จารย์ แก่ป่านนี้ละจารย์ ใช้ชีวิตบั้นปลายดีๆ อย่าให้เด็กมันด่ามันถอนหงอกเลย หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ ยิงมาแต่ประเด็นไม่มีเหตุผลรองรับซักอย่าง พอถามก็บ่ายเบี่ยง

นอนอยู่บ้านไปเถอะ ไม่มีใครว่า

เพิ่งเห็นที่แกเม้นในเพจ สมาคม

นักกีฬาฟุตบอลก้ามปูทำอะไรได้บ้างในโลกใบนี้ ... โหคุณปู่ไปอยู่ไหนมา โรนัลโด้ , นานี่ , ฮัลค์ , เซดอฟ พวกนี้ไม่กล้ามปูเหรอ ตลกชมัดๆ

หรือจะนักเตะคนอื่นๆเห็นตัวเล็กๆ แต่ถอดเสื้อออกมาก็กล้ามทั้งนั้น

ลบโพสเฉยเลย 5555

เพจ จารย์บินไปละ

ลง drama addict ปั้บ ลบโพสต์ปุ้บ!!!

เราแรงปะทะสู้เขาได้ไหมล่ะ ผมเองฝึกชกมวยมาก่อน พอมาเตะฟุตบอลเบียดกับตัวใหญ่ๆได้ง่ายขึ้น เล่นเวทขนาดนี้ไม่ทำให้กล้ามขึ้นแบบนักเพาะกายหรอกน่ะ

2วันก่อนเตะยิ่งควรทำเลย เพราะดีกว่าไปเสี่ยงเจ็บในการลงซ้อมลองทีม แค่เน้นแทคติกก็พอ

เขาไม่ได้เน้นที่จำนวนน้ำหนักน่ะ ก็เลยงงว่าคุณเมิงไปเอาตำราจากไหนมา

ประเทศไทยแม่งไม่ไปไหนสักทีเพราะพวกแก่ๆแบบนี้แหละ

"นักฟุตบอลกล้ามปูทำอะไรได้มั้งในโลกใบนี้"

คนมีอายุหลายๆคนก็คิดแบบแกแหละ สุดท้ายอีโก้ ไม่ขอโทษ

ขอบคุณ ส่งเดชไปยังงั้นแหละ


คิดว่าตัวเองเจ๋ง ทั้งๆที่โลกไปไหนต่อไหนกันละ

ตอบในฐานะ S&C มันไม่แปลกครับ ที่จะเห็นแบบนี้ เพราะนัดนี้เป็นการอุ่นเครื่องตาม FIFA DAY ซึ่งทุกอย่างเขาทำตามที่วางไว้ ตอนอยู่สโมสรทุกคนเล่นประจำอยู่แล้ว มาเก็บตัวทีมชาติก็ต้องเล่น แต่ความถี่และการ Loading มันน้อยลงมาก และเป็นการฝึกซ้อมที่ต้องรักษาไว้ พวก โค้ช S&C เขามีโปรแกรมของเขาอยู่แล้วครับ เมืองนอกให้ความสำคัญเรื่อง โค้ช S%C หรือ Fitness มาก และ ผจก. จะไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้เลย ปล่อยให้เป็นไปตามโปรแกรมที่วางไว้ เพราะความรู้แต่ละโค้ชไม่เหมือนกัน โค้ชฟุตบอล ก็เรียนปรัชญา และ เทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับฟุตบอล ส่วนโค้ช S%C หรือ Fitness เกี่ยวกับสรรถภาพ ความแข็งแรงของนักเตะ ฯลฯ ทำไมถึงต้องมีทีมงานโค้ช ต้องกลับไปถามพี่เขา

ความจริงแล้วพี่แกไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับ เรื่องพวกนี้เลย ทำไมไม่หาข้อมูลก่อนฟ่ะ ตอนนี้ก็กลายเป็นฟายเลย

weight training ผมว่าสำคัญนะ

การรักษาสภาพร่างกายใน 100 % มันสำคัญโคตร

อย่างน้อยต้องวิ่งทุกวัน ยืดกล้ามเนื้ออยู่แล้วนิ

อะไรคือพักสองวันก่อนแข่ง ที่ว่าพัก คาร์ดิโอน่าจะหมายถึงไม่ทำ max heart rate ให้ถึงกำหนดเป็นระยะเวลานานๆหรือเปล่า ส่วนเวทก็ไม่ให้เกิด isometric ของ RM ในลักษณะที่หักโหมหรือถึงจำนวนเซ็ตปกติจนเกินไป

แยกมาที่เวท ผมว่าสองวันก่อนแข่ง เล่นสักหนัก 30-50% จำนวน rep 30-50% ยังได้เลย ถ้าไม่แข่ง 3 วันต่อสัปดาห์ติดกันสักอาทิตย์กว่าแบบบ๊อกซิ่งเดย์อะไรแบบนี้นะ

ก่อนแข่งเวลานักเตะพรีเมียร์โดดไปโดดมาก่อนลงสนาม มันก็เหมือนปั๊มเลือดและกระตุ้นให้กล้ามเนื้อตื่นตัวแหละ นั่นก็ใช้ body weight

สรุปเวทได้ 1-2 วันก่อนแข่ง คหสต นะ แต่ถามว่าจะเวทไปทำไมมากกว่าในเมื่อตารางเวทก็คงมี สำหรับนักกีฬาอาชีพก็คงจะหนักอยู่และให้พัก 1 วันก่อนแข่งตามปกติอยู่แล้ว 1-2 วันก่อนแข่งคงเป็นซ้อมยิง ซ้อมลิงชิงบอล ว่ายน้ำ ยืดกล้ามเนื้อ อะไรแบบนั้น

แต่ถ้าไปเข้าค่ายเก็บตัว ผมว่าโค๊ชเค้าคงอยากเห็น"กึ๋น 50%"ของนักกีฬาเวลามีเทคนิคเล่นมากกว่า บางคนคิดว่ากะอีแค่เวท จริงแล้วกีฬาทุกประเภทมันเหมือนหยอดกระปุก เทคนิคต่างๆทั้งที่คนสอนมาทั้งประสบการณ์ตัวเองมันสะสมไปเรื่อย

ส่วนพวกที่อยากโชว์จนเล่นหนักเกินไป ผมว่าระดับนี้มันจะมีเร้อ ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก

ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเวท นี่ไม่ใช่ยุค 60s นะครับโบราณจัง ต่อให้ฟานบาสเท่นมาเล่นยุคนี้ยังต้องเวทให้ตัวหนากว่าเก่าแน่ๆ หรือถ้าบอกไทยไม่ต้องเวทให้ใช้ความเร็วเอา ก็ได้แชมป์แต่ในอาเซียนนี่แหละ

ไม่แปลกใจทำไมบอลบ้านเราไม่พัฒนาสักที ผู้ใหญ่ดันชอบอวดฉลาดแบบไม่ดูเลยว่าโลกเขาพัฒนาไปถึงไหนแล้ว อย่างมุ้ยตอนไปอยู่สเปนก็โดนสั่งให้เพิ่มเรื่องพวกนี้ สรุปที่ผ่านมาที่ฟุตบอลบ้านเราความฟิตดูสู้ชาติอื่นไม่ได้ไม่ใช่เพราะวิทยาการเราช้ากว่าแต่เป็นเพราะบุคลากรเราไม่มีคุณภาพนี่เอง

เวทเทรนนิ่งจำเป็นมากครับ
แต่ไม่ใช่เพิ่งมาสร้างกล้ามกันปี2ปีนี้
จริงๆมันต้องพอมีมาตั้งแต่เด็กๆเลย แบบที่โค๊ชเฮงบอกบ่อยๆ
แบบในประเด็นนี้ยังไงก็ต้องวอร์มต้องยกเหล็กบ้าง คงไม่หนักเกินไปหรอก
นักบอลยกกันสบายๆ

ไม่เล่นเวท หุ่นกระหร่องกระแหร่ง คุณพริ้วแค่ไหน เจอพวกมีกล้ามเนื้อ ที่แกร่งกว่า แล้วมวลกายไม่ได้หนีกัน ก็ปลิวเป็นนุ่น

กูขรุม .... หัวโบราณเกิน
ถามว่า เซดอร์ฟเงี่ย โด้เงี่ย กล้ามขาที่มีกันหน่ะ เกิดจากการเตะบอลอย่างเดียว ??
คุณฝึกเตะบอลทุกวันมันแรงขึ้นแน่ๆ
แต่ถ้ากล้ามเนื้อได้พัฒนาไปพร้อมกับที่คุณฝึก ทุกอย่างมันจะ Perfect