฟ้าจ่ายเเล้ว เเต่ของพี่อีกคนยังไม่จ่าย
ผม : ผมยังไม่ได้จ่ายเลยพึ่งกินเสร็จ
พูดจบพนักงานก็ชี้มือไปหาผู้หญิงคนที่ยืนซื้อน้ำอยู่ที่บาร์
สรุปคือน้องเขาจ่ายค่าข้าวเเละน้ำให้ผมทั้งหมด ยกเว้นเซตของเพื่อนผม
ผมก็เลยยกมือขึ้นบอกไปประมาณว่าขอบคุณ
เเล้วน้องเขาก็ชี้หน้าผมกลับมา ขยับปากว่า "โรคจิต โรคจิต" เเบบไม่ออกเสียง
เเล้วก็หัวเราะเดินออกไปจากร้าน
ส่วนเพื่อผมก็ไม่ได้รู้เรื่อง 5 อะไรอีกตามเคย
เพื่อนผม : เขาจ่ายเงินค่าข้าวให้ทำไมวะ น้องเเม่งเเปลกๆตั้งเเต่ประชุมเเล้ว
สรุปจบเเบบเเอปปี้ไปครับวันนี้ วันจันทร์หน้าคงได้มาเถียงกันเรื่องงานอีกรอบ
ส่วนผนังที่จะให้ผมเพิ่มความหนาเพื่อซ่อนไฟก็ตามนั้นครับ
ผมไม่เเก้ให้ เพราะดูเเล้วมันไม่สวย
ปล. เห็น comment ถามว่าทั้งคู่มีเเฟนยัง
- ผมมีเเล้วครับ
- น้องเขาผมไม่รู้
- ส่วนจันทร์คงเถียงกันเรื่องเดิมครับ ทางทีมผมคงไม่เเก้รูปด้านอาคาร
เพราะมันกระทบหลายอย่าง ทำเเค่ซ่อนไฟ ไม่คุ้มค่าที่จะเเก้ครับ
น้องเขาคงจะหัวเสียทางทีมผมพอสมควร