ถ้ามูทำได้ดีเรื่องจิตวิทยา ช่วยกระตุ้นทีมตัวเองก่อนดีกว่าไหม

บางอันคนก็มโนไปเองนั่นแหละ

ผมว่ามันจะได้ผลไม่ได้ผลขึ้นอยู่กับคนและช่วงเวลาด้วยครับ คนๆเดียวกัน ในช่วงเวลาที่ต่างกัน หรือในสถานการณ์ที่ต่างกัน ผมว่าก็ส่งผล

สมมุติมีคนมาพูดแหย่เรา แต่เราอารมณ์ดี หรือเราอารมณ์ปกติ เราก็อาจจะไม่สน ทำให้สิ่งที่เขาทำมันไม่ได้ผล

แต่ถ้าเกิดวันไหนที่เราอารมณ์เสียอยู่ หรือรำคาญเพราะมันแหย่ทุกวันเลย เราก็อาจพลาดไปตกหลุมเขาก็มีได้เหมือนกัน

เชลซีก็เกมส์รับดีจริง แต่เกมส์รุกดีกว่า

มูเค้าชอบพูดให้คิดครับ ถ้าใครเก็บไปคิดก็มีโอกาสมีผลแล้ว

เหมือนที่เป๊ปชอบตอบนั้นหละ " ผมไม่ได้ฟัง " " ทำอย่างอื่นอยู่ " คือจะสื่อว่าไม่ได้สนใจสิ่งที่ มู พูด

แต่ถ้าใครตอบกลับทางการสัมภาษณ์ หรือ เอาไปคิดแล้วปรับเปลี่ยนการเล่นไปตามที่คิด

( อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ) ก็มีโอกาสที่จะหลุดฟอร์ม หรืออาจจะกลายเป็นว่าดีขึ้นก็ได้


นักเตะก็คน อาจจะมีคนที่เซนซิทิฟกับเรื่องบางเรื่อง คำบางคำ เช่นกับเชลซี อาจจะเซนซิทีฟกับคำว่า

อุด, รถบัส, เกมส์รับ อะไรแบบนี้เหมือนเราๆที่เล่นบอร์ดอะ พอเจอยั่วด้วยคำที่อาจจะไม่มีผลกับคนอื่นเลย

แต่มันมีผลกับตัวเราซะงั้น ก็เกิดอาการหัวร้อน ไปตามเอาคืนทางคำพูด หรืออะไรแบบนี้

ใครคิดว่าแค่คำพูดไม่มีผล ลองดูแค่การเล่นเวปบอร์ดสิ วอร์กันมานักต่อนักแล้ว

อันนี้อาจตอบไม่ตางประเด็นเจ้าของกระทู้นะครับ
แต่เอามาเล่าให้ฟัง
หน้าบ้านผมมีร้านสเต๊ก ผมเรียกแกลุง
คือแกโตที่ไทย แล้วไปเรียนเมกา แล้วกลับมาเปิดร้านสเต๊กที่ไทย
เลยนั่งคุยกับแกเพลิน แกบอกคนไทยเก่งนะ
เรื่องกีฬา แต่อย่างที่แกบอก อย่างเมกาที่แกไปเรียนมันจะ
มีcourseอะไรเกี่ยวกับ จิตวิทยาเนี่ยแหละครับโดยเฉพาะ
ซึ่งแกเรียนมา ลุงเค้าบอกว่า จิตวิทยาสำคัญมากๆเลยนะ
ในการจะดึงศักยภาพของ คนคนนึงออกมา เออแล้วแก
ยังเป็นโปรกอล์ฟ อีกด้วย แกเลยเปิดสอนกอล์ฟอีก
อย่างที่เคยคุยกับแก แกบอกว่าเด็กแต่ละคนที่มาเรียน
กับแกจะไม่เหมือนกัน แกจะเรียกมานั่งคุยคุยทีละคนเลย ให้เด็กมันเปิดใจ
อยากเล่นกอล์ฟแค่ไหน เอาแบบแข่งเลยมั้ย หรือแค่ออกกำลังกาย
โปรแกรมที่แกวางก็จะแตกต่างกันไป
แล้วก่อนพาเด็กไปแข่ง แกจะพาเด็กมาแคมป์ที่บ้านแก
แล้วแกจะวางโภชนาการให้เด็กหมดเลยครับ แล้วเด็กแกที่แกปั้น
แต่ละคนนี่โคตรเก่งเลย แกบอกว่าเราต้องเข้าให้ถึงเด็กก่อน
ต้องดูว่าเค้าเป็นยังไง แกบอกว่าเด็กไทยอะเก่งแต่บุคลากร
ด้านจิตวิทยา ยังมีน้อย

ผมเห็นด้วยกับ จขกท. นะ จิตวิทยามันอาจไม่ได้มีผลทุกอย่าง
แต่ผมว่ามันควรต้องมีเหมือนกัน

แบบนี้เลยครับที่ผมจะสื่อ มันน่าสนใจมากจริงๆ

ฮา พวกไร้สาระ

ผมว่าจิตวิทยาของคล็อปป์ก็ตรงไปตรงมาดีนะครับ คือต้องการสไตล์บอลแบบฮาร์ดคอร์ ฉะนั้นตัวเองจะมานั่งหงอยไม่ได้ แอ็คชั่นต้องใส่เต็ม ทุกอย่างต้องซื้อใจนักเตะให้ได้ การกระทำ การพูดทุกอย่างจึงไปในทิศทางเดียวกัน

แต่ผมก็แอบคิดว่า คล็อปป์คงไม่ได้มานั่งวางแผนอะไรพวกนี้หรอกฮะ มันเป็นนิสัยของแกล้วนๆ 555

บ้างคนก็แยกแยะไม่ออกระหว่าง จิตวิทยา กับ ความสำเร็จ

จิตวิทยา ไม่ใช่ ตัวสร้างภาวะแรงกดดันได้ 100% หากสภาพแวดล้อมของผู้รับสาร อยู่ในภาวะบวก

แต่มันอาจสร้างภาวะแรงกดดันได้กับผู้รับสารบ้างคนที่สภาพจิตใจไม่ 100%

แต่ต้องมองด้วยว่า องค์ประกอบของฟุตบอล ไม่ใช่กีฬาชายเดียว จึงเป็นไปไม่ได้ที่ คพพูดหนึ่งคำ จะส่งผลกระทบต่อนักเตะ สตาฟ โค้ช ทั้งทีมได้ แต่หากสามารถ ส่งผลกระทบกับตัวบุคคลสำคัญของทีมได้ มันก็น่าลองมิใช่หรอ

แต่อย่างที่บอกฟุตบอลไม่ใช่กีฬาชายเดียว องค์ประกอบไม่ได้มีแค่จำนวนผู้รับสารของฝั่งตรงข้าม หากปัจจัยหลักยังอยู่ที่ทีมของเราด้วย

จึงอยากจะบอกกับบ้างท่านที่แขวะว่า ถ้าใช่ได้จริงทำมั้ยไม่แชมป์ทุกปี คุณกำลังเข้าใจผิดกับหลักจิตวิทยาอยู่นะครับ เปิดใจกว้างๆแล้วลองศึกษาดูครับผม ขอบคุณครับ

ขึ้นอยู่กับคนรับมือด้วย

ชอบที่คอนเต้ให้สัมพาด(พิมไม่เป็น) ไปดูกันในสนาม จบ

บอกเฉยๆ ไม่เคยเห็นป๋าปั่นหัวราฟาหรอ ขำ

55555555555555555555555555555555555555555555555555

ใช่ คือมูมันจะเล่นจิตวิทยาแหละ คนตามมูจริงๆจะรู้ว่าแกเล่นกับสื่อตลอด

แต่ก็จะมีไข่มูบางคนที่ชอบมาช่วยแถให้ว่าไม่ได้จิกกัดนะ จริงๆแกก็แอบจิกกัดไปด้วยนะแหละ

ที่ผมหมั่นแกคือแกไม่ค่อยออกมาพูดอะไรดีๆถึงเชลซีเลย ทั้งที่แฟนบอลศรัทธาแกนะ

มันมีที่ไหนย้ายไปคุมทีมคู่อริขนาดนี้ แต่แฟนบอลยังซัพพอท โคตรใจเลยแฟนเชลซีอะ

แต่แกก็นะ อะไรไม่รู้อะ เหนื่อย55555

ส่วนเคสนี้ ผมมองว่าเป็นจิตวิทยาที่หัวร้อนไปเองของมูรินโญ๋

น้าแกหัวร้อนตั้งแต่โดนเชลซียำเละ แล้วไปเกรียนแตกใส่คอนเต้แล้ว

ถ้าวัดมวยเป็นยกๆ คือน้าคอนแต้มโคตรนำอะ

แล้วพอมายกต่อไป แกบอกเชลซีเล่นเน้นผล เล่นแต่รับ

แล้วคนที่ดูเชลซีบ่อยๆปีนี้ หรือนักวิจารณ์ จะรู้ว่ามันทำอะไรคอนเต้ไม่ได้

เพราะ!! เชลซีในแผน 3-4-3 เป็นทีมที่เล่นเกมส์รุกได้ดี ทั้งการเข้าทำ การต่อบอล

มันเหมือนเป็นทีมที่สมดุลทั้งเกมส์รุกและรับอะ

ถ้ามันจะมาตาย ก็มาตายตรงลูกครอสของวิงแบ๊คทั้ง 2 ข้าง ที่ยังขาดสมดุลเล็กน้อย(อิอิ)

มันเหมือนน้ามูไม่ได้อยู่ในที่ที่เล่นจิตวิทยาใส่คนอื่นแล้วเขาจะหัวร้อนกัน

เพราะจากฝีมือที่ถดถอย และแผนการเล่นที่โดนจับทางได้ มันเลยดูไม่มีอิมแพ๊คอะไรแล้วกับคำพูดของน้าแก

จะว่าไปก็เหมือนขี้แพ้ชวนตี ชวนทะเลาะไปแล้วอะ กรณีแกกับคอนเต้นะ

แต่คอนเต้อย่างพระเอกอะ เลือกที่จะให้เกียรติฝั่งตรงข้าม ยิ่งมูพูดอะไรออกมายิ่งแย่อะ

ส่วนที่ว่าผลงานแมนยูช่วงหลังดีขึ้น ก็ดีจริงนะ ยอมรับ

แต่จริงๆมันก็ต้องได้มาตรฐานตามนี้อยู่แล้ว กับนักเตะในทีม และการซื้อตัวนักเตะเข้ามา

ผมว่าบางครั้งหลายคนก็ปลอบใจตัวเองไปหน่อย

สำหรับผมผมองแมนยูควรทำได้ดีกว่านี้ อันดับควรดีกว่าหงส์ หรือปืน หรือแมนซิด้วยซ้ำ

เพราะแกช่ำชองในพรีเมียร์มาเท่าไหร่แล้ว

ยังไงก็หวังเห็นเกมส์ที่สนุกในวันพรุ่งนี้้ และไม่มีดราม่าอะไรแล้วนะ ผมขี้เกียจวอร์

อ่านมา 3 หน้า
ก็ยังมีคนไม่เข้าใจคำว่าจิตวิทยาเยอะอยู่ดี

มีพูดไปถึงผลซะด้วย ว่าจิตวิทยาได้ผลต้องได้แชมป์
ตรรกกะหยั่งกะเด็กป.3

บางครั้งจิตวิทยาก็ไม่ได้ต้องการหวังผลลัพท์ปลายทางมากมายอะไรขนาดนั้น
แค่ เปลี่ยน/สร้างพฤติกรรมมนุษย์ เปลี่ยน/สร้างแรงจูงใจมนุษย์ บางอย่างแค่นั้นเอง
การจะเอาจิตวิทยามาใช้โจมตี คนใช้เก่งๆก็เลยไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องเสี่ยงอะไรกับคำพูดบางคำพูด

แล้วหลายๆครั้งเค้าก็เอามา เปลี่ยน/สร้าง/แก้ไขจิตใจตัวเองด้วยซ้ำ
แต่ถ้าดันไปสะกิดขนคิ้วพวกหัวร้อนง่ายก็ว่ากันไป


ปล. ที่อธิบายได้คร่าวๆก็เพราะเรียนมานะครับ ไม่ได้มโนโจมมาตีใคร
แต่จะให้มาอธิบายเชิงลึกกว่านี้ก็คงไม่ได้ เคยเรียนมาแค่ตัวเดียวครับ ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว
คืนอาจารย์หมด

อ่านคอมเม้นท์แล้วตลกดี จขกท ตอบด้วยเหตุผลที่วิเคราะห์มาผมก็เห็นด้วยนะครับ แต่บางพวกเจอวิชาการเข้าหน่อยก็ทำตัวเกรียนแตก

เท่าที่ผ่านมาเราได้เห็นเจ้าพ่อแทคติครุ่งขึ้นมาแล้วดับไปหลายต่อหลายคนครับ
แต่มีไม่กี่คนที่สามารถพาทีม(อาจจะคุมทีมเดียวหรือหลายทีม)ประสบความสำเร็จติดต่อกันหลายปี
อย่างเซอร์ ผมว่าเรื่องแทคติคแกก็ไม่ได้อยู่ในระดับปรมาจารย์
แต่แทคติคแกยืดหยุ่นตามสถานการณ์ เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา
ช่วงหลังๆของชีวิตการทำงานแก ผมสังเกตได้เลยว่าแกค่อนข้างจะหมดมุกนะ
แต่แกก็สามารถหาบุคลากรมาเติมเต็มจุดที่ขาดของแกได้ตลาด
ผมว่านี่คือจุดหนึ่งของความสำเร็จอันยืนนานของแก เพิ่มเติมจากการสร้างแรงจูงใจครับ