กับพาเลสดูหมดก็จริงแต่ ถ้ามีความเด็ดขาด ก็่ท้ายเกมส์ก็อาจจะไม่ต้องเพรซหนักตลออดได้ปัญหาคือ วันนั้นใช่ว่าโอกาสไม่มี ถ้าปิดเกมส์ได้ไว เราก็เหนื่อยน้อยลง

ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับบทความนี้ตั้งแต่บรรทัด
"บอลอังกฤษใช้กำลังมากกว่าบอลเยอรมัน สมัยคุมดอร์ทมุนด์ "คล็อปป์" อาจจะสั่งลูกทีมเล่นเพาเวอร์เกม ลุยแหลกได้ทุกนัด แต่กับพรีเมียร์ลีก ถ้าแรงตกนิดเดียว มีสิทธิ์เจอคู่แข่งที่แรงมากกว่า "บดขยี้" ทันที"

เหมือนแกจะไม่ได้ดูบอลเยอรมันอีกคนละ ทั้งเรื่องบอลเยอรมันเล่นยังไง หรือฟอร์มตั้งแต่คล็อปยังคุมดอร์ทมุนเป็นยังไง เกมกับพาเลซนั้นถ้าเอาตรงๆเหมือนผมดูบอลเยอรมันอยู่เลยละ เล่นแลกกัน เล่นเพาเวอร์เกมแรงๆทั้งสองทีม ซึ่งสมัยคล็อปคุมดอร์ทมุนก็เห็นได้บ่อยๆที่ครองเกมดีกว่า บุกมากกว่า โอกาสยิงเยอะแยะแต่ไม่คมกันเอง สุดท้ายเจอเขาสวนมาแล้วเสียประตู หรือ เสียประตูจากลูกตั้งเตะเนี่ย อันนี้เรียกว่าเหมือนสมัยอยู่เยอรมันเลยดีกว่า ไม่ได้เกี่ยวกับเป็นบทเรียนของลีคอังกฤษหรอก

บทเรียนจริงๆของคล็อปน่าจะอยู่ช่วง boxing day ที่ไม่เคยเจอและต้องมีการโรเตชั่นนักเตะแน่ๆ ถ้าแค่เล่นบอลยุโรปกลางสัปดาห์แล้วกลับมาเล่นบอลลีคแบบนี้มันไม่ได้ต่างอะไรจากตอนอยู่เยอรมันหรอกครับ

แล้วอีกอย่างคล็อปก็ขึ้นชื่อเรื่องโรเตชั่นนักเตะไม่ดีอยู่แล้ว ตั้งแต่อยู่เยอรมันก็ใช้ตัวจริงตลอด ไม่มีหรอกมาโรเตชั่นพักนักเตะถ้านักเตะไม่เจ็บเนี่ย อันนี้ผมเลยแปลกใจสุดๆตอนที่เห็นให้เด็กลงบอลถ้วยทั้งหมด อันนี้โครตปรากฏการเลยนะ ส่วนยูโรป้าแกก็ต้องเน้นอยู่แล้ว ไม่ชนะนัดนั้นโอกาสเข้ารอบก็ยากเลยนะ ผมว่าคล็อปทำทีมออกมาโอเคสุดละ ถ้าจะมีพลาดให้ติก็เรื่องเปลี่ยนชานที่เล่นตัวรับออกแล้วส่งเฟียร์มิโน่ตัวรุกลงมาแทน แบบว่าจะเอาชนะให้ได้ตรงนี้ละที่ผมว่าพลาด เสี่ยงเกินไป จริงๆถ้าจะเอาตัวรุกอย่างเฟียร์มิโน่ลงมาก็ควรเปลี่ยนลัลลานามากกว่า

ถ้ามองแบบจะโทษBRอย่างเดียว สองนัดแรกแกเล่นเอาตัวสำรองมาเล่นยูโรป้า

ทำให้ต้องมาเหนื่อยนัดที่ต้องมาเยือนเกมไกลๆถึงรัสเซีย

ซึ่งผมมองว่าเกมเยือนที่นั้นควรจะเอาตัวสำรองเดินทางไป เพราะ จะได้เก็บตัวหลักไว้พักดีกว่า





แต่ถ้าจะมองอีกอย่างก็คือ ถ้าBRเอาตัวหลักลง2นัดแรก

ทีมอาจผลงานดี BRอาจได้คุมต่ออยู่ตอนนี้ก้อได้

แรงตกดูแล้วคงจริง

แต่แพ้เพราะแรงตกผมว่าไม่ใช่น่ะ

ลูกที่โดนขึ้นนำมันโดนลูกนิ่งไม่ใช่จะหวังเพาเวอร์เกม

แพ้เพราะเปลี่ยนตัวพลาดมากกว่าครับ สไตล์แกกล้าได้กล้าเสียอยู่แล้ว

เกมนั้นถ้าเบนเตเก้คมๆหน่อยคงมีแต้มติดมือ

ตามท่านบนๆเลย

เกมนี้เเรงตกจริงช่วงท้าย
เเต่หงส์ก็พลาดเองด้วย เเล้วไม่คมกันเอง ไม่งั้นคงมีเเต้ม

ตอนนี้กองหน้าที่ไว้ใจได้สุด มีแค่หริด รองมาก็อิงค์

บอกตรงๆ ไม่เคยเชื่อมั่นในเบนเทเก้เลย

ไม่คมเองเเหละครับ บทเรียนจากการเเพ้พาเลส

เรื่องล้าอะไรนี่ผมว่ามันต้องมีบ้าง

ที่สำคัญตอนนี้ มีนักเตะให้ใช้อยู่กี่คนเชียว ผมเห็นเเกมองไปที่ม้านั่งบ่อยๆนะ

เเบบ เเกคงคิดอะว่า สาสเอ้ย เเม่งมีตัวให้ใช้เเค่นี้เหรอวะ เเต่เปลี่ยนชานเอา มีโน่ลงมานี่ โคตรกล้าเลย เเต่กลางยวบทันที

เปลี่ยนหวังผลมาก เเค่มันไม่ไปตามหวัง

หลายๆอย่างที่บอสพูดออกมา..ผมเชื่อสุดลิ่มเลยว่ามันคือจิตวิทยาเพื่อ
เรียกพลังและสปิริตของทีมที่หายไปให้กลับมาเช่น.. "ผมเชื่อมั่นในทีมชุดนี้"
"ผมยังไม่ได้มองเรื่องนักเตะใหม่ในหน้าหนาว" หรือ "ล่าสุดเกมส์ยุโรปไม่ส่งผลกับนัดพาเลซ"

ทั้งหมดเค้าพูดเพื่อให้เกิดแรงบวกในทีม.. แต่ลึกๆแล้วบอสรู้แน่นอนว่ามรดกของ BR
บางคนมันไม่ไหวจิงๆ แล้วมาเจ็บปัญหาเจ็บระนาวแบบดวงแตกเข้าไปอีก กลายเป็นปัญหา
ใหญ่ที่บอสต้องแก้ไขทั้งที่เพิ่งรับงานเดือนเดียว.. ถ้าไม่พูดแบบนั้นออกไปนักเตะจะ
ไม่รู้สึกว่าตัวเองมีค่า และทำได้ดีกว่านี้ นั่นจึงเป็นเหตุให้ทุกคนวิ่งลืมตายเพื่อบอส..
แต่ปัญหามันคือ "ความจริง" ที่ปกปิดไว้ไม่ได้ อย่างที่พี่หนุ่ยบอกมานั่นแหละ นี่คือบทเรียนสำคัญ

ปล.จำนวนนัดบุนเดส กับ พรีเมียร์ไม่เท่ากันและไม่มีการพักเบรค.. ผมเชื่อว่าบอสรู้
เรื่องนี้ดี และเตรียมรับมือไว้แล้ว..แตเค้าจะทำได้ดีแค่ไหน นั่นเป็นเรื่องที่เราต้องมาดูกัน!