สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 16 : ชากา ซูลู
ห่างหายไปนานกว่าหกเดือนนะครับ ในที่สุดผมก็มีเวลามานั่งเขียนนั่งอ่านและรวบรวมข้อมูลจากที่ต่างๆมาให้เพื่อนๆชาว ss ได้กลับมาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าโหดร้าย ทารุณ เหี้ยมโหด จนขึ้นชื่อได้ว่าเป็นสุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลกนะครับ
ซึ่งกลับมาคราวนี้ผมได้นำเรื่องราวของบุคคลที่เป็นราชาแห่งชนเผ่าซูลู นั่นคือ "ซากา" หัวหน้าเผ่าซูลูคนแรกในประวัติศาสตร์โลกนะครับ เนื้อหาคราวนี้อาจเยอะหน่อย ชอบหรือไม่ชอบอย่างไรก็ติชมกันได้นะครับและบทความเก่าๆก็สามารถกลับไปหาอ่านได้นะครับผมจะแปะลิ้งไว้ข้างล่าง ขอบคุณที่รับชมครับ
ชากา ซูลู
"ชากา" คือหัวหน้าเผ่าซูลูคนแรกที่มีฐานะเทียบเท่ากษัตริย์ ได้รับสมญานามว่า "นโปเลียนแห่งซูลู" ความสามารถในการทำศึกของเขานั้นเป็นที่เลืองลือและกองทัพซูลูก็ได้ชื่อว่าเป็นกองทัพที่เกรียงไกรที่สุดในประวัติศาสตร์ทางใต้ของทวีปแอฟริกา เป็นผู้รวมเผ่าต่างๆ เข้าเป็นชาติคนแรกๆ โดยใช้เพียงสองมือของเขากับหอกธรรมดาๆ และความสามารถในการวางยุทธวิธีต่างๆเท่านั้นที่ทำให้เขาไปสู่จุดสูงสุดในชีวิตได้ ไม่เฉพาะแต่ความเป็นอัจฉริยะทางสงครามเท่านั้น แต่ชาก้ายังได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่เหี้ยมโหดที่สุด โดยในการก้าวขึ้นสู่อำนาจ เขาได้ปลิดชีวิตผู้คนไปมากกว่าหนึ่งล้านคน เรื่องราวของชาก้าเป็นที่เล่าขานและเป็นอีกบทหนึ่งของประวัติศาสตร์ทวีปแอฟริกา
"ชากา" ถือกำเนิดขึ้นในปี 1787 โดยเป็นบุตรของเซนซางาโกนา หัวหน้าเผ่าอามาซูลูกับ นันดีธิดาของหัวหน้าเผ่าแลงเกนี ในเวลานั้นเผ่าอามาซูลูเป็นเพียงชนเผ่าเล็กๆ พวกเขาอาศัยอยู่ในหุบเขาอุมกุมบานี เมืองหลวงของชาวซูลูตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำอุมโฟโลซีขาว
เมื่อชาก้าถือกำเนิดได้ไม่นาน เซนซางาโกนาได้หย่ากับนันดี นางจึงตัดสินใจพาบุตรชายกลับไปอยู่กับเผ่าแลงเกนี ทว่าหัวหน้าเผ่าคนใหม่และผู้คนส่วนใหญ่ในเผ่าเกลียดชังที่นางเคยเป็นภรรยาของหัวหน้าเผ่าซูลู ซึ่งขณะนั้นเพิ่งจะมีเรื่องขัดแย้งกับชาวแลงเกนีทำให้ชาก้าและมารดาถูกข่มเหงและดูถูกสารพัดประการ
ในที่สุดนันดีจึงตัดสินใจพาชากากลับไปยังเผ่าซูลูอีกครั้ง แม้ว่าชาวซูลูจะไม่ต้อนรับพวกนางนักก็ตาม ด้วยเหตุนี้เองทำให้ตลอดชีวิตวัยเด็กของชากาจึงเต็มไปด้วยการถูกกลั่นแกล้งและดูหมิ่น แต่ชาก้าก็ถูกมารดาพร่ำสอนให้ระลึกถึงสายเลือดของผู้นำในตัวเขาเสมอ ทำให้เด็กชายมีความหยิ่งทะนงทะเยอทะยานและเก็บงำความเกลียดชังผู้คนที่กลั่นแกล้งเขาอยู่ในใจ ตราบจนกระทั่งโตขึ้น
ต่อมาชากาได้รับตำแหน่งเมนซีวา (ตำแหน่งนายพล) ของเผ่าอุมเตตวาแล้ว และเมื่อเซนซางาโกนาสิ้นชีวิตลง ชากาก็อ้างสิทธิในบัลลังก์แห่งซูลู และด้วยการสนับสนุนของดิงกิสวาโย ชากาก็ทำสงครามกับพี่น้องต่างบิดาที่ไม่ยอมรับเขา ชากาได้สังหารผู้ต่อต้านทั้งหมดและขึ้นเป็นประมุขของชาวอามาซูลู
หลังจากขึ้นเป็นประมุขของชาวซูลูแล้ว ชากาได้ทำการปรับปรุงกองทัพของพวกซูลูเสียใหม่ โดยชาก้าสร้างระเบียบแบบแผนของกองทัพขึ้น นอกจากนี้ชาก้ายังปรับลักษณะของอาวุธในการรบ ทำให้กองทัพของเขาต่อสู้ได้อย่างเก่งกาจและมีความสามารถในการต่อสู้ประชิดตัวได้สูง
นอกจากนี้ชาก้ายังได้จัดแบ่งกองทัพเป็นกรมกอง เรียกว่า อิมปี โดยใช้อายุเป็นเกณฑ์ เขาจัดให้นักรบที่มีระดับอายุเดียวกันอยู่ในกองเดียวกัน และห้ามมิให้นักรบแต่งงานจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากหัวหน้าเผ่า ชากากำหนดกฏเหล็กสำหรับนักรบโดยนักรบที่หันหลังหนีศัตรูจะได้รับโทษตายสถานเดียว การปรับปรุงกองทัพของชากา ทำให้นักรบซูลูเป็นนักรบที่ทรงประสิทธิภาพเหนือนักรบเผ่าอื่นๆ และได้ชื่อว่าเป็นนักรบที่ไม่เคยแพ้
หลังตั้งเมืองหลวงชาก้าได้ทำศึกเพื่อล้างแค้นเผ่าแลงเกนี กองทัพซูลูได้รับชัยชนะ ชากาไว้ชีวิตชาวแลงเกนีเพียงไม่กี่คนซึ่งเป็นคนที่เคยช่วยเหลือเขาเมื่อตอนเป็นเด็ก ส่วนเชลยศึกที่เหลืออีกหลายพันคนนั้น ชากาให้นักรบกวาดต้อนลงไป "ฝังทั้งเป็น" จนหมดสิ้น
ในการทำสงครามทุกครั้งชากามักจะกวาดล้างศัตรูจนถึงที่สุดและจะไม่พอใจมากหากเผ่าใดยอมจำนนโดยไม่ได้สู้รบกัน (สุดท้ายก็ต้องฆ่ากัน ตายอยู่ดี)
ในเมืองหลวงของชากาที่กวาบูลาวาโยนั้น มีพลเมืองนับหมื่น ชากาไม่มีมเหสีแต่มีนางสนมถึง 1200 คน ทว่าไม่มีโอรสหรือธิดาแม้เพียงองค์เดียว เนื่องจากกษัตริย์ชากากลัวว่า ทายาทของตนอาจจะมาโค่นล้มบัลลังก์ของตนในภายหลัง ทำให้ชากาออกคำสั่ง "สังหารบุตรทุกคน" ของตนอย่างเหี้ยมโหดตั้งแต่เกิด
ต่อมา "นันดี" มารดาชากาได้เสียชีวิตลง ซากาเศร้าโศกเสียใจมาก และในพิธีศพ ชากาได้สั่งให้ประหารคนถึง 7000 คน เพื่อเป็นการส่งดวงวิญญาณให้แก่พระมารดาของพระองค์ นอกจากนี้ยังสั่งให้พลเมืองทั้งหมดบริโภคอาหารเพียงเล็กน้อยเพื่อไว้ทุกข์ ผู้คนจำนวนมากต้องเจ็บป่วยล้มตาย จนกระทั่งอีกสามเดือนต่อมา ชากาก็สั่งยกเลิก ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นได้เพาะเชื้อแห่งความโกรธแค้นขึ้นในหมู่ราษฎรแล้ว
ประกอบในเวลาต่อมา ชาก้าส่งทัพใหญ่ไปโจมตีเผ่าซวาซีบริเวณแม่น้ำลิมโปโป สภาพอากาศที่แปลกไปพร้อมทั้งโรคภัยไข้เจ็บทำลายชีวิตทหารเป็นจำนวนมากและพ่ายแพ้ในที่สุด อำนาจของชากาเริ่มตกต่ำลงในสายตาของผู้คน
จนกระทั่งปี 1828 ดินกาอันและอัมฮลันกานาผู้เป็นน้องชายต่างมารดาของพระองค์ได้ร่วมมือกับอุมโมโปเสนาบดีคนสนิทของชากา วางแผนการลอบปลงพระชนม์กษัตริย์ และในวันที่ 22 กันยายน ปี ค.ศ.1828 ชากาก็ถูกลอบปลงพระชนม์ในตำหนักของพระองค์เอง ขณะอายุได้ 41 ปี และครองราชย์มาทั้งสิ้นสิบสองปี
เกร็ดเพิ่มเติม : ชากามีนักค้นหาแม่มดไว้คอย "ดมหากลิ่น" หาพวกแม่มดเพื่อที่จะจับมาฆ่า (สงสัยชากาจะเกลียดพวกแม่มดเพราะทำให้ประชาชนงมงายมั้งครับ) แต่ชากาไม่ไว้ใจในนักค้นหาแม่มดของเขา ดังนั้นเขาจึงลองทดสอบพวกนักคนหาแม่มดนี้ดูโดยชากาได้นำเลือดไปป้ายไว้ตามบ้านของเขาและได้บอกพวกนักค้นหาแม่มดว่า มีพวกแม่มดเอาเลือดพวกนี้มาป้ายและเขาต้องการหาแม่มดรายนี้ให้เจอ แต่.. นักค้นหาแม่มดดันไปหาคนผิดมาได้ตั้ง 300 กว่าคน!! ชากาโมโหและได้ตกตะลึงเป็นอย่างมาก (จับแพะมาโครตเยอะ 555) จึงได้ทุบตีพวกนักค้นหาแม่มดจนตาย (สมน้ำหน้า)
Credit :
http://writer.dek-d.com/wipoo/story/viewlongc.php?id=518940&chapter=8
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 15 : มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1208346
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 14 : เอ็ดเวิร์ด ทีช
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1208107
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 13 : โอดะ โนบุนากะ
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1206624
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 12 : ซาร์ อิวาน
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1206143
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 11 : กิลส์ เดอ เรยส์
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1188908
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 10 : ฟรานซิสโก ปิซาร์โร
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1184080
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 9 : วลาด ดรากูล
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1183485
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 8 : คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1183322
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 7 : ติมูร์มหาราช
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1182902
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 6 : เจงกิสข่าน
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1182420
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 5 : พระเจ้าเบซิลที่ 2
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1182304
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 4 : บูเช็กเทียน
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1182134/1
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 3 : อัตติลา เดอะ ฮั่น
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1153400
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 2 : พระเจ้าเฮโรดมหาราช
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1152716
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 1 : กษัตริย์อัสเชอร์บานิปาล
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1152578