เกรียนโอ้คัมแบ็คยิง!อัซซูรี่บอลเปลี่ยนโค้ชเผาเครื่องซาอุฯ 2-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
มาริโอ บาโลเตลลี่ ฉลองกลับมารับใช้ชาติเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีพังประตูได้ทันทีตอบแทนพระคุณ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือใหม่ถอดด้ามประเดิมได้สวยช่วย อัซซูรี่ อิตาลี เผาเครื่อง ซาอุดิอาระเบีย 2-1
อิตาลี
Starting Formation: 4-3-3
4.
โดเมนิโก้ คริสซิโต้
88'
7
24.
อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่
67'
6
16.
ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่
73'
6
17.
มัตเตโอ โปลิตาโน่
73'
6.5
9.
มาริโอ บาโลเตลลี่
58'
7.5
10.
ลอเรนโซ่ อินซิเญ่
83'
6
ตัวสำรอง
2.
มัตเตีย เด ชิโย่
88'
-
23.
ไบรอัน คริสตันเต้
73'
5
8.
จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า
67'
5
20.
ซิโมเน่ แวร์ดี้
73'
5
25.
เฟเดริโก คิเอซ่า
83'
5
11.
อันเดรีย เบล็อตติ
58'
7
ฟตบอลกระชับมิตร
สนาม คีบุนปาร์ค
วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม 2561
กรรมการ ซานโดร ชาเรอร์
อิตาลี
2
1
ซาอุดิอาระเบีย
1-0 มาริโอ บาโลเตลลี่ 21'
2-0 อันเดรีย เบล็อตติ 69'
2-1 ยาห์ย่า อัล-เชห์รี 72'
เกรียนโอ้ตัวจริง
โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือใหม่ถอดด้ามทีมอิตาลีประเดิมสนามด้วยการส่งลูกรัก มาริโอ บาโลเตลลี่ ดาวยิงเกรียนเทพลงตัวจริง รวมถึง จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เฝ้าเสาในฐานะมือ 1 อย่างเป็นทางการต่อจาก จานลุยจิ บุฟฟ่อน ขณะที่ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ สวมปลอกแขนกัปตันทีม
อัซซูรี่ลุยใส่...เกรียนโอ้โหม่งได้ลุ้น
เปิดฉาก อัซซูรี่ ยุคใหม่เดินหน้าเข้าหาทันทีผ่าน 5 นาทีแรกได้ลุ้นก่อนจากจังหวะ โบนุชชี่ เติมเกมรุกกราบขวาโยนเข้าเขตโทษ บาโลเตลลี่ ได้โหม่งเช็ดเฉี่ยวเสานิดเดียว
ได้แค่เกือบ...โบจังเข้าไม่ถึง
อิตาลียังทำเกมบุกต่อเนื่องอีก 6 นาทีต่อมา โปลิตาโน่ โยนลูกเตะมุมฝั่งซ้ายไปยังจุดนัดพบ เปลเลกรินี่ โหม่งเช็ดไปยังเสาสอง โบนุชชี่ พยายามชาร์จไม่ทันบอลหลุดเสาสองไปนิดเดียว
นำแล้วจ้า...เกรียนโอ้ปลดล็อค 1-0
แต่แล้วแฟนๆไม่ต้องรอนานในที่สุด อัซซูรี่ ขึ้นนำจนได้ 1-0 โบนุชชี่ โยนยาวจากแดนตัวเองเข้าเขตโทษกองหลังซาอุฯโหม่งสะกัดออกมา บาโลเตลลี่ รอเก็บตกแถวสองทำท่าจะกระชากไปซ้ายก่อนล็อคเข้าขวาสับไก 20 หลาบอลพุ่งเรียดเบียดเสาแรกเข้าไป
เลี่ยนลุยต่อ...โปลิตาโน่หลุดไปแล้ว
พอได้ประตูขึ้นนำ อิตาลี หันมาเน้นประคองตัวผ่านครึ่งชั่วโมงแรกกลับมามีลุ้นอีกครั้่ง คริสซิโต้ ยกบอลข้ามแผงหลังทะลุถึง โปลิตาโน่ หลุดพื้นว่างในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายต้องชมนายทวาร อัล-อวาอิส พุ่งออกมาปัดบอลได้ก่อน
โชว์ท่ายาก...โรมันฯตีลังกายิง
เข้าสู่นาที 33 อัซซูรี่ ได้เสียวอีกครั้ง คริสซิโต้ เติมเกมรุกทางฝั่งซ้ายโยนไปหน้าปากประตูกองหลังซาอุฯโหม่งเคลียร์ไม่ขาดบอลลอยโด่ง โรมันญอลี่ หันหลังให้ประตูตีลังกายิงไม่ตรงกรอบ
ยิงไปไหน...เปลเลฯเบิร์ดเบิร์ด
อีก 5 นาทีต่อมายังเป็น อิตาลี เหนือกว่าทำเกมรุกต่อเนื่อง เปลเลกรินี่ หลุดทะลุเข้าเขตโทษกลางประตูพอดีมีโอกาสได้แปเน้นๆเหินข้ามคานน่าเสียดาย
ชวด 2-0...คริสซิโต้จูบคาน
ก่อนหมดเวลา 5 นาที อัซซูรี่ พลาดโอกาสทองยิงห่าง 2-0 จากจังหวะ เปลเลกรินี่ ไหลไปทางซ้าย คริสซิโต้ เติมเกมรุกกระชากเข้าเขตโทษอัดเต็มหลังเท้าชนคานเต็มๆ จบครึ่งแรก อัซซูรี่ ตุนอยู่ 1 เม็ด
อูย...เปลเลฯใกล้เคียง
กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ผ่าน 10 นาที อัซซูรี่ เกือบจะได้ประตูทีสอง ซับปาคอสต้า โยนจากฝั่งขวาเข้าไปหน้าปากประตู เปลเลกรินี่ ล้มตัวชาร์จข้ามคาน
แฟนๆปรบมือ...เกรียนโอ้เปลี่ยนออก
นาที 58 บาโลเตลลี่ ฮีโร่ในนัดนี้ถูกเปลี่ยนตัวออกเรียกสแตนดิ้ง โอเวชั่น แฟนๆบอลพร้อมใจกันปรบมือให้เสียงดังสนั่น
เบล็อตติอดเฮเจอบล็อค
ผ่าน 1 ชั่วโมงไปแล้วยังเป็น อิตาลี ทำเกมรุกต่อเนื่อง ซัปปาคอสต้า โยนยาวจากฝั่งขวาข้ามแนวรับ เบล็อตติ เอาบอลลงด้วยซ้ายก่อนยิงด้วยขวาติดบล็อคเต็มๆ
เอาจนได้...เบล็อตติซ้ำ 2-0
แต่แล้วนาที 69 อัซซูรี่ นำห่างเป็น 2-0 จอร์จินโญ่ โยนลูกเตะมุมฝั่งขวาไปยังจุดนัดพบ เบล็อตติ โหม่งเต็มๆติดเซฟผู้รักษาประตูปัดออกมา เบล็อตติ ไวทายาทตามซ้ำดาบสองไม่เหลือ
เซฟได้ไง...อินซิเญ่เกือบส่องเม็ดสาม
นำห่าง 2 ประตูยังไม่พออีก 2 นาทีต่อมา อัซซูรี่ เกือบมีเม็ดสาม อินซิเญ่ ลากจากซ้ายตัดเข้าในก่อนปั่นไซด์บอลกำลังจะเสียบเสาสองอยู่แล้วทว่านายทวารซาอุฯซูเปอร์เซฟ
ซัปปาฯพลาด....อัล-เชห์รีตีไข่แตก
กำลังบุกอยู่ดีๆ อิตาลี เสียท่าโดน ซาอุดิอาระเบีย ตีไข่แตกไล่มา 1-2 ซัปปาคอสต้า ครองบอลแดนกลางพลาดโดน อัล ดอว์ซารี่ แย่งบอลได้ก่อนไหลให้ อัล เชห์รี หลุดเดี่ยวโล่งๆแตะหนีนายทวาร ดอนนารุมม่า สังหารเข้าไป
เลี่ยนเกือบตาย...น้องดอนฯซูเปอร์เซฟ
พอเสียประตูนี้ไปดูเหมือน อิตาลี ช็อคไม่หายเกือบโดนตีเสมอ คริสซิโต้ โหม่งบอลคืนหลังพลาดกลายเป็นส่งให้ อัล มูลวาลลาด ตัวสำรองได้ยิงเน้นๆทว่าติดขาของ ดอนนารุมม่า สกัดเฉียดฉิว
จบเกม อิตาลี เบียดซิว ซาอุดิอาระเบีย 2-1
ซาอุดิอาระเบีย
Starting Formation: 4-2-3-1
3.
โอซาม่า ฮอว์ซาวี่
84'
5
5.
โอมาร์ ฮอว์ซาวี
90'
5
7.
ซัลมาน อัล-ฟาราจ
90'
5
27.
โมฮาเหม็ด คันโน
46'
4
28.
โมฮาเหม็ด อเซรี
72'
4
ตัวสำรอง
25.
โมตาซ ฮอว์ซาวี
90'
5
26.
อาลี อัลบูลายี
84'
5
16.
ฮัสเซน อัล-โอาห์วี
90'
5
19.
ฟาฮัด อัล มูวาลลาด
72'
5
29.
ซาเลม อัล-ดอว์ซารี่
46'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ลูกกลมกลม เมื่อ Tue May 29, 2018 04:14, ทั้งหมด 19 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ