Zeljko Buvac
ตำแหน่ง : ผู้ช่วยผู้จัดการทีม
Buvac เข้ามาร่วมทีมงานของ Liverpool พร้อมกับ Klopp และ Peter Krawietz เขาเป็นเพื่อนสนิทกับ Klopp ตั้งแต่สมัยเล่นด้วยกันที่ Mainz ช่วงปี 90, เขาและ Klopp ต่างต้องการเป็นผู้จัดการทีมทั้งคู่เมื่อเลิกเล่น ทั้งสองคนจึงสัญญากันว่าใครได้เป็นผู้จัดการทีมก่อน อีกคนต้องมาเป็นผู้ช่วยผจก.ให้กัน Buvac แขวนสตั๊ดตอนอายุ 36 และเริ่มทำงานโค้ชกับทีม SC Neukirchen ก่อนย้ายมาทำงานที่ Mainz 05 เพื่อเป็นผู้ช่วยให้กับเพื่อนรักของเขา ในปี 2001 Klopp พา Mainz เลื่อนชั้นสู่ Bundesliga และได้ไปเล่นถ้วยยุโรปเป็นครั้งแรก ในปี 2008 ก่อนที่ Klopp จะย้ายไปคุมทีม Dortmund และก็ไม่ลืมพา Buvac ไปด้วย Klopp บอกว่า Buvac เป็นคนที่ฉลาดมากๆ จึงตั้งฉายาให้ว่า เซเวอรัส สเนป เอ้ยไม่ใช่ ฉายาคือ " The Brain" ส่วนตัวเขาเองเป็น "The Heart" และ Pepijn Lijnders หนึ่งในทีมโค้ชก็ตั้งฉายาให้ Buvac ว่า Coaching Computer


Peter Krawietz
ตำแหน่ง : ผู้ช่วยผู้จัดการทีม
เขามาทำงานที่ Liverpool พร้อม Klopp และ Buvac พวกเขาทำงานด้วยกันตั้งแต่ที่ Mainz โดยตอนนั้น Peter เป็นหัวหน้าฝ่ายแมวมอง ทั้งสามจึงต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด Peter ตาม Klopp มาทำงานที่ Dortmund โดยเปลี่ยนตำแหน่งจากแมวมองเป็นผู้วิเคราะห์การเล่นจากวิดีโอ “งานของผมคือ ในช่วงกลางสัปดาห์ เราจะใช้วิดีโอเพื่อวิเคราะห์คู่แข่งนัดถัดไปเพื่อหาจุดแข็งและจุดอ่อน เราต้องดูว่าเราจะป้องกันแบบไหนรวมถึงบุกแบบไหน” Peter ไม่เคยเล่นฟุตบอลอาชีพมาก่อนแต่เค้ามีความชำนาญด้านการวิเคราะห์ผู้เล่นจน Klopp ให้ฉายาว่า "The Eye" ในทีม Liverpool เขามาเป็นผู้ช่วยผจก.เต็มตัว เพราะสโมสรมีแผนกที่ทำงานด้านวิเคราะห์โดยวิดีโออยู่แล้ว Klopp เคยพูดถึง Peter ว่า “เขาเหมือนมองเห็นได้ทุกอย่าง มีเขาอยู่ผมเหมือนมีลูกตาสิบดวงเลยล่ะ”


John Achterberg
ตำแหน่ง : โค้ชผู้รักษาประตูทีมชุดใหญ่
John มาทำงานกับ Liverpool ตั้งแต่ปี 2009 โดยย้ายมาจากทีมเพื่อนบ้านอย่าง Tranmere Rovers โดยเริ่มจากการมาเป็นโค้ชผู้รักษาประตูของทีม Academy และทีมสำรอง ก่อนที่จะได้เลื่อนมาโค้ชทีมชุดใหญ่ในปี 2011 John ทำงานร่วมกับผู้จัดการทีมถึง 5 คนตั้งแต่ Benitez ,Hodgson, Dalglish, Rodgers และจนถึงยุคของ Klopp สมัยเป็นนักเตะเขาเคยลงเล่นให้ Tranmere Rovers ถึง 351 นัดช่วงปี 1998-2009 แต่ความสามารถด้านการโค้ชของเค้ายังเป็นที่สงสัย เพราะ Liverpool ไม่มีผู้รักษาประตูที่ไว้ใจได้มานาน แฟนๆหลายคนจึงสงสัยว่ามันเพราะตัวผู้เล่นหรือโค้ชกันแน่ ที่มีปัญหา แต่ Klopp ก็ยังไว้ใจเขาอย่างมาก เขาเคยบอกว่า "John คือคนที่ทำงานหนักที่สุดที่ผมเคยรู้จัก เขาเหมือนทำงานวันละ 25ชมเลย."


Pepijn Lijnders
ตำแหน่ง : โค้ชด้านการพัฒนาผู้เล่นทีมชุดใหญ่
Pepijn ขึ้นมาทำงานกับทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2014 ในยุคของ Rodgers หลังจากทำงาน1ฤดูกาลกับทีม Academy โดยขึ้นมาแทนโค้ชคนเก่าอย่าง Mike Marsh เขาได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากด้านการพัฒนานักเตะดาวรุ่ง โดยเขาเคยทำงานในทีมที่ขึ้นชื่อด้านการปั้นดาวรุ่งอย่าง PSV ถึง 5 ปีและกับ Porto อีก 7 ปี และเคยทำงานร่วมกับโค้ชเก่งๆหลายคนเช่น Guus Hiddink, Ronald Koeman ที่ PSV และAndre Villas-Boas กับ Vitor Pereira ที่ Porto โดยเขามีความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับทีมสตาฟและนักเตะของ Porto แต่ Liverpool ก็เป็นทีมที่เขายอมออกมาเผชิญความท้าทายครั้งใหม่ โดยเขามีความชำนาญในการโค้ชด้านการบุกโดยเฉพาะ เขาเคยให้สัมภาษน์ว่า "Liverpool ต้องการนักเตะที่สามารถเปิดเกม เร่งความเร็วในการบุก พวกเราทำงานกันทุกๆวัน ทั้งส่วนตัวนักเตะและทั้งทีมโดยรวม เพื่อเกมรุกที่มีประสิทธิภาพ ความคิดสร้างสรรค์และความน่าดึงดูด ในเกมฟุตบอลเราใช้หัวในการเล่น 20% ใช้เท้าอีก20% และใช้หัวใจ 60%" เจมี่ คาร์ราเกอร์คืออีกคนที่ยกย่องเขาเป็นอย่างมาก และชมเขาว่า " Pepijn เป็นคนที่ผมสะดุดตาตอนที่ได้เห็นเขาทำงานในอคาเดมี ผมพูดถึงเขาบ่อยๆ ผมไม่มีความสงสัยเลยว่าเขานี่แหละคือสุดยอดโค้ช"


Andreas Kornmayer
ตำแหน่ง : หัวหน้าโค้ชฟิตเนสและสภาพร่างกาย
Andreas มาร่วมทีมงานของ klopp ในปี 2016 หลักจากใช้เวลา 15 ปีที่ Bayern Munich เขาทำงานกับสุดยอดโค้ชและนักเตะที่นั่นทั้ง van Gaal, Jupp Heynckes และ Pep Guardiola เขาเริ่มงานใน Academy ก่อนที่ van Gaal จะเลื่อนให้เขามาทำงานกับชุดใหญ่เมื่อปี 2010 โทมัส มุลเล่อร์ เคยบอกว่า “ อันเดรสเปลี่ยนผมจากหอยทากเชื่องช้าเป็นหอยทากที่เร็วจี๋” คลอปป์เป็นคนติดต่อเสนอให้เขามาร่วมงานด้วยกันที่ Liverpool เขาให้สัมภาษว่า "Liverpool คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ เมื่อผมมาถึงที่นี่ครั้งแรกผมรู้สึกได้ถึงประวัติศาสตร์ของสโมสร นั่นคิอเหตุผลแรกของผม อีกเหตุผลหนึ่งคือผมต้องการข้อมูลและความรู้สึกใหม่ๆ ในประเทศใหม่ๆ และพรีเมียลีคก็เป็นหนึ่งในลีคที่แข็งแกร่งและดีที่สุดในโลก เมื่อเจอร์เก้นชวนผมมาทำงานที่นี่ ผมบอกกับตัวเองว่า เอาวะ, แผนการต่างๆทำให้ผมตื่นเต้น ไม่ใช่เฉพาะแผนของเจอร์เก้น แต่คือแผนของสโมสรด้วย นี่คือโปรเจ็คระยะยาวที่จะพัฒนาหลายๆสิ่งในสโมสรแห่งนี้ มันทำให้ผมมีความสนใจมากๆ ผมพยายามจะทำให้ทุกอย่างเรียบร้อยและลื่นไหลที่สุด เพื่อทุกคนจะได้รู้แน่ชัดว่าพวกเขาควรทำอะไร ในสโมสรนี้เรามีหลายแผนกที่ต้องทำงานเชื่อมต่อกัน เพื่อดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากทีม”
Klopp พูดถึงเขาว่า “เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์ที่เคยทำงานร่วมกับอาจารย์ที่ดีที่สุด และนักเตะที่ดีที่สุดมาแล้วมากมาย การศึกษา และประสบการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในอาชีพนี้ เขาผสมผสานทั้งสองอย่างออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเขาเข้ามาร่วมกับทีมของเราอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด” ในเวป Liverpool Index แฟนหงส์หลายๆคนยกให้ Kornmayer และ Mona Nemmer เป็นการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดแห่งปีของทีมเลยทีเดียว


Andrew Massey
ตำแหน่ง : หัวหน้าฝ่ายแพทย์
Andrew มารับตำแหน่งในทีมชุดใหญ่เพื่อมาแทนหมอแขก Dr. Zaf Iqbal ที่แฟนหงส์คุ้นหน้ากันดี (ย้ายไปอยู่กับ Crystal Palace) เขาเคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่เล่นในลีคไอร์แลนด์ แต่เพราะอาการบาดเจ็บทำให้เขาต้องเลิกเล่นตั้งแต่ยังหนุ่ม เขาเข้าศึกษาด้านกายภาพบำบัดและจบการศึกษาปริญญาโทที่ Victorian Institute of Sport และเริ่มศึกษาต่อด้านการแพทย์ในปี 2002 พร้อมทั้งทำงานในทีม Belfast Giants ice hockey ในตำแหน่งนักกายภาพบำบัด ควบคู่ไปด้วย Andrew จบการศึกษาแพทย์ในปี 2007 จากมหาวิทยาลัย Queen และเลื่อนตำแหน่งเป็นหมอประจำทีม Belfast Giants ice hockey ในปี 2009 เขากลับมาทำงานในวงการฟุตบอลอีกครั้ง โดยรับตำแหน่ง หมอประจำทีมชาติไอร์แลนด์ และย้ายมาทำงานกับ Liverpool ในทีม Academy ในปี 2013ก่อนได้เลื่อนขึ้นมาทำงานกับทีมชุดใหญ่อีก 1 ปีต่อมา และปัจจุบันได้เป็นหัวหน้าทีมแพทย์ให้กับสโมสร


Mona Nemmer
ตำแหน่ง : หัวหน้าฝ่านโภชนาการ
Mona มาอยู่กับ Liverpool ในปี 2016 หลังจากทำงาน3ปีในทีม Bayern Munich โดยก่อนหน้านั้นเธอเคยทำงานกับทีมชาติเยอรมันชุด U21 มาถึง 4 ปี หลายคนพูดว่าที่นักเตะ Liverpool วิ่งเป็นม้าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะอาหารของเธอด้วย งานหลักของเธอคือ การจัดการด้านอาหารและพ่อครัวทั้งหมดในสโมสร เมนูในวันซ้อม เมนูในวันแข่ง รวมถึงเมนูที่จะให้นักเตะกินบนรถบัส และเวลาที่นักเตะควรจะทาน อีกงานหนึ่งเธอคือ ผู้ให้คำปรึกษาส่วนตัวของนักเตะ (เรื่องอาหารนะ อิอิ) รวมถึงสอนการทำอาหารให้นักเตะหรือภรรยาของพวกเขา เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้กินอาหารที่ถูกต้องและคุณภาพดีที่สุด เธอบอกว่า “เดี๊ยนคิดว่าฟุตบอลคือกีฬาที่ยาก เพราะต้องใช้ทั้งความทนทานและความแข็งแกร่ง เดี๊ยนเลยต้องอัพเดตความรู้เสมอๆ และต้องติดต่อกับมหาวิทยาลัยตลอดเพื่อให้ได้ข้อมูลที่อัพเดตที่สุด” เธอบอกว่า Liverpool คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ เมื่อมาถึงที่นี่ครั้งแรก เธอรู้สึกหลงรักในเมืองและผู้คน “ผู้คนในเมืองน่ารักและเป็นมิตรมาก เหมือนมีบรรยากาศพิเศษทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้านเลยล่ะค่ะ”


Andy Renshaw
ตำแหน่ง : หัวหน้าทีมกายภาพบำบัด
Andy เรี่มต้นอาชีพของเขาด้วยการเรียนจบด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ Sheffield และเริ่มทำงานที่สโมสร Salford เขาใช้เวลาทำงานทั้งทีมฟุตบอลและทีมรักบี้ควบคู่กัน ก่อนจะย้ายมาทำงานเป็นนักกายภาพบำบัดให้กับทีม Bolton Wanderers ในปี 2002 และย้ายมาที่แอนฟิลด์ในปี 2009 และได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีมกายภาพบำบัดของทีมเมื่อปี 2016 Andy ยังจบปริญญาเพิ่มอีกสามใบระหว่างทำงาน ในด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย, ด้านกายภาพบำบัดและกายภาพบำบัดเกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อ หน้าที่สำคัญอีกอย่างของเขาคือ จัดการและประสานงานระหว่างทีมชุดใหญ่และทีม Academy ในส่วนของนักกายภาพและพนักงานนวดคลายกล้ามเนื้อ (ถ้าคนเล่น FM น่าจะเคยเห็นค่าพลังในเกมของเค้าสูงมาก)


ข้อมูลต่างๆผมแปลและเรียบเรียงจากเวปทางการและ Wikipedia ติชมได้นะครับ
บทความเก่าที่เขียนไว้นานมากแล้ว เผื่อเอามาอ่านกันอีกรอบ
รวมดาว (เกือบ) รุ่งของหงส์แดง http://www.soccersuck.com/boards/topic/982296

โปรเจคหน้า รวมดาว (เกือบ) รุ่งของหงส์แดง ภาค 2

John Achterberg
ตำแหน่ง : โค้ชผู้รักษาประตูทีมชุดใหญ่
John มาทำงานกับ Liverpool ตั้งแต่ปี 2009

ตั้งแต่นั้นประตูก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแม้แต่เรน่าเอง

ไอfm มันเล่นยังไงหว่า ขอความกรุณาผู้เห้นแจ้งด้วย แล้วมันคือเกมส์FIFAไหม งงวุ้ยย

ถ้าฟีฟ่ามันจะมีโหมดเล่นเอง โหมดผู้จัดการทีม บลาๆ ซึ่งเยอะมาก ในส่วนของโหมดผู้จัดการทีมไม่เคยเล่น ขอข้าม

ส่วนเอฟเอมคือเราเป็นผู้จัดการทีมเลย ลงไปบังคับการเล่นไม่ได้ ได้แต่วางแผนการเล่น วางแผนการซ้อม
คุยกับนักเตะ คุยกับผู้จัดการทีมอื่น จะชมจะด่าได้หมด
ซื้อขายนักเตะ(มีบอกชอบพวกนักเตะด้วย เพื่อดึงดูดให้มันอยากย้ายทีม แต่ก้ไม่ได้เสมอไป) ต่อสัญญานักเตะ
สัมภาษณ์นักข่าวก่อน-หลังเกม(อันนี้ไล่ผู้ช่วยไปสัมภาษณ์ตลอด)
คุยกับบอร์ดเรื่องการปรับปรุงสนาม ของบเพิ่มอะไรก็ได้
ถ้ารู้สึกสตาฟในทีมไม่ดี ก็สามารถปลดหรือเซ็นของทีมอื่นเข้าได้ สตาฟค่าพลังดีๆ ก้ทำให้นักเตะเรามีพัฒนาการที่ดี เจ็บยาก หายเร็ว
และอีกเยอะแยะ

ที่สำคัญคุณจะรู้จักนักเตะอีกเยอะมากโดยเฉพาะพวกดาวรุ่ง เช่น เมสซี่เมื่อก่อนก็เป็นเด็กเทพเอฟเอม เนย์มาร์ก็ใช่ และอีกเยอะแยะ

ส่วนการเล่นรายละเอียดเยอะ ต้องลองไปเล่นเอง เดี๋ยวก้เป็น

สรุปคนละเกมส์ใช่ไหม เสียตังค์โหลดอีกละใช่ไหมFmนี้

Pepijn Lijnders ผมหวังว่าเค้าจะเป็นผจก.ทีมที่สุดยอดของลิเวอร์ในอนาคตนะถ้าวัดตามคำยกยอ

กดซื้อของแท้เลยครับใน steam