โกล์ใหม่ด่วน!! คาริอุสเหวอ 2 เม็ด ‘ราชัน’คว่ำหงส์ 3-1 ซิวยุโรปสมัย 13
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เดอะ ค็อป ช็อกตาตั้ง เสียโม ซาลาห์ ตอนต้นเกมยังไม่เท่าไหร่แต่”โกล์พลังจิต”ลอริส คาริอุส ดับอนาคตตัวเองทำหมูหกแบบทรพีถึง 2 ลูกกลายเป็นจุดเปลี่ยนทำให้เรอัล มาดริด ที่ไล่กดอยู่แล้วยิงไส้ขาด 3-1 คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 13 ส่วนเยอร์เก้น คล็อปป์ ยังสร้างสถิติส่วนตัวอันสุดสยองหลังพ่ายแพ้ในรอบชิงถึง 6 จาก 7 หนตลอดชีวิตการคุมทีม
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-1-2
2.
ดานี่ การ์บาฆาล
36'
6.5
22.
อิสโก้
62'
6
9.
คาริม เบนเซม่า
89'
7.5
ตัวสำรอง
6.
นาโช่ เฟร์นานเดซ
36'
6.5
11.
แกเร็ธ เบล
62'
8
20.
มาร์โก อเซนซิโอ
89'
5.5
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2017/18 รอบชิงชนะเลิศ
สนาม โอลิมปิสกี้ สเตเดี้ยม (ยูเครน)
เสาร์ที่ 26 พฤษภาคม 2561
กรรมการ มิโลรัด มาซิช
เรอัล มาดริด
3
1
ลิเวอร์พูล
1-0 เบนเซม่า 51'
2-1 เบล 64'
3-1 เบล 83'
ราชันเต็มสูบ-ชานคัมแบ็คสำรองหงส์
เรอัล มาดริด แชมป์ 12 สมัยและแชมป์เก่า 2 ครั้งหลังสุดของโค้ช ซีดาน ไม่พลิกโผมาในชุดที่ดีที่สุดในระบบ 4-3-1-2 นำโดย โรนัลโด้ ลงทะลวงตาข่ายและเลือก อิสโก้ ยืนหน้ำต่ำปั้นเกมทำให้ เบล ต้องเป็นสำรองตามระเบียบ
ลิเวอร์พูล เจ้าของแรร์การ์ดแชมป์ยุโรป 5 สมัยหงายทีไรอีกฝ่ายเป็นต้องจ๋อยโดยกุนซือ คล็อปป์ มาในชุดเก่งเช่นกันกับระบบ 4-3-3 โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ เทพเจ้าแห่งแอนฟิลด์นำทัพและได้ เอ็มเร่ ชาน หายเจ็บกลับมานั่งสำรอง
เจอกันในรายการนี้มา 4 ครั้งแบ่งเป็น 2 ครั้งแรกปี 2009 หงส์แดง ชนะรวดแบบไม่เสียประตูและ 2 ครั้งหลังในปี 2014 ราชันชุดขาว ชนะหมดแบบเกมศูนย์เช่นกันแต่นี่คือการเจอกันอย่างเป็นทางการในสนามกลางครั้งแรก
หงส์ปูพรม
ผ่านไป 10 นาทีแรกครองบอลเท่ากันก็จริงแต่บอลแทบจะอยู่แต่ในฝั่งแชมป์เก่าโดน ลิเวอร์พูล บุกจากซ้ายไปขวาของจอกดมิดด้ามได้ผ่านบอลอันตรายเข้าไปในกรอบและได้ลองจบสกอร์ทักทาย 2-3 ครั้งแต่ยังถูกสกัดกั้นไว้ได้หมด
โด้สับเฉี่ยวคาน
เกมรุก มาดริด ใครก็ห้ามประมาทบีบแย่งบอลกลางสนามได้ไปถึง การ์บาฆาล ยกหลบ มาเน่ แล้วไหลไปทางขวาให้ โรนัลโด้ กระชากเร็วจี๋เข้ามาในกรอบจิ้มหัวเกือกยัดเสาแรกบอลพุ่งข้ามคานไปนิดเดียว
เตะมุมVVDโหนโขกข้ามคาน
แลกกันหมัดต่อหมัดเลยทีเดียว ลิเวอร์พูล ได้เตะมุมฝั่งขวา ซาล่าห์ โยนด้วยซ้ายโค้งไปในกรอบ 6 หลา ฟาน ไดจ์ค เทคตัดหน้า นาบาส โหม่งได้แต่โหนสุดตัวแล้วเลยคุมบอลไม่อยู่ลอยข้ามคานไป
TAAเต็มข้อ!นาบาสรับอยู่หมัด
โอกาสทองของ หงส์แดง มาแล้ว มิลเนอร์ ทำชิ่งกับ มาเน่ หลุดไปถึงสุดเส้นทางซ้ายเปิดหักเข้ากลางให้ ฟีร์เมียโน่ พลิกสับไกติดบล็อค รามอส เด้งมาที่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยิงซ้ำเต็มเท้าขวา นาบาส ซูเปอร์เซฟพุ่งรับได้ไม่กระฉอกเลย
ร้องไห้เลย...ซาล่าห์ไหล่พังเล่นไม่ไหวถึงเวลาเทพม้วน
ลิเวอร์พูล เกมกำลังดีๆต้องมาเสียหายหลายแสน ซาล่าห์ เจ็บตั้งแต่ 5 นาทีที่แล้วในจังหวะล้มไปกับ รามอส แล้วไหล่ซ้ายลงผิดออกไปปฐมพยาบาลและกลับมาพยายามเล่นต่อแต่สุดท้ายนั่งร้องไห้เล่นต่อไม่ไหวต้องเอา ลัลลาน่า ลงแทน
ร้องเป็นเพื่อน...การ์บาฆาลข้อเท้าพังต้องฝากนาโช่
ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ซาล่าห์ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเพื่อนเมื่อ การ์บาฆาล ซึ่งก่อนเกมมีข่าวว่าเจ็บตอนวอร์ม-อัพวิ่งไปสุดเส้นตอกส้นบอลแล้วเหมือนจะเจ็บข้อเท้าเล่นต่อไม่ไหวคุกเข่าร้องไห้ต้องออกจากสนามไปอีกคนและให้ นาโช่ ลงแทน
โด้ล้ำธงไม่ยกโขกตู้มโดนปัด!เบนซ์ซ้ำตุงคราวนี้ล้ำ
โอกาสทองของ มาดริด บ้างโดยลูกครอสจากริมเส้นฝั่งขวาโค้งมาหน้าประตู โรนัลโด้ ออกตัวล้ำหน้าแต่ธงไม่ขึ้นลอยตัวโขกล่อเป้าแต่ คาริอุส ซูเปอร์เซฟปัดไว้ได้ เบนเซม่า ปรี่เข้าซ้ำตุงตาข่ายแต่คราวนี้ธงยกซึ่งก็ล้ำจริงเหมือนกัน
หงส์เป๋!นาโช่แปเข้าหน้าต่าง
ผู้ท้าชิงนับตั้งแต่เสีย ซาล่าห์ ก็เหมือนจะเสียศูนย์ไปเลยถูกแชมป์เก่าฉวยโอกาสโจมตีวางบอลจากกลางสนามทะลุไปในกรอบด้านขวา นาโช่ เติมขึ้นมาแปโป้งเดียวบอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายให้ได้หวาดเสียว
โครสส่องเฉี่ยวเสา
ท้ายครึ่งแรก มาดริด กลายเป็นบอลได้ใจโหมบุกใหญ่เลย โครส มีช่องวางเท้าซัดไกลด้วยขวาบอลดันติดไซด์โค้งเฉี่ยวเสาแรกออกไปแต่ คาริอุส สุดหล่อพุ่งเช็คไว้เรียบร้อย
แล้วก็หมด 45 นาทีแรกยังไม่มีสกอร์ซึ่งจะว่าผลัดกันเล่นดีทีมละครึ่งทางก็ได้โดยตอนแรกเป็น หงส์แดง พับสนามบุกแต่ช่วงหลังพอ ซาล่าห์ เจ็บเป็น เรอัล บุกหนักบ้าง
รวมแล้วครึ่งแรกแชมป์เก่าครองบอล 66% แต่โอกาสน้อยกว่า 5 ต่อ 9 ครั้ง
ชนคาน!อิสโก้หวดสูงไป
เปิดฉากครึ่งหลังโมเมนตัมยังอยู่ที่ มาดริด ซึ่งบุกจากซ้ายไปขวาบ้าง มาร์เซโล่ ผ่านบอลเข้ากลาง ลัลลาน่า สไลด์ตัดบอลกลายเป็นใส่พาน อิสโก้ วอลเลย์ด้วยขวาในกรอบผ่านมือ คาริอุส ไปแล้วแต่ลอยไปชนคานอบ่างน่าเสียดาย
นอยอู๊ดแจกหมู!!!ขว้างโดนเบนซ์เข้าราชัน1-0เฉย
และแล้ว มาดริด ก็ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะไม่มีอะไรเลยวางบอลยาวล้นเข้ามือ คาริอุส แล้วแท้ๆแต่มือกาวสุดหล่อตกม้าตายขว้างบอลไม่ดูตาม้าตาเรือโดนเท้า เบนเซม่า ที่แหย่ขาขวางไว้เด้งเข้าประตูไปเฉยเลยงงเป็นไก่ตาแตกกันทั้งโลก!!!
ค็อปเฮ!!!มาเน่โฉบจิ้ม1-1
แต่ทว่าจากนั้นไม่นาน ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1 เตะมุมฝั่งขวา มิลเนอร์ หยอดบอลโด่งข้ามมาทางซ้ายของเขตโทษ ลอฟเรน เทคสูงกว่าใครโหม่งตั้งไปในกรอบ 6 หลา มาเน่ ไม่ล้ำหน้าโฉบมาแหย่ขาโดนบอลก่อน นาบาส จิ้มเข้าประตูไป!!!
นอยอู๊ดแก้ตัว!อิสโก้ยิงโดนปัดแล้วถูกถอด
มาดริด ไม่เสียขวัญค่อยๆตั้งเกมกันใหม่จนกระทั่งโอกาสมา นาโช่ เปิดจากด้านขวาเรียดไปในกรอบ อิสโก้ จับได้พลิกแล้วซัดด้วยขวายัดเสาแรก คาริอุส ซูเปอร์เซฟปัดออกไปแก้ตัวสำเร็จ ! จากนั้นไม่นาน อิสโก้ ก็ถูกเปลี่ยนตัวกับ เบล
ซูเปอร์ซับ!!!หน้าลิงตีลังกาโคตรสวยราชัน2-1
แกเร็ธ เบล ทีเด็ดจริงๆลงมาสร้างความมหัศจรรย์ช่วยให้ มาดริด ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 มาร์เซโล่ เลี้ยงตัดจากด้านซ้ายเข้าในแล้วเปิดด้วยขวาลอยมาในเขตโทษ เบล หันหลังให้ประตูกระโดดตีลังกายิงด้วยซ้ายบอลลอยแล้วฮุคลงมาตุงตาข่ายสุดสวยให้ คาริอุส เหนียวขนาดไหนก็หมดสิทธิ์เซฟ!!!
ชนเสา!มาเน่ลากสับ
หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ช็อตไปพักนึงแล้วกลับมาตั้งหลักได้บุกสู้กันต่อ มาเน่ ฉายเดี่ยวลากบอลตัดจากทางขวาเข้ากลางแล้วกดเรียดด้วยซ้ายหน้าหัวกระโหลกบอลพุ่งหนีมือ นาบาส มาได้แล้วแต่ชนโคนเสาด้านนอกอย่างน่าเสียดาย
โด้หลุดล่อเป้า!แอนดี้เสียบแม่นช่วยไว้
เกมรับของเครื่องจักรสีแดงเริ่มเปิดช่องมากขึ้นเข้าทาง มาดริด เจาะตรงกลางซะเลยบอลถึง โรนัลโด้ หลุดเดี่ยวลากไปดวลกับ คาริอุส แล้วง้างเท้าซ้ายสับไกแต่ โรเบิร์ตสัน ยอดเยี่ยมเสียบจากทางขวามือโดนบอลบล็อคข้ามคานไปได้
ไม่ยอมโว้ย!นอยอู๊ดผีบอกปัดลูกยิงเบนซ์
มาดริด โจมตีพื้นหลังแนวรับหงส์แดงสนุกเลย เบล พาบอลขึ้นมาริมเส้นฝั่งขวาดีดไซด์ก้อยด้วยซ้ายบอลโค้งไปเสาไกลสุดสวยอีกแล้วถึง เบนเซม่า ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาได้ทั้งน้ำหนักและทิศทางแต่ คาริอุส ยืนถูกผวาปัดออกมาได้
นอยอู๊ดซองแตก!!!หน้าลิงเบิ้ลยิงส่ายเข้า3-1
ราชันยุโรป สบายแล้วนำห่าง 3-1 บอลยาวจาก มาร์เซโล่ วางมาทางขวา แกเร็ธ เบล ดูดลงลากตัดเข้าในแล้วส่องไกลด้วยซ้ายระยะสัก 25 หลาบอลพุ่งแบบส่ายๆไปหา คาริอุส ใจกล้าพยายามจะรับแต่มือแตกรับหลุดลอยเข้าประตูไป!!!
โด้เซ็งแฟนป่วนอดยิง...ไม่เป็นราชันแชมป์สมัย13!!!
จากนั้นเกมเข้าทาง มาดริด สุดๆจนกระทั่งช่วงทดเจ็บได้สวนกลับ โรนัลโด้ จี้มาในกรอบด้านขวาดวลกับ ลอฟเรน กำลังแต่งเข้าขวาหาช่องยิงแต่มีแฟนบอลวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ลงสนามมาตรงนั้นพอดีทำให้ผู้ตัดสินต้องเป่าหยุดเกมเล่นเอาโด้เซ็งเลย
จบเกม เรอัล มาดริด ไร้เทียมทานชนะไป 3-1 คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 13 และ 3 ครั้งติดต่อกันในยุค ซีเนอดีน ซีดาน ส่วน ลิเวอร์พูล ยังต้องใช้การ์ดแชมป์ 5 สมัยต่อไป!!!
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
5.5
14.
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน[C]
5.5
7.
เจมส์ มิลเนอร์
83'
5.5
11.
โมฮาเหม็ด ซาล่าห์
30'
6
ตัวสำรอง
20.
อดัม ลัลลาน่า
30'
5.5
23.
เอ็มเร่ ชาน
83'
5.5
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Sun May 27, 2018 06:52, ทั้งหมด 13 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ