ทีมยอดเยี่ยม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แมตช์เดย์ สี่
อินทรีทองเขียนให้คุณอ่าน: ทีมยอดเยี่ยม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แมตช์เดย์ สี่
ไม่น่าแปลกใจเลยสำหรับ การเข้ามาติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ของ สามผู้เล่นจากทีมบาเยิร์น มิวนิค หลังจากผลงานอันสุดยอดในเกมที่เปิดบ้านถล่มอาร์เซน่อลไปแบบยับเยิน ถึง 5-1
โธมัส มุลเลอร์ ศูนย์หน้าทีมชาติเยอรมนี ติดทีมเข้ามาด้วยผลงาน ยิงไปสองประตู ในเกมกับอาร์เซน่อล ส่วนคู่ดูโอจากบาร์ซ่า อย่าง เนย์มาร์ และ หลุยส์ ซัวเรส ที่ยิงกันคนละประตู ในเกมที่เอาชนะ บาเต้ บอริซอฟไปได้ ต่างเข้ามาเป็นแนวรุกของทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังนับเป็นสัปดาห์ที่สองอีกด้วยที่ผู้เล่นจาก พรีเมียร์ ลีก ติดเข้ามาเพียงคนเดียว ซึ่งก็คือ เฟอร์นานดิญโญ่ ของทีมแมนฯ ซิตี้ ที่เล่นได้อย่างโดเด่นพาทีมเข้าสู่รอบต่อไปแน่นอนแล้วหลัง บุกไปเอาชนะ เซบีญ่า ทีมแกร่งจากไปได้
ผู้รักษาประตู: ยูริ โลดิจิน (เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบริก)
โลดิจิน ผู้รักษาประตูของ เซนิตฯ โชว์เซฟสำคัญ ถึงหกครั้ง ในเกมที่พบกับลียง พร้อมกับเก็บคลีนชีตไปได้
เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบริก ยอดทีมจากรัสเซีย เป็นทีมเดียวในแชมป์เปี้ยนส์ลีกปีนี้ที่สามารถเก็บคะแนนได้ ร้อยเปอร์เซนต์ และ ลูกทีมของ อังเดร วิลลาส-โบอาส ยังผ่านเข้าสู่รอบสิบหกทีมสุดท้ายไปแล้วอีกด้วยหลังเอาชนะ โอลิมปิค ลียง ไป 2-0 โดยยูริ โลดิจิน เสียไปเพียงแค่สี่ประตูเท่านั้น จากสี่เกมที่ลงเล่น
กองหลัง: ดาริโอ แซร์น่า (ชัคเตอร์ โดเนสต์)
ดาวเตะทีมชาติโครเอเชีย มีสถิติสัมผัสบอลในเกมถึง 114 ครั้ง มากกว่าผู้เล่นทุกคนในสนาม
จอมสังหารฟรีคิก ดาริโอ แซร์น่า แสดงฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมให้เห็นอีกครั้ง รักษาความหวังของทีมในการผ่านเข้ารอบต่อไปในกลุ่มเอ เมื่อสามารถเปิดบ้านเอาชนะในเกมที่ต้องชนะ มัลโม่ จากสวีเดน ไป สี่ประตูต่อศูนย์ อย่างไรก็ตาม ชัคเตอร์โดเนสต์ยังคงอยู่ในสถานการณ์ลำบากเมื่อยังต้องอีกสี่แต้ม จากเกมที่ต้องเจอกับ เรอัล มาดริด และปารีส แซงแชร์แมงก์ จ่าฝูงและรองจ่าฝูงของกลุ่ม
กองหลัง: ลุยเซา (เบนฟิกา)
ลุยเซาปราการหลังเบนฟิกา ทั้งยิงและจ่ายในเกมที่เจอกับ กาลาตาซาราย
ลุยเซา เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำแมตช์ที่ชนะ กาลาตาซาราย ยอดทีมจากตุรกีไป สองประตูต่อหนึ่ง โดยยอดทีมจากโปรตุเกส นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มซี ด้วยการคว้าชัยชนะได้ถึง สามจากสี่เกมในรอบแบ่งกลุ่ม
กองหลัง: ดีเอโก้ โกดิน (แอตเลติโก มาดริด)
โกดิน สามารถสกัดบอลให้กับทีมตราหมีได้ถึง 11 ครั้ง ในเกมที่พบกับ แอสตาน่า และมีผู้เล่นเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถสกัดบอลได้มากกว่าใน แมตช์เดย์ที่สี่ของ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ดิเอโก โกดิน กองหลังตัวหลักของทีม แอตเลติโก มาดริด เคยเกือบคว้าแชมป์ยุโรปร่วมกับทีมมาแล้วเมื่อปี 2014 แล้วในฤดูกาลนี้ ปราการหลังชาวอุรุกวัย ก็กลับมาโชว์ฟอร์มเยี่ยมอีกครั้ง ทีมของโกดิน เสมอกับแอสตาน่า ไปแบบไร้สกอร์ ในสัปดาห์นี้ และยังรักษาพื้นที่ในการผ่านเข้าสู่รอบสิบหกทีมต่อไป
กองหลัง: ดาวิด อลาบา (บาเยิร์น มิวนิค)
แบ๊คซ้ายชาวออสเตรียคนนี้ ทำประตูแรกในฟุตบอลยุโรปตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2013
ดาวิด อลาบา แบ๊คซ้ายของทีมเสือใต้ ที่มักได้รับบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลางเมื่อไปเล่นให้ทีมชาติ ยิงประตูสุดงามจากนอกกรอบเขตโทษในเกมที่ฟัดกับอาร์เซน่อล เป็นหนึ่งในเกมที่เจ้าตัวเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม
มิดฟิลด์: เอราน ซาฮาวี (มัคคาบี เทล-อาวีฟ)
กองกลางของมัคคาบี เทล-อาวีฟอย่าง ซาฮาวี ยิงเข้ากรอบถึงสี่จากจำนวนห้าครั้งที่ทีมทำได้ ในเกมที่เจอกับ ปอร์โต้
ทีมจากอิสราเอล เป็นบ๊วยของกลุ่มจี หลังพ่ายปอร์โต้ไป เป็นความพ่ายแพ้สี่เกมรวด แต่ เอราน ซาฮาวี ก็ยังเล่นได้ดีและยิงจุดโทษ เป็นประตูแรกของทีมใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ ในเกมที่เล่นกับยักษ์ใหญ่ของลีก โปรตุเกส
มิดฟิลด์: แฟร์นานดินโญ่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ไม่มีผู้เล่นคนไหนในทีม ที่สามารถจะผ่านบอลได้มากกว่าแฟร์นานดินโญ่อีกแล้ว ด้วยจำนวน 51 ครั้ง
ทีมเรือใบสีฟ้า จากเมืองแมนเชสเตอร์ ผ่านเข้าสู่รอบสิบหกทีมสุดท้ายได้แล้ว พร้อมกับฟอร์มในเกมรุกที่อลังการงานสร้าง ในเกมที่กดเซบีญ่า แชมป์ยูโรป้าลีก สามประตูต่อหนึ่ง โดยแฟร์นานดินโญ่ ทำประตูสำคัญด้วยการซ้ำลูกยิงของ วิลเฟรด โบนี่ จากลูกโหม่ง
มิดฟิลด์: ติอาโก้ อัลคันตารา (บาเยิร์น มิวนิค)
มิดฟิลด์เสือใต้สามารถสร้างโอกาสในการผ่านบอลให้เพื่อนได้ถึง 125 ครั้ง ในแมตช์เดย์ที่สี่ ของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
จ่าฝูงของศึกบุนเดสลีกา อย่าง บาเยิร์น มิวนิค แม้ว่าจะยังไม่ผ่านเข้าสูรอบต่อไป แต่ก็มีสถิติที่น่าสนใจคือ ทีมเสือใต้มีค่าเฉลี่ยการยิงประตูในบ้านถึงห้าลูกต่อเกม และก็สามารถทำได้อีกครั้งในเกมกับอาร์เซน่อล โดยติอาโก้ อดีตมิดฟิลด์ของบาร์เซโลน่า สามารถสร้างโอกาสสำคัญให้กับทีมได้ สี่ ครั้ง
กองหน้า: หลุยซ์ ซัวเรส (บาร์เซโลน่า)
กองหน้าจอมกัดของทีมเจ้าบุญทุ่ม พังประตูให้กับทีมได้ถึง เก้าประตูจากแปดเกมรวมทุกรายการ
ศูนย์หน้าชาวอุรุกวัยของยอดทีมแห่งกาตาลัน ผลิตผลงานหนึ่งประตู หนึ่งแอสซิสต์ให้กับ เนย์มาร์ คู่หูในแดนหน้า หลังเปิดบ้านเอาชนะ บาเต้ บอริซอฟไป 3-1 พร้อมกับโอกาสสดใสในการพาทีม ผ่านเข้าสู่รอบสิบหกทีมสุดท้ายต่อไป
กองหน้า: เนย์มาร์ (บาร์เซโลน่า)
มีเพียง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (15 ประตู) เท่านั้นที่มีสถิติยิงประตูได้มากกว่า เนย์มาร์ (12 ประตู) ถ้านับกันตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว
เนย์มาร์ เล่นได้อย่างโดดเด่นในช่วงที่สตาร์เบอร์หนึ่งของทีมอย่าง เมสซี่ ยังเจ็บอยู่ ทำไปสองประตูในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะ บาเต้ บอริซอฟ ซุปตาร์บราซิลเลี่ยน ยิงเข้ากรอบไป สี่ครั้ง และ สร้าโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้ หก ครั้ง
กองหน้า: โธมัส มุลเลอร์ (บาเยิร์น มิวนิค)
กองหน้าจอมถล่มประตูของทีมเสือใต้ สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้ถึงเจ็ดครั้ง จาก หก เกมในแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เล่นใน อัลลิอันซ์ อารีน่า
โธมัส มุลเลอร์ ศูนย์หน้าทีมชาติเยอรมัน ชอบเหลือเกินในการเจอกับอาร์เซน่อล โดยยิงไปสี่ประตูจากหกเกมที่ทั้งสองทีมพบกัน แม้ว่าเพื่อนร่วมทีมอย่าง โรเบริต เลวานดอฟสกี้ อาจจะขึ้นพาดหัวข่าวบ่อยกว่า ด้วยฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงในฤดูกาลนี้ แต่สถิติของมุลเลอร์เองก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะทำไป 20 ประตูแล้ว จากการเล่นให้สโมสรและทีมชาติเยอรมนี
เครดิต: BBCsports.com