เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่การลาออกมาทำนา
ผมดูสกู๊ปข่าวเฉลิมพระเกียรติ
"สถาปนิกหนุ่มอนาคตไกลลาออกจากบริษัทมาปลูกพืชตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง"
"หลังจากช่วงเวลาที่มา เราได้พบกับสถาปนิกหนุ่มอนาคตไกลที่ออกจากเมืองหลวงมาปลูกพืชสวน และพืชไร่ที่จังหวัด... ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง"
และข่าวก็ย้ำคำว่าสถาปนิกหนุ่มอนาคตไกลทั้งข่าวอยู่ 3 รอบได้
ก่อนอื่นเข้าใจตรงนี้ก่อนนะครับ หลักคำสอนเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เคยมีข้อความไหนให้ลาออกจากบ.เพื่อมาปลูกพืช เป็นเกษตกรนะครับ
และการเป็นคนมีอนาคตไกล ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อในการกระทำดังกล่าว
ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใดๆอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบและความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำวิชาการต่างๆมาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใตของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจทุกระดับให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญาและความรอบคอบ
"เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเสมือนรากฐานของชีวิต รากฐานความมั่นคงของแผ่นดิน
เปรียบเสมือนเสาเข็มที่ถูกตอกรองรับบ้านเรือนตัวอาคารไว้นั่นเอง สิ่งก่อสร้างจะมั่นคงได้ ก็อยู่ที่เสาเข็ม แต่คนส่วนมากมองไม่เห็นเสาเข็มและลืมเสาเข็มเสียด้วยซ้ำไป"
*พระบรมราโชวาทพระราชทานผ่านมูลนิธิชัยพัฒนา
cr.
http://natthayasaelim.blogspot.com/2014/10/blog-post.html?m=1
ไม่มีประโยคไหนกล่าวถึงการลาออกไปทำนา ทำไร่นะครับ การกลับไปพัฒนาบ้านเกิดเป็นสิ่งที่ดี เป็นรากฐานของประเทศชาติต่อไป แต่ไม่ใช่ประเด็นของคำสอนของพ่อข้อนี้นะครับ
คำสอนเศรษฐกิจพอเพียง เป็นสิ่งที่มีคุณค่า ซึ่งทุกคนควรน้อมนำมาเป็นแบบอย่างการดำเนินชีวิต
แต่จำเป็นต้องศึกษาให้ถ่องแท้ ให้เกิดปัญญา เพื่อจะได้ดำรงชีวิตอย่างมีความสุขครับ