ผ่านพ้นไปแล้วกับนัดเปิดสนามของหงส์แดงลิเวอร์พูล กับ ปืนใหญ่แห่งลอนดอน นับได้ว่าเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้น เปิดแลกกันแบบไม่มียั้ง ยิงกันอุตลุต โดยชัยชนะตกเป็นของลิเวอร์พูลด้วยสกอร์ 4 - 3
หลายๆท่านอาจจะได้มีการให้ทรรศนะ แสดงความเห็นหลังจบเกมกันไปบ้างแล้ว ผมจึงใคร่ขออนุญาตแสดงความคิดอ่านของผมบ้างว่านักเตะแต่ละคนของทีม "หงส์แดง" มีฟอร์มการเล่นไหนที่ต้องพูดถึงกันบ้าง
เริ่มจากผู้รักษาประตู "ซิมง มิโญเล่ต์"
การที่ลิเวอร์พูลเสียถึง 3 ประตูในเกมนี้ บอกตามตรงแม้ผมจะไม่ชอบขี้หน้าของ ซิมง ลงเป็นตุง รายนี้เท่าใดนัก แต่ในความจริงก็ไม่อาจจะโทษความผิดไปที่เค้าได้ เพราะ 3 ลูกที่โดนนั้นบอกตรงๆว่าหมดปัญญา จะมีก็แต่ลูกเสียจากฟรีคิกที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่ก็ไม่ถือว่าเสียหายกับลูกที่โดนยิงเท่าไรนัก แถมยังเชพจุดโทษได้อีกด้วย
เพียงแต่ว่าหากมองดูให้ดีจะยังพบปัญหาเดิมๆของ มินนี่ ที่สื่อสารกับกองหลังที่เข้าขั้นแย่ ทั้งคราวานและลอฟเรนมีลูกหวาดเสียวจากการโดนกดดันจากข้างหลังรวมกันไม่น้อยกว่า 3 ครั้งในเกมนี้ ซึ่งผมโทษความผิดไปที่ผู้รักษาประตู ตามตำแหน่งแล้วเค้าควรจะสั่งการกองหลังว่าให้เล่น ให้เคลียร์ หรือ ให้ปล่อย เพราะเค้าเป็นคนที่เห็นทุกอย่างว่ามีใครกดดันอยู่ไหม
พอมิโญเล่ต์ไม่สั่งการ กองหลังก็ไม่มั่นใจว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ทำให้เสียจังหวะ และอาจนำไปสู่การเสียบอลได้ อีกทั้งการออกมาตัดลูกกลางอากาศที่เป็นจุดอ่อน ก็เกิดจากสาเหตุนี้ด้วยเหมือนกัน ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไปให้สัมภาษณ์ยังทำได้บ่อยๆ แต่พอต้องทำหน้าที่ออกคำสั่งในกรอบเขตโทษดันปากหนักอึ้งขึ้นมาซะอย่างนั้น?!?
ต่อไปคู่เซนเตอร์ "รักนาร์ คลาวาน" และ "เดยัน ลอฟเรน"
ผมเชื่อว่าแฟนหงส์ร้อยทั้งร้อยตอนได้ยินชื่อ รักนาร์ คลาวานครั้งแรกคงคิดเป็นเสียงเดียวกันว่า ใครวะ?!?
บางคนตีค่าเค้าไว้แค่ตัวแทนของ น้าตู้ ที่ต้องลาจากกันไป ซึ่งผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไรกับนักเตะคนนี้มากมายนัก
แต่ใครจะคิดว่ากองหลังรายนี้จะกลายเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คแบบเด็ดขาดได้ไวขนาดนี้จากฟอร์มฟรีซีซั่นและเกมกับอาเซน่อลนี้บอกเลย น้าหงา โคตรนิ่ง แข็งแกร่ง เด็ดขาด ผมทึ่งจริงๆว่าคล็อปป์ไปหานักเตะคุณภาพขนาดนี้ที่ราคาแสนถูกมาได้ยังไง
ส่วนลอฟเรน AKA ลอฟรั่ว ในสมัยของรอดเจอร์ ก็พาตัวเองกลับเข้าสู่ฟอร์มที่ดีอีกครั้ง แต่โดยปกติแล้ว หากคู่เซนเตอร์ของลอฟเรนเล่นดี เค้ามันจะทำผลงานดีไปด้วย แต่ถ้าคู่หูเค้าเล่นแย่ เค้าก็พร้อมที่จะแย่กว่าขึ้นไปอีก
ฟอร์มโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี เพียงแต่ลูกที่เจ้าแชมเบอร์แลนลากเดี่ยวไปยิงดูลอฟเรนแกจะสมาธิหลุดขาตายไว้ไปหน่อยเท่านั้นเอง
ต่อไปฟลูแบ็ค "อัลแบร์โต้ โมเรโน่" และ "นาธาเนียล ไคลน์"
ขอพูดถึง ไคลน์ ก่อนก็แล้วกันเพราะถ้าจะกล่าวถึงอีกฝั่งก่อนคงจะไม่มีอารมณ์จะเขียนต่อเท่าใดนัก เกมนี้ ไคลน์ก็ยังรักษามาตรฐานของตัวเองได้อย่างดี จังหวะบุกช่วยทีมได้เยอะ เพียงแต่วันนี้หลังจากโดนเผาเครื่องไปยิง 4-2 ดูไคลน์จะเสียศูนย์ไประยะหนึ่ง ดูหลงตำแหน่งไปประมาณ 15 นาที ก่อนจะกลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง จังหวะแอสซิสก็สวยงามตามท้องเรื่อง ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแอสซิสแรกของเค้ากับลิเวอร์พูล
ถึงเวลากล่าวถึงคนดังในชั่วโมงนี้ของแฟนๆ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ ที่แฟนๆต่างถามถึงคนที่จะเค้ามาแทนที่เค้า บอกได้คำเดียวว่าพินาศมากกับการเล่นของหมูวน้อยตัวนี้
เข้าบอลพรวดทำทีมเสียจุดโทษง่ายๆ รีบขึ้นจนลืมประกบตัวนำไปสู่การเสียประตู การหลงตำแหน่งดั่งกินวอดก้าไป 3 กลมก่อนลงเล่น จุดเด่นเดียวที่มีคือความเร็ว แต่เนื่องจากเข้าบอลไม่แม่น ทำให้จุดเด่นยิ่งขับจุดด้อยออกมา บุกก็ไม่ได้มีจุดเด่น รับก็บ่อน้ำมัน ตำแหน่งที่เหมาะสมกับ โมเรโน่ ตอนนี้คงเป็นข้างสนามซะมากกว่า
การเล่นอยู่ในลีคสูงสุดแต่มีข้อเสียเป็นเข่งแถมหาข้อดีแทบไม่เจอ หากกุนซือ "คล็อปป์" ไม่ซื้อใครเข้ามาแทนที่บอกเลย Top4 เลือนลางเต็มทน เพราะทุกทีมรู้ว่าโมเรโน่คือจุดอ่อนใหญ่หลวงของหงส์แดง
วันนี้เวนเกอร์เจาะทางโมเรโน่ตลอด แถมได้ผลอย่างดี จนพักครึ่ง บอส คงตบหน้าสักฉาดแล้วบอกว่าเอ็งไม่ต้องทะลึ่งบุกอีกเลยนะ อาเซน่อลจึงหันมาโจมตีฝั่งไคลน์แทน
ตามมาด้วยกองกลาง "จอร์แดน เฮนเดอร์สัน" "จอร์จินิโอ ไวจ์นาลดุม" และ "อดัม ลัลลาน่า"
ว่ากันตามตรงครึ่งแรกคือหายนะของกลางลิเวอร์พูล เฮนโด้ พอได้บอลก็ส่งคืนหลังและแปะออกข้าง ส่งไปข้างหน้าไม่เป็น ไวจ์นามดุม ก็ดูจะงงกับตำแหน่งอยู่ วิ่งทับตำแหน่งเพื่อนบ่อยมาก แต่ยังพอจ่ายบอลไปให้กองหน้าได้บ้าง ส่วน ลัลลาน่า ถ้าเค้าไม่โผล่มาม้วนจนเสียบอล ผมคงลืมไปแล้วว่าเค้าลงเล่นด้วย!!!
ครึ่งแรกบอลเสียที่ เฮนโด้ และ ลัลลาน่าเยอะมากๆ ส่วนไวจ์นามดุมก็ไม่มีบทบาท เพราะบอลไม่ถึงเค้า
ยังดีที่คล็อปป์แก้เกมได้ดี จะเห็นได้ว่า ครึ่งหลังเฮนโด้จะส่งบอลไปด้านหน้าอย่างเดียว แทบไม่มีแปะคืนหลัง และลัลลาน่าก็เลิกม้วน เน้นจ่ายบอลง่ายๆแทน ทำให้กองกลางมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาก เพราะลำเลียงบอลไปข้างหน้าได้ไว
ไวจ์นามดุม นอกจากจังหวะล็อกหัวทิ่มแล้วส่งให้ลัลลาน่ายิงแล้วจังหวะอื่นดูจะไม่กล้าเล่นเท่าใดนัก ต้องรอจูนให้เข้ากับเพื่อนๆอีกสักระยะ
เฮนโด้ ครึ่งหลังเล่นดีขึ้นมาก ทำให้บอลไหลลื่น แต่เกมต่อๆไปไม่ควรกลัวแบบครึ่งแรกอีกแล้ว
ลัลลาน่า ไม่ผ่าน นอกจากจังหวะยิงได้ ประโยชน์กับทีมน้อยมากเกินไป
สุดท้าย ปีกและกองหน้า "ฟิลิปเป้ คูตินโญ่" "ซาดิโอ มาเน่" และ "โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่"
เริ่มที่พ่อมดน้อยคูตี้ก่อนเลยละกันนะครับ ครึ่งแรกไม่ค่อยได้บอลมากนัก แต่พอมีโอกาสก็ทำได้ค่อนข้างดี และดูอาเซน่อลจะกลัวคูตี้มากๆ เพราะเวลาได้บอลนั้นกองหลังจะเทมาทางฝั่งซ้ายหมด จนฝั่งขวาเหลือพื้นที่กว้างเท่าแม่น้ำเจ้าพระยาให้ไคลน์ได้เติมง่ายๆ
อีกอย่างหนึ่งที่พัฒนาอย่างเห็นได้ชัดคือคูตินโญ่เหมือนจะเชื่อใจเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น ไม่เล่นแบบผืนเลี้ยงผืนยิงแล้ว ดูเล่นลื่นไหลเป็นธรรมชาติ จังหวะควรจ่ายก็จ่าย จังหวะควรเลี้ยงก็เลี้ยง รวมถึงฟรีคิกปลิดวิญญาณที่บอกได้คำเดียวว่าลูกนี้ระดับ World Class สมบูรณ์แบบ ขนาดที่ยอดประตูอย่าง ปีเตอร์ เช็ค หมดปัญญาจะป้องกัน และอีกหนึ่งประตูที่ยืนได้ถูกที่บ่งบอกถึงการอ่านเกมที่ดี
แต่ปัญหาด้านความฟิตที่ไม่สามารถเล่นได้เต็มที่ครบ 90 นาทีของเค้าก็ต้องปรับแก้กันต่อไป
ต่อไปขอกล่าวถึง มาเน่ บอกตรงๆว่าตอนแรกที่ผมเห็นข่าวว่าได้ มาเน่ มาในราคา30ล้านผมมองว่าแพงเกินไป ไม่ใช่ว่า มาเน่ ไม่เก่งเพียงแต่ผมไม่คิดว่าจะสามารถเข้ามาสร้างความแตกต่างให้ทีมได้มากมาย ซึ่งผมคิดผิด ทั้งความเร็ว การเลี้ยงบอล รวมถึงการยิงประตูอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยม
แต่สิ่งที่ผมคิดว่าจะทำให้ปีกความเร็วสูงผู้นี้จะสามารถสร้างความแตกต่างได้คือ ทัศนคติในการเล่น การเลี้ยงที่ดุดันแต่ไม่ใช่เลี้ยงจนตันแล้วค่อยส่งเผือกร้อนไปให้เพื่อนอย่าง ไอบ์ เมื่อมีจังหวะที่ควรส่งก็ส่ง เป็นการเลี้ยงที่เปิดช่องว่างให้กับเพื่อน ไม่ใช่เลี้ยงไปแบบไร้จุดหมาย และความใจสู้ของเขาที่โดนชนโดนเบียดก็ล้มยาก และต่อให้ล้มก็ลุกขึ้นมาเล่นต่ออย่างรวดเร็ว อีกจุดหนึ่งคือ มาเน่ โดนซาก้าตัดฟาล์วจนล้มกลิ้ง แต่เค้าก็ก้มหน้าก้มตาลุกขึ้นมาเล่นแบบไม่มีปากเสียง ทำให้เห็นถึงทัศนคติที่ดีมากๆจากปีกผิวสีรายนี้
รวมถึงลูกกระชากไปยิงเสียบสามเหลี่ยม ด้วยความเป็นแฟนของบาซ่าเหมือนกัน ลูกแบบนี้ทำให้ผมนึกถึงเมสซี่ในช่วงวัยรุ่นขึ้นมาจริงๆ
สุดท้าย ฟีโน่ ของเรา ต้องบอกว่าเป็นอีกเกมที่ฟีร์เมียโน่แสดงให้เห็นว่า เค้าไม่ใช่กองหน้า การเล่นในตำแหน่งนี้ฝืนธรรมชาติของเค้าอย่างมาก ในครึ่งเวลาแรกนั้น ฟีโน่อยู่หน้าสุดแต่เวลาที่จะรับบอล เค้าจะถอยลงต่ำไม่ใช่วิ่งสวนกองหลังขึ้นไป ทำให้พอได้บอลแล้วก็จะไม่มีเพื่อนให้ส่งต่อ เพราะนั่นเป็นตำแหน่งของเค้า ธรรมชาติของ ฟีร์เมียโน่พอได้บอลเค้าจะมองหาจุดที่จะส่งบอลไปต่อ ไม่ใช่เลี้ยงหรือยิง
ครึ่งแรกเลยต้องบอกว่าพี่แกเล่นได้ห่วยแตก เพราะบอลไปตายที่เค้าเยอะมาก เนื่องจากตำแหน่งที่ฝืนธรรมชาตินี้
แต่ในครึ่งหลังคล็อปป์ได้เปลี่ยนวิธีเล่นโดยให้ ฟีโน่ ลงต่ำมาหน่อยในตำแหน่ง Flase 9 และให้ มาเน่ และ คูตินโญ่ ดันขึ้นไปสูงกว่าเวลาบุก รวมถึงดันไวจ์นามดุมให้ขึ้นสูงอีกคนด้วย ทำให้ ฟีร์เมียโน่เล่นได้ง่ายขึ้นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยจะเห็นว่าเค้าเสียบอลน้อยลงมากเมื่อเทียบกับครึ่งแรก โดยจะเป็นคนเชื่อมเกมอยู่ตรงกลางมากกว่าที่จะขึ้นไปยิงประตูเอง และทำให้เกมรุกไหลลื่นมากๆ ด้วยการเล่นที่ไม่ครองบอลนานของ ฟีโน่ สปีดเกมรุกเลยเพิ่มขึ้นอย่างมากในครึ่งหลัง
โดยสรุปในเกมนี้เราเล่นได้ดี การที่เสียประตูเยอะก็ต้องปรับแก้กันไป แต่ต้องให้เครดิตฝั่งปืนใหญ่ด้วยที่ฉวยโอกาสในความผิดพลาดของเราได้ทุกครั้ง จุดอ่อนสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไขคือ แบ็คซ้าย และ ผู้รักษาประตู โมเรโน่ ทำให้ทีมเสียเปรียบมาหลายต่อหลายครั้งแล้วยังไม่เห็นการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น อย่างน้อยๆ คล็อปป์ ควรที่จะซื้อตัวมาเพิ่มเพื่อกดดัน โมเรโน่ แม้ว่าจะมีนักเตะหลายคนที่สามารถเล่นได้ แต่ก็ไม่มีใครที่เป็นแบ็คซ้ายอาชีพอีกเลย หาก โมเรโน่ เจ็บขึ้นมาจะมีตัวแทนที่ไหนส่งลง ส่วน มินโญ่เล่ต์ ต้องบอกว่า ไม่อุ่นใจยามที่เค้าลงในตำแหน่งผู้รักษาประตู แม้ว่าเกมนี้จะไม่มีข้อผิดพลาดเด่นชัด แต่จุดอ่อนก็ยังแสดงออกมาให้เห็น แสดงถึงว่ามันยังไม่ได้รับการแก้ไข หาก คาริอุส หายเจ็บกลับมาส่วนตัวผมอยากให้ลอง คาริอุส มากกว่า ถ้ายังมีดีอีก คงต้องเปลี่ยนโค้ชผู้รักษาประตูแทนกระมัง
By GludMunZ