ความฝัน มันเปลี่ยนไปตามวัย . . . .ถ้าเอาความฝันที่อยากเป็นมาตลอด แต่ไม่มีทางเป็นไปได้แล้วคือ อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ผมอยากเป็นมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ซึ่งพ่อแม่ไม่สนับสนุน (แต่ผมไม่โทษท่านนะ เพราะ ย้อนกลับไป 20 ปีก่อน นักฟุตบอลอาชีพสมัยนั้นนี่ ไม่ต้องไปถามว่าเงินเท่าไร มีความมั่นคงแค่ไหน)

ต่อมา โตขึ้น ความฝันผมคือ ดูแลพ่อแม่ตัวเอง และคนรักได้ และ ไปทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองรัก . . . ถามว่าทำอะไรถึงตอบโจทย์ ผมคิดว่าการวางแผนการเงินมันสามารถตอบโจทย์ผมได้ (ความฝันนี้เกิดหลังจากจบ ABAC ไม่นาน). . .

ผมทำงานมาละ 4 ปี(ตอนนี้ 27 ละ) ตอนนี้เงินเดือน 35-40k แล้วแต่เดือน เป้าหมายคือ Passive Income เดือนละ 20-30k (รวมๆ 240-360k ซึ่งจริงๆคงต้อง 400k/ปี เผื่อหักภาษีโน้นนี่นั้น) เมื่อกำหนดความฝันได้ ต่อไปคือเป้าหมาย

เป้าระยะสั้นผม ต้องมี Asset 1 ล้านก่อน อายุ 28 (อันนี้คิดว่าทำสำเร็จแล้ว)

เป้าระยะกลาง ต้องมี Asset 5 ล้านก่อน อายุ 35 (อีก 8 ปี)

เป้าระยะยาว ต้องมี Asset 10 ล้านที่ผลิตกระแสเงินสดให้ได้เท่าๆกับ Passive Income ที่หวังไว้ ก่อนอายุ 40 (10 ล้านต้องการ 4แสน ก็ 4% ที่น่าจะได้จากปันผล ที่เป็นไปได้)

ถามว่าทำอะไรไปบ้าง

1. วางแผนครับ และ พยายามทำตามให้ได้
2. พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง(ยังพยายามไม่มากพอ) 4 ปีก่อนเข้ามาในตลาดทุนด้วยแนวคิด VI อ่านงบ ฟัง ผบห.ที่ oppday ไปประชุมผู้ถือหุ้น(แม้จะมีแค่ 1000 หุ้นผมก็ไป) แต่รู้เลยว่ามันไม่พอ ผมเอาหมด อ่านหนังสือ Asset Allocation อ่านวิธีวิเคราะห์ Chart อ่าน Technical (ซึ่งบอกเลยผมไม่เก่ง) แต่มันก็ต้องรู้เอาไว้ อย่างน้อยๆ ทางหนีมันไวกว่าการแค่รอให้กลับมาที่ถูกกว่ามูลค่าและซื้อใหม่ เพราะนอกจากศัตรูในตลาดแล้ว เรายังมีศัตรูและบางทีก็เป็นเพื่อนชื่อ "เวลา" (ศัตรูคือ Opportunity Cost ที่เสียไป)

3. พยายามพบเจอคนที่เก่งกว่าเราเยอะๆ ทำให้เราได้แนวคิดที่ดีขึ้นกว่าเดิม เปลี่ยนมุมมองหลายๆมุม ไม่เว้นแม้แต่การเมือง(ซึ่งเป็นแค่การมองหาทางออกที่ดี ไม่มีการเอาเรื่องสีมาโยนใส่กัน) ผมเคยฟัง หม่อม.อุ๋ย ตอนที่เค้าออกมาแล้ว แล้วเค้ามาเล่าให้ฟังว่าทำไมเค้าถึงคิดอย่างนั้น. . . .แนวทางดีมากครับ แต่คนไทยรอกันไม่ไหว (ผมก็เป็นคนนึงที่ด่าท่านตอนนั้นนะ)

4. อย่ามีอคติ ซึ่งยากครับ ผมรักหุ้นตัวนึงมาก แม้จะทำให้ขาดทุน . . .เรียนรู้เต็มๆครับ และ บางทีหุ้นเน่า มันก็ทำกำไรให้เราได้ ถ้าเราทำการบ้านมามากพอ (อ.ผึ้งสอนมา)

ถามว่าให้เวลาแค่ไหน ก็เยอะพอสมควรครับ เพราะเป้าหมายมันบังคับให้ความฝันทำเงินให้ได้พอๆกับงาน Active Income ที่ทำอยู่ในตอนนี้

การบ้านที่ต้องทำทุกวันคือ เปิด F6 เปิด กราฟ มองหาโอกาสครับ จบไตรมาส อ่านงบ พบผู้บริหาร ฟัง oppday ถามคำถามที่สงสัย

เอาจริงๆก็อยากมีรายได้เดือน 6 หลัก

เพิ่มขึ้นทุกปีปีละ 5000 จนกว่าหยุดหายใจ

แต่ทุกวันนี้ก็เดือนชนเดือนหาเช้ากินค่ำ

ที่ทำอยู่ทุกวันก็ไม่ได้ทำให้ตัวเองเข้าใกล้ฝัน

เลยแม้แต่น้อย

ขอไม่เล่านะครับ ว่ามันคืออะไร

แต่เคยลองเข้าไปทำแล้ว แบบจริงๆจังๆ ทุ่มสุดตัวอ่าคับ
ปรากฎว่า มันล้มไม่เป็นท่าเลย

--------------------------------------------------------------

แต่ผมพอเข้าใจนะ ว่าทำไมผมล้มเหลว หรือทำไม่สำเร็จ
ถ้าผมได้กลับเข้าไปทำอีกครั้ง ผมมั่นใจว่า ผมทำได้ยอดเยี่ยมกว่าเดิมแน่นอน

แต่ก็กำลังจะตอบคำถามอีกอันของเจ้าของมู้ ที่ว่า ได้ทำไรให้เข้าใกล้ความฝันบ้าง
ก็ต้องบอกว่า หลังจากที่ผลมันล้มเหลวไปรุนแรง
ณ ปัจจุบันนี้ ผมก็ไม่ได้เดินเส้นทางตามฝันนั้นอีกละคับ (ก็ยังเสียใจอยู่เสมอนะ)

เพราะตอนนี้มันจำเป็นต้องมารับภาระทำหน้าที่ปัจจุบันให้ลุล่วงไปก่อน
เหมือนคนไร้เป้าหมายละตอนนี้ เป็นชีวิตที่แม่งโคตรแย่
ใช้ชีวิตเป็นเครื่องจักร เพื่อเรียนให้จบ เพื่อไปทำงานกินเงินเดือน ตามวิถีคนทั่วๆไป
ซึ่งผมก็ไม่ได้ปรารถนา หรือมี Passion กับชีวิตแบบนี้

ถ้าไม่ตายก่อน ผมก็หวังว่า วันนึงมันจะมีโอกาสที่ผมจะได้เข้าไปจับเป้าหมายอันนั้นอีกที
จริงๆเป้าหมายผม มันไม่เกี่ยวกับเรื่องฐานะการเงิน ไรเท่าไหร่หรอกครับ
ไม่ใช่เรื่องพวก เชิงลงทุนไรงั้น แต่ขอไม่ลงรายละเอียดนะคับ

อยากเป็นนักบินครับ อยากมีอิสระบนท้องฟ้า

ใกล้เป้าหมายที่ผมตั้งไว้ละครับ ตอนนี้ทำได้ครึ่งทางแล้ว

มีบ้านของตัวเองซักหลัง มีงานที่มั่นคง

ไปดูลิเวอร์พูลเตะในแอนฟิลด์กับแฟนครับ
ตอนนี้เก็บเงินไว้เดือนละ 1000 บาท อย่างช้าสุดจะได้ไปตอนอายุ 60 คงไม่แก่ไปนะ..

ผมอยากทำอะไรซักอย่างที่มันเป็นนานาชาติ อยากรู้จักคนหลายๆประเทศ

ความฝัน อยากเป็นนักบอลอาชีพ ตอนจะขึ้น ม.1 จะไปสอบ รร.กีฬา พ่อแม่ห้ามไว้ ซึ่งฝันนี้เป็นไปไม่ได้แล้ว

ส่วนเป้าหมายคือ ขายอาคารพานิชย์ให้ทันปลายปี เพื่อแต่งงาน และมีคนเช่าคูหาที่เหลือเต็มทั้งหมด คงจะพอมี

passive income กับเค้าบ้างครับ