เงินใครเงินมัน

ตาสบายท่านๆ เลย

รับความเสี่ยงกันเอาเอง กำไรก็ยินดีด้วย

แต่จะมาแทนเงินสกุลหลัก ตามจุดประสงค์หลักแรกของมันก็ฝันไปเถอะครับ

ไม่ได้มาแทน สกุลเงินหลัก แต่ เปนเพียงสกุลเงินทางเลือก ต้นกำเนิดบิทคอยมาจาก การที่ ไม่ต้องการให้เงินตกอยุ่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลไหน ต้องการให้คน ที่ถือเงิน ถือโดยตัวเอง

และตอนนี้ เป้าหมาย ของ คนพัฒนาเหรียญนี้ ไม่ใช่เพื่อให้แทนเงินหลัก แต่พัฒนาเพื่อ ให้ใช้เงินนี้ได้ครับ

ส่วนตัวผมไม่มองค่าของมัน และไม่ลงทุนกับมัน ทั้งที่เห็นประโยชน์ของมัน

เพราะเหตุผลง่ายๆ ว่าราคามันไม่มีความเสถียรนี่แหละ

ซื้อเอาไว้เก็งกำไรได้ แต่เอาไว้ทำอย่างอื่นไม่ได้

เหมือนวันหนึ่งผมจะขายของ ตั้งราคาไว้เท่านี้ๆ BTC

แต่ถึงเวลาซื้อขายจริงๆ ราคามันอาจจะไปไกลแล้ว จนผมไม่สามารถทำนายได้ว่า ผมจะขายได้เงินเท่าไรในความเป็นจริง และ BTC เหล่านั้นผมจะเอาไปซื้ออะไรได้อีกด้วย และได้ที่ราคาเท่าไร ด้วยความไม่เสถียรของค่าเงินเองนั่นแหละ

แต่ใครอยากเล่นก็คงไม่ขัด แค่อย่าไปชวนคนอื่นเล่น อย่าบอกว่ากำไรชัวร์ ไม่มีทางขาดทุน และศึกษาด้วยตัวเองให้ดีก่อนลงทุน แค่นั้นแหละ

ขอบคุณบทความดีๆที่เอามาฝากกันครับ

อ่านจบแล้ว ได้ความรู้อีกเยอะครับ

ทุกวันนี้ผมทำธุรกรรมเงินต่างประเทศซื้อขายกับลูกค้าปีนึงตก 5-6 ล้านเหรียญ

ส่วนตัวผมคิดว่าสำหรับภาคธุรกิจแล้ว การใช้เงินพวกนี้ไม่น่าสนใจเลย

สาเหตุเพราะความผันผวนนี่แหละ เราไม่สามารถจำกัดความเสี่ยงตรงนี้ได้

แต่สำหรับภาคประชาชนทั่วไป การเก็งกำไรดูน่าจะเหมาะสมในหลายๆด้าน ขอเพียงมีวินัย รู้จักคัทลอส

คนที่อยู่ในตลาดหุ้นเป็นหลักก็จะมึมุมมองคล้ายๆ จขกท. แหละ
ผมก็คนนึง

สิ่งที่เป็นความเสี่ยงสำหรับ Btc ในมุมมองของผม

1.การหามูลค่าที่แท้จริง ไม่มีอะไรอ้างอิง นอกจาก demand
2.ความเสี่ยงการถูกแทนที่ ถ้าวันนึงโลกหันไปตอบรับสกุลเงิน digital อื่นขึ้นมา Btc จะเป็นอย่างไร
3.มันคือ digital, จับต้องไม่ได้ ถ้าวันนึงอยู่ๆ มันหายไป ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ จะตามยังไง เนื่องจากไม่มีสถาบันไหนให้การรับรอง
4.จากข้อ 3 เมื่อเกิดขึ้น มูลค่า คือ 0 ได้เลย ความเสี่ยงสูงมาก

ย้ำอีกครั้ง ว่ามุมมองของผม ซึ่งคนลงทุนในหุ้นหลายคน คงมองคล้ายกัน และออกมาเตือน ซึ่งผมเชื่อว่าส่วนใหญ่ด้วยความหวังดีทั้งนั้น ไม่อิจฉาหรอก เพราะเราจะไม่ลงทุนในสิ่งที่ไม่รู้ (อย่าง forex คนรวยกันเยอะ ผมก็ไม่อิจฉานะ เพราะมันไม่ใช่ตลาดของเรา จนกว่าเราจะศึกษามันจนเข้าใจ)

เราเห็นมาเยอะ คนที่ลงทุนด้วยความไม่รู้ ลงตามๆ กัน ลงตามกระแส หมดกันนักต่อนัก สิ่งที่ตามมามันไม่ใช่แค่ชีวิตตัวเอง แต่มันหมายถึงคนข้างหลังด้วย

แต่ก็นั่นแหละ สำหรับคนที่มีความเข้าใจในสิ่งนี้ ผมก็ดีใจกับท่านๆ ด้วย ที่มันทำรายได้ให้อย่างงาม
แต่คนที่ไม่รู้อะไรแล้วมาลงตามๆ กันไป ก็อยากให้พิจารณาความเสี่ยงไว้บ้างครับ

อะไรไม่รู้เราไม่เข้าไปยุ่งนี่แหละ เซฟสุด
อันนี้หมายถึงทุกๆเรื่องเลยนะ

ส่วนมากที่เห็นพูดกันมีแค่ price นี่แหละ

ถ้ารู้อย่างนี้ซื้อไว้ตั้งแต่ราคาถูกๆ บลาบลาบลา

คิดแบบนี้ใครก็คิดได้ ถ้ารู้อนาคตเห็นกราฟล่วงหน้า

ป่านนี้ผมเทรด forex หรือหุ้นรวยไปแล้ว

แถมไม่ต้องมารอราคาขึ้นหลายเดือนด้วย

แต่ก็ช่างเถอะ เรื่องของเขา เงินใครก็เงินมัน

มันมองได้สองมุม และก็มีคนที่เข้ามาถือเหรียญนี้สองประเภท

คือเข้ามาแบบลงทุน เก็งกำไร กับเข้ามาถือเพราะเชื่อมั่นในเทคโนโลยีและหลักการของมัน

ด้วยเพราะมีคนถือแบบแรกมันก็มีลักษณะของตลาดทุน ผันผวนตามเวลา และมีความเสี่ยงอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม สำหรับท่านนี่ผมขอบอกไว้อย่างนึง

...
..
.

ลายเซ็นต์ท่านเด็ดมาก ดูกี่ทีก็ไม่เบื่อ

ผันผวนขนาดนี้จะใช้จริงยังไงให้ปลอดภัย

สมมุติมูลค่าตอนนี้ 1 เหรียญ 50000 บาท สามารถซื้อจักรยานดีๆ 1 คัน
ตกลงซื้อขาย คนซื้อได้จักรยาน เจ้าของร้านได้เหรียญมา 1 เหรียญ
อีก 2 สัปดาห์ต่อมามูลค่าตกมาเหลือ 1 เหรียญ 25000 บาท
เท่ากับเจ้าของร้านขายไปในราคา 25000 บาทเองนะ ขาดทุนไป 25000 บาท
หรือถ้าสมมุติอีก 2 สัปดาห์ต่อมามูลค่าพุ่ง 1 เหรียญ 75000 บาท
เท่ากับเจ้าของร้านได้กำไรเพิ่ม 25000 บาท
ไม่มีใครต้องการซื้อขายจริงกับสกุลเงินที่ผันผวนสูงนะ
สกุลเงินที่ไม่มีสเถียรภาพ คนจะไม่นิยมใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้านะครับ

ยกตัวอย่างเงินกีบ ลองไปลาวช่วงสิบหรือยี่สิบปีก่อน คนลาวแทบไม่อยากใช้ นิยมเงินบาทกับดอลมากกว่า จนต้องออกนโยบายมาทำให้ค่าเงินนิ่ง ช่วงหลังถึงใช้จ่ายด้วยเงินกีบได้คล่องขึ้น

ตอบตั้งแต่ข้อสองในมุมมองผมครับ
การที่มันจะถุกแทนที่ด้วย อันอื่นเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะ ไม่ใช่ คนที่อยากถือครอง เป็นคนกำหนดอย่างเดียว ว่าอยากได้เหรียญนั้นหรือเหรียญนี้ แต่คนที่ทำหน้าที่เป็นminer ในการ ป้อนเหรียญออกมา นี้สำคัญ และต้องใช้ miner จำนวนมหาศาลมาก ในการ จะป้อนเหรียญออกมาพอต่อความต้องการ ของ เหรียญนั้นๆ ต่อให้เหรียญนั้น ถุกทำออกมาเทพแค่ไหน แต่ ไม่มี miner ที่ใช้เป้นเครื่องเซิพในการแลกเปลี่ยนธุระกรรมเลย ก็ไม่สามารถผลักเหรียญนั้นออกมาได้ และการจะให้ miner ปัจจุบันเปลี่ยนไป หาเหรียญอื่นๆเป็นไปได้ยากมาก เพราะ เครื่องที่ใช้เป็น miner มีความจำเพราะต่อัลกอริทึม สมมุตว่า ปัจจุบัน มี miner ขุด btc โดยใช้ฮารืดแวรื ทั้งหมด 1ล้านเครื่อง เค้าลงทุนค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปมหาศาลแล้ว อะไรเป้นเหตุให้เค้า ต้อง ทิ้งอุปกรหากินเก่าเค้า เพื่อไป ทำเหรียญใหม่ อาจดึงไปได้บ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดแน่นอน

ตัวอย่างที่ดีที่สุดของ กรณีนี้คือ การที่มี เหรียญ eth ออกมา
เหรียญนี้ เกิดขึ้นจาก เห็นจุดอ่อน ของ btc ในเวลานั้น แน่นอน มีคนเห็นดีเห็นงาม จำนวนหนึ่ง มาลงทุน ในการเป้น miner ในการที่จะหาเหรียญ eth ออกมา แต่ ก้ไม่สามารถนำพาหรือชักจูง miner ที่กำลัง หา btc ออกมาได้ พุดง่ายๆ การใช้จ่ายเหรียญนี้ อยุ่บนพื้นฐานของเซิพเวอรืนึง ที่คน มาสมัครใจยอมเป็นเซิพเวอร์ให้ และ เป็น อุปกรณจำนวนมหาศาล
การ ยิ่งมี จำนวน miner ที่เป็นเครื่องเซิพเวอร์ เยอะเท่าไหร่ การ ทำธุรกรรมต่างๆย่ิงเป้นไปได้เร็วมากขึ้น มันไม่ง่ายเลย ที่จำสร้างเครือข่ายนี้ ขึ้นมาใหม่ และปัจจุบัน btc เปรียบเสมือนทองคำไปแล้ว ที่ทำหน้าที่ เป็น ตัวค้ำราคาในการแลกเปลี่ยนเหรียญใหม่ๆที่เกิดขึ้นมา

สรุป หากมีเหรียญ ใหม่ๆ เกิดขึ้นมา มันจะไม่ได้มาแทนที่ แต่ มันจะเป้นการมาแล้วเกื้อกูลกัน โดยมี บิทคอยเป็น เสาหลัก ในการ เป้นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนของเหรียญใหม่


ข้อ3 มันเป้นดิจตอล จับต้องไม่ได้ อินเตอร์เน้ตทุกวันนี้ เราจับต้องได้ไหมครับ เราไม่ได้จับต้องมัน แต่เราใช้งานมัน ใช้จนเสมือนเป้นส่วนนึงของชีวิตไปแล้ว ถามว่าอินเตอรืเน็ต สามารถทำให้หายไปได้ไหม ทำให้สาบสูญไปได้ไหม ข้อนี้เอาจริงๆนะผมตอบไม่ได้ เพราะผมไม่รุ้เหตุผลว่าจะทำลายเครื่องข่ายอินเตอร์เน้ตที่มีอยุ่บนโลกนี้ยังไงได้หมด
เหรียญนี้ก้เหมือ ข้อมุลอินเตอรืเน็ต ที่เราจับต้องไม่ได้แต่ เรา ใช้งานมันได้ และการที่เราจะทำลายมัน ที่มันเป้นส่วนนึงของอินเตอรืเน็ตคือการ ทำลายเครือข่ายเน็ตทั้งหมดบนโลกนี้
แต่เท่านี้ยังไม่เพียงพอ นอกจากคุณต้องทำลายเน็ตที่มีอยุ่ทั่วโลกแล้ว คุณต้องทำลาย ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดที่อยุ่บนโลกนี้ด้วย เพราะต่อให้ไม่มีเน็ต ฮาร์ดแวร์ทั้งหลาย ที่เป็นเครื่องเซิพอยุ่ก็ยังลิ้งหากันด้วยวิธีอื่นได้เช่น สายแลน

และข้อ 4 เมื่อโอกาสเกิดแบบข้อ 3 แทบเป็นไปไม่ได้เลย ข้อ 4 นี้จึงไม่เกิดขึ้น


เพราะงั้น หากเป็นการดีเบตกัน ข้อ 3เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากครับ เพราะแม้แต่ผมเอง ก้อยากรุ้ว่า ด้วยเหตุผลอะไร ที่เครือข่ายนี้จะถุกทำลาย มันมีความเป้นไปได้มากแค่ไหน ด้วยเตุผลอะไร หากผมรุ้เหตุผล ที่มัน เป้นไปได้ และมีน้ำหนักมากพอ วันนั้น ผมจะลดระดับความน่าเชื่อถือของมันออกไป ได้ดีทีเดียว

เป็นคำตอบที่ดีมากเลย ท่านทำให้ผมรู้สึกสนใจ BTC อย่างจริงจังขึ้นมา จากที่สนใจเพียงผิวเผิน
ขอไปหาความรู้เพิ่มเติมก่อน ช่วยแนะนำหน่อยครับ ว่าควรจะรู้พื้นฐานเรื่องอะไรบ้าง
เท่าที่ผมคิดออกก็ - blockchain / cryptocurrency ที่เป็นทฤษฎีพื้นฐาน
แต่ในแง่ของ การตอบสนองของโลก หรือคุณค่า/ความสำคัญในการใช้งาน ต้องอ่านเรื่องอะไรดี

เตือนว่าอย่าไปขุดอย่าไปเทรดเลยมันเสี่ยงจะตาย นู้นนี่นั่นซึ่งไม่รู็ของมูลจริง ๆ ปัจจุบัน คนที่เตือน เค้าก็อยู๋เฉยๆ คนที่ศ฿กษาจริงๆสนใจทำจริง เค้าคืนทุนตอนนี้รอ+กำไรอย่างเดียว โอ๊ยตอนนี้ก็เตือนอยู๋ อย่าไปลงเลย วนลูป หมายถึงคนใกล้ตัวครับ

ผมคงแยกเป็นบทเรียนดังนี้

บทแรก เหตุผลที่ ทำไมเหรียญนี้ถูกสร้างมาขึ้นมา จะทำให้เรา เข้าใจว่า ถ้าเราจะครอบครอง ด้วยเหตุผลว่าอะไรที่มันมากกว่าการเก็งกำไร
อันนี้ผมขอเกริ่น คร่าวๆ เป้นบทนำ อย่างที่รุ้ ทุกวันนี้ เราฝากเงินกับธนาคาร ธนาคาร ได้เงินเรามา เค้าไม่ได้เอาไปเก็บไว้ให้มันนิ่งๆ หรือเก็บไว้เฉยๆ ธนาคารเอาเงินของเราไปทำนุ้นทำนี้ ต่อ เพื่อให้มันงอกเงย แต่ มันก็มีความผิดพลาดจากนโยบายได้ ตัวอย่างเช่น เหตุการ วิกฤตการเงิน ของสหรัฐช่วงนึง ที่ธนาคารปล่อยกู้ ให้ซื้อบ้านง่ายเกินไป จนกลายเป้นหนี้เสีย มีปัญหาอยุ่หลาย ปี หลายประเทศ รัฐบาลเป้นผู้ควบคุมหรือกำหนดนโยบาย ทางการเงิน และธนาคาร แล้วเกิดผิดพลาด จนทำให้เงิน ของคนที่ฝาก เสียหาย
เช่นกรณี ซิมบับเวย์ ที่กรีก เคยมีเหตุการณื คนฝากเงินไม่สามารถถอนเงินของตัวเองได้ เพราะ รัฐมีปัญหาด้านการเงิน ไทยเราก้เคยเกือบๆ เช่นกรณีต้มยำกุ้ง

แนวคิดของคนสร้างเหรียญนี้ เพื่อที่จะ ให้เราเป็นคนเก็บเงิน ของเราเองไว้กับตัวเอง อย่างปลอดภัย โดยที่ ไม่มี การเมืองหรือรัฐไหน เค้ามาแทรกแซง การเงินนี้
โดยใช้ เทคโนโลยี บล๊อกเชน เป้นโมเดลในการ สร้าง บิทคอยขึ้นมา

บล๊อกเชน เลยเป็น บทเรียนที่สองที่ ควร หาความรู็
สิ่งที่เราจะได้ จากการศึกษา ว่าบล็อกเชนมันคืออะไรคือ หลักการทำงาน ของมัน ซึ่งถ้ารุ้ในระดับลึกพอ ประโยคที่ว่า เหรียญนี้ จับต้องไม่ได้ แทบจะหายไปในความคิด
และจะ รุ้ว่า เพราะอะไร เทคนโนโลยีนี้ ถึงเชื่อถือได้มาก และทิศทางในอนาคต การนำเทคโนโลยีนี้ จะนำมาใช้แพร่หลาย ขนาดไหน หนึ่งในตัวของการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ คือการ เกิดสุลดิจตอลต่างๆเพิ่ม ซึ่งเป็น บทเรียนที่ 3 ละกัน

บทเรียนที่ 3 ว่าด้วย เหรียญ ดิจิตอลสกุลเงินต่าง อันนี้รวมถึงบิทคอยด้วย ต้องศึกษาตัวนี้ เป็นอันดับแรกเหมือนพื็นฐานสำคัญ ว่ามันมีหลักการยังไง ข้อจำกัดยังไง หลังจากนั้นก้ไปศึกษาเหรียญอื่นเพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่น ETH LCT XRP หรือ ioc อย่าง omg
เพราะแต่ละหรียญ สร้างมา มีลักษณะไม่เหมือนกัน การทำงานต่างกัน การรองรับต่างกัน
แต่ ทุกอย่างนี้เหมือนกันคือ อยุ่บนเทคโนโลยีบล๊อกเชน หากไปเจอเหรียญไหนมาอ้างให้ผลตอบแทนนุ้นนี้ แต่ไม่ได้อยุ่บนเทคโนโลยีนี้แปลว่า หลอกลวงแล้ว มีสิทธิ์จะเป็น แชร์ลุกโซ๋ การศึกษาคุณละสมบัติแต่ละเหรียญ จะช่วยในเรื่องการตัดสินใจ ในการ ที่จะเลือกเหรียญ ตัวไหน มีอนาคต และเรามองว่า น่าถือครอง

หลังจาก ศึกษา เหรียญทั้งหมดนี้แล้ว

คือว่าด้วยเรื่องของข่าวสาร เราต้องตามข่าวสารให้ทัน ด้านต่างๆ เช่นการเมือง ที่มีผลต่อเหรียญ เช่นญี่ปุ่นรอบรับเหรียญ ลดภาษาีคนใช้เหรียญ ธนาคารรัสเซียเข้าร่วม องกรณ์ eet ของเหรียญ eth เพื่อจะได้ ทราบแนวโน้มของเหรียญ หรือแม้แต่ข่าวร้ายของเหรียญ เช่น
การแบนเหรียญของแต่ละประเทศ

และ อันนี้ขาดไม่ได้ คือ การอัพเกรดของเหรียญต่างๆ ซึ่งเหรียญพวกนี้ มีการพัฒนาอยุ่ตลอด เราต้อง ติดตาม ข่าวเหรียญที่เราถือครองให้ดี เช่น วันที่ 25 เหรียญ btc จะทำการฮาร์ดฟร๊อก มีผลทำให้คนถือเหรียญนี้ ได้เหรียญฟรี มันมีเงื่อนไขของมันว่าทำยังไงถึงได้
ซึ่งนำมาเป็นบทเรียน สุดท้ายคือ วิธีการถือครอง


เราสามารถือครอง ได้กี่วิธี หามาได้กี่วิธี และควรเก็บไว้ที่ไหนดี
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเก็บไว้กับเว็บ เทรด ข้อดีคือ สะดวกในการซื้อขาย เปลี่ยนเป้นเงินได้เร็ว
ข้อเสียคือ หากเว็บเทรดไม่น่าเชื่อถือ อาจหายได้หรือถูกขโมยหรือแฮ๊ก และอาจไม่ได้รับเหรียญฟรี จากการฮาร์ดฟร๊อก เพราะเว็บเทรด อมไว้เอง

การเก็บด้วยกระเป๋าเงินตัวเอง คือการที่ เราสมัคร กระเป๋าฝากเงินออนไลน์ เก็บไว้กับตัว
ข้อดีคือ ปลอดภัยมาก ไม่มีใครมาขโมยหรือแฮีกเงินเราได้ แล้วถ้าเกิดเห๖ุการณืแจกเหรียญฟรี เราก็จะได้รับด้วย

เพราะงั้นคนที่ชำนาญในการถือครองแล้ว ก็ จะสามารถ ใช้จ่ายเปลี่ยนถ่าย การถือครองไปมาได้ เช่น ผมซื้อเหรียญจากเว็บเทรด เมื่อไม่มีการซื้อขาย ผมเอามาเก้บใส่กระเป๋าตัวเอง เพื่อความปลอดภัย และรับเหรียญฟรี เมื่อมีการ์ฮาร์ดฟรีอก วันดีคืนดี เว็บเทรดต่างประเทศ เหรียญราคาสุงกว่าเว้บไทย ก็สามารถโอนไปขายเหรียญนั้นที่เว้บนอกได้
นั้นคือข้อดีของการศึกษาเรื่องการจัดเก็บเหรียญนี้


เอาเท่านี้ก่อนละกัน สงสัยหรืออยากหาข้อมุลไหนเพิ่ม pm ถามผมได้ การศึกษา ให้เข้าใจ เป็นสิ่งที่ดี และอยากให้คนที่จะ ลงทุนกับมันศึกษา ให้ดี เสียก่อน

ผมก็เป็นอีกคนที่เตือนน่ะ และก็คิดแบบกะทู้นี้ล่ะที่เตือนไป แต่ที่เตือนก็คืออย่าให้ถึงขนาดต้องขายบ้าน ขายรถ กู้หนี้ยืมสิน หรือเอาเงินเก็บทั้งหมดมาลง ยิ่งถือยาวยิ่งไม่อยากให้เสี่ยง เพราะยังไงผมก็คิดว่าสุดท้ายมันหมดค่าแน่ๆ แต่ถ้าเงินเย็น พร้อมจะเสียตรงนี้ได้ก็ลงไป เพราะที่ชัดๆมันก็คือรายได้ดีและ ณ ตอนนี้ก็ได้จริง

ผมทำงานผ่านเน็ตเป็นอาชีพหลักมา 10 ปีได้ล่ะ รู้จักตัวนี้ตั้งแต่มันยังไม่มีค่าเลย พวกเว็บคลิกที่ผมทำอยู่พยายามจะจ่ายให้แทนเงินดอลซะด้วยซ้ำ รู้จัดตั้งแต่ 1 btc มีค่าไม่ถึง 1 ดอลอ่ะ แต่ตอนนั้นเว็บไหนจ่ายผ่าน btc ก็คือไม่เอาหมด เอาแต่เงินดอล ซึ่งจริงๆถ้าเอาก็มีเป็น 1000 btc มาขายตอนนี้คงรวยน่าดู อันนี้ถามว่าเสียดายไหมก็เสียดายอ่ะน่ะ แต่ก็ยืนยันความคิดเดิมว่ายังไงก็ไม่เล่นตลาดนี้ โดยส่วนตัวผมมั่นใจ forex มากกว่าตัวนี้อีก