ทำไมเอฟเวอร์ตันอยู่ดีๆ ถึงกลายเป็น #ทีมกุรวย โดย ไก่ป่า
ทำไมเอฟฯ ถึงรวย ??
เอฟจะเป็น QPR2 รึเปล่า ??
บิล เคนไรท์ ประธานเอฟจอมเค็ม ถึงขายทีมให้โมชิรี่ ??
เจ้าของใหม่เอฟฯ เป็นใครมาจากไหน เกี่ยวอะไรกับอาร์เซนอล ??
อ่านบทความนี้ของไก่ป่า แล้วคุณจะได้คำตอบทั้งหมด และจะเข้าใจว่า เอฟฯ รวยแบบมี Tradition ต่างจาก QPR อย่างไร
____________________
ทั้งเสียงปรบมือและเป่าปากดังสนั่นฮอลล์... คงเป็นโมเมนต์ที่ค้างติดอารมณ์ถึงทุกวันนี้ต่อการขึ้นเวทีให้คำมั่นสัญญาจากบิลล์ เคนไรท์ ประธานสโมสรเอฟเวอร์ตันต่อสาวกพันธุ์แท้ของตัวเองในค่ำคืนงานเลี้ยงพิธีแจกรางวัลประจำปีเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผมเองโชคดีได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในแขก
"ผมขอประกาศตรงนี้เลยว่าพวกเราได้ผู้เข้าถือหุ้นที่วิเศษมากๆ (ฟาร์ฮัด โมชิริ) เรากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง สำหรับตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้ หากมิสเตอร์คูมันกับสตีฟ วอลช์เห็นชอบตรงกันอยากได้ใคร เราจะไปเอามาให้ได้โดยนักเตะผู้นั้นจะต้องมีคาแรกเตอร์ที่เข้ากับเอฟเวอร์ตัน ฟุตบอล คลับให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก"
ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จัก ฟาร์ฮัด โมชิริ ซึ่งเข้าใจว่ายังมีบางคนสงสัยว่าเป็นใคร มาจากไหน ทำไมจู่ๆสโมสรที่เคยใช้จ่ายมัธยัสถ์ถึงกลายมารวยอู้ฟู่เพียงเพราะถูกโอบอุ้มใต้ร่มเงาของคนๆนี้
ชายอายุ 62 เชื้อสายอิหร่าน เติบโตที่ประเทศอังกฤษ ศึกษาจบจากมหาวิทยาลัยดังของลอนดอนซึ่งด้วยความชื่นชอบในกีฬาลูกหนังอยู่แล้วจึงมักซื้อตั๋วเข้าไปชมเกมตามสนามต่างๆหากด้วยความเก่งกาจทางการเงินจึงทำให้ได้รับการโปรโมตรวดเร็วจนในที่สุดก็ได้รู้จักกับอลิเชอร์ อุสมานอฟผู้ถือหุ้นของอาร์เซนอลอันเป็นจุดเริ่มต้นของการกระโจนเข้าสู่พรีเมียร์ลีก
ทางอุสมานอฟเองพยายามผลักดันให้โมชิริเข้ามามีบทบาทในทีมปืนใหญ่โดยเฉพาะการเกลี้ยกล่อมให้ลงทุนหากเจ้าตัวปฎิเสธไปเนื่องจากต้องการทีมอย่างเอฟเวอร์ตันซึ่งที่ผ่านมาปกครองกันแบบครอบครัว มีจารีตเก่าแก่จนถึงมีโอกาสพัฒนาเติบโตไปได้ไกล
ทศวรรษที่ผ่านมาเอฟเวอร์โตเนี่ยนต่างเรียกร้องให้เคนไรท์ "ขายหุ้น" ออกไปเพราะพวกเขาต้องการเจ้าของที่มีตังค์มาลงทุนทว่าก็รอแล้วรออีกจนมาได้โมชิริคนที่มาเปิดตัวด้วยประโยคที่ว่า "ทีมอย่างเอฟเวอร์ตันไม่ใช่จะมามัวแต่รำลึกถึงอดีต เราไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ เราจะต้องไปไขว่คว้าหาความสำเร็จ มันต้องเริ่มกันได้แล้ว"
ครับ...เริ่มจากการเคลียร์หนี้ที่ค้างสะสมจนเกือบเกลี้ยง จากนั้นก็ปรับปรุงกูดิสัน พาร์คทั้งภายนอกและในให้ทันสมัยมากขึ้น ต่อมาก็เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกซ้อมจนยอดเยี่ยมที่สุดติด 1 ใน 5 ของลีก ต่อมาก็เปิดคอร์สอบรมให้ทีมการตลาดรู้จักคิดให้กว้างกว่าเดิม เหตุผลที่ "ช้าง" ไม่ต่อสัญญาก็มีส่วนจากตรงนี้เนื่องจากโมชิริต้องการค่าลิขสิทธิบนผืนหน้าอกชุดแข่งที่มากกว่าเก่า
เหนืออื่นใดเพราะเขานี่แหละที่ผลักดันจนโครงการเนรมิตสังเวียนใหม่เข้าใกล้ความจริง สามารถโน้มน้าวให้สภาเมืองเชื่อว่ามีทุนเพียงพอจนในที่สุดก็สามารถซื้อที่ดินแถว "Bramley-Moore Dock" ติดกับแม่น้ำเมอร์ซี่ย์สำเร็จ
โมชิริอาจไม่ใช่ "ทอฟฟี่บลูส์" โดยสายเลือด เขาก็ไม่ได้เข้ากูดิสัน พาร์คทุกเกมเหมือนเคนไรท์หากนี่คือ "สมองคอมพิวเตอร์" ที่ช่วยคิดพร้อมทำหน้าที่เป็น "ธนาคาร" คอยเซ็นเช็กไปในตัว
แค่ต้นเดือนกรกฎาคมคว้ามาแล้ว 5 ราย...
จอร์แดน พิคฟอร์ด (30 ล้านปอนด์)
ดาวี่ คลาสเซ่น (23.6 ล้านปอนด์)
อองรี ออนเยโครู (7 ล้านปอนด์)
ซานโดร รามิเรซ (5.2 ล้านปอนด์)
ไมเคิ่ล คีน (30 ล้านปอนด์)
อะไรแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นแน่นอนกับสโมสรสีน้ำเงินข้างสวนสแตนลี่ย์ พาร์ค นอกจากนั้นนับถึงตรงนี้พวกเขายังนำจ่าฝูงในเรื่องการซื้อนักเตะมามากที่สุดทั้งปริมาณและจำนวนเงิน แซงหน้าแมนฯซิตี้ไปเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันตัวใหม่ทั้งหมดยังมีอายุระหว่าง 21-25 ปีซึ่งก็ชัดเจนถึงโปรเจกต์ที่คูมันกำลังพยายามสร้าง
ย้อนกลับไปยุคเดวิด มอยส์ซึ่งถือว่าสามารถทำงานได้ดีที่สุดเท่าที่ปัจจัยรอบด้านเอื้อโดยส่วนใหญ่มักเซ็นนักเตะฟรีกับราคาถูกรวมถึงทำให้แฟนบอลลุ้นใจหายใจคว่ำเสมอช่วงใกล้วันเดดไลน์ปิดตลาด ส่วนตอนโรแบร์โต้ มาร์ติเนซอาจจะ "มือเติบ" มากขึ้นแต่ก็สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าว่าผู้เล่นอย่าง อารูน่า โกเน่, ทอม คเลฟเวอร์ลี่ย์, อารอน เลนน่อน จนถึง ไอเดน แม็คเกียดี้ ก็มีฝีเท้าที่จำกัดแค่ระดับหนึ่ง
สำคัญที่สุดนอกจากมีเงินใช้ พวกเขาก็ยังรักษาความเป็นสโมสรที่เต็มด้วยจารีตเอาไว้เหมือนเดิม ไม่ได้รวยจนลืมกำพืด หลงลืมตัวเอง
คราวนี้ก็แค่อยากเอาไม้ขนไก่มาปัดฝุ่นพิพิธภัณฑ์พร้อมไล่ล่าหาโทรฟี่มาประดับเพิ่มด้วยความมั่นใจที่สูงลิบแบบไม่เคยเขย่าอกข้างซ้ายเท่านี้มาก่อน
#ไก่ป่า
ที่มา :
http://m.siamsport.co.th/column/detail/34790
แก้ไขล่าสุดโดย everton thailand fanclub เมื่อ Wed Jul 05, 2017 19:34, ทั้งหมด 6 ครั้ง