เปิดทริปใหม่กับไซง่อนซ่อนเงี่_น เจ้าของเดียวกับเรื่องมันกลังจะยุ่ง
เมื่อประมาณ 6 เดือนที่เเล้ว
เห้ยๆๆ ตั๋วถูกว่ะ เเล้วเจ้าชายที่มีใจรักในการเสียเงิน (การท่องเที่ยว) ที่ ททท. รู้ต้องเอาไปเป็นพรีเซนเตอร์เเน่ๆ
เพราะเเกมีคิ้วไปเที่ยวทุกเดือน........ย้ำว่าทุกเดือน ก็เดินข้ามฝั่งไปที่โต๊ะของตาหนึ่งทันที เเล้วมันก็เหมือนอาฟเตอร์ช็อค
ที่สั่นมาถึงโต๊ะทำงานของผม เเละคนอื่นๆ ในออฟฟิตที่ต้องเดินไปล้อมโต๊ะของตาหนึ่งไว้
: เห้ย ตั๋วถูกว่ะ ไปไหนดี
: ถูกสุดไปไหนก็ไปนั้นเเหละพี่
ปรากฏว่าถูกสุดของตั๋วที่ไปต่างประทศคือปอยเปต เเละพวกผมจะไปทำไรที่ปอยเปตวะ
: เอาน่าขยับราคาอีกดิพี่
: โฮจิมินเป็นไง
โอเคตกลง 1200 บาทไปกลับ จองตั๋วจ่ายเงิน เราจะไป ไซง่อน ทริปของคนซ่อนเงี่_น กัน
หกเดือนผ่านไป ชายหนุ่มกลัดมันส์ ท้ง 5 คนที่คัดดีกีความเงี่_นที่เต็มกระเป๋า จากคนทั้งหมดในออฟฟิต ก็ถึงเวลาไปเที่ยวซักที
โปรเเกรม
26-27-28-29 กันยายน ในไซง่อน
26 กันยายน
-เครื่องออกจากดอนเมือง 7.45 น.
-เดินเที่ยวในไซง่อนตามถ่ายรูปงานออกเเบบของสถาปนิกคนดังของเวียดนามที่มาร์คกันไว้
-ซื้อทัวร์ 1 วันไปมุ่ยเน่
-ตลุยถนนข้าวสารเวียดนาม
27 กันยายน
-ทัวร์ 1 วันจากไซง่อนไปเมืองทะเลทรายที่ชื่อว่ามุ่ยเน่
28 กันยายน
-เดินเที่ยวในไซง่อนตามที่มาร์คกันไว้
29 กันยายน
-เดินเที่ยวในไซง่อน รอขึ้นเครื่องกลับบ่าย 3
เตรียมตัว
บอกตรงๆ ว่าเกือบจะลืมไปเเล้วว่าจองตั๋วไปเวียดนามกันไว้ ทริปนี้ฝากความหวังไว้กลับความจำ
ของทุกคนที่นั่งดูรีวิวในไซง่อนกันไว้ เเละพ็อกเก็ตบุ๊คหนังสือพาเที่ยวเวียดนามที่เเฟนผมบังคับซื้อ
เเละ google map ที่ปักถูกอย่างที่อย่างที่จะไปของทั้ง 5 คนไว้ที่นั้น ใครอยากไปไหน
ก็ไปปักกันไว้ เเล้วมามาร์ควันกันว่าจะไปโน่นมานี้วันไหน
เริ่มเรื่องเลยเเล้วกัน
26 กันยายน 2015
เมื่อครบองค์ทั้ง 5 คน ที่พกความเงี่_นมาเต็มกระเป๋าที่อยากจะเสพงานสถาปัตยกรรมของคนเวียดนามมากันครบ
ก็ตรงดิ่งไปเเลกเงินกัน เพราะเมื่อวานที่ว่างเเผนไว้จะไปเเลกเงินร้านรับเเรกที่อ่อนนุชมันดันปิด
" นึกถึงคำพูดของรุ่นน้องที่ออฟฟิตเลยว่าพวกพี่เเม่งซุ่ยวะ " เอาน่าพวกเราซุ่ยกันเเต่เช้าเลย
ทุกคนในทริปเเลก US ไปคนละ 4000 บาท เเละเเลกเงินเวียดนามไปคนละ 1000 บาท
พอเครื่องออก ก็หลับกันยาวครับ เป็น 1 ชั่วโมงครึ่งที่ไม่รู้เรื่องอะไรของผมเลย เพราะเมื่อคืนได้นอนไปชั่วโมงเดียว
เพราะ ดันมีงานนอกที่ต้องทำส่งก่อนไปเที่ยว ปั่นกันจนเช้า เเละเเล้วเราก็ถึงไซง่อนกัน
ลงเครื่องได้ก็ตรงไปซื้อซิมเพราะด้วยความซุ่ยอีกเเล้วที่จองเครื่องปล่อยอินเตอร์เน็ตที่ไทยไม่ทัน
เลยต้องมาพึ่งบริการซิมของที่นี้ ตั้งเเต่ลงเครื่องมาในหัวผมเเม่งเครียดตลอดว่าจะโดนโกงตอนไหนวะเนี้ย
เพราะที่ตามอ่านๆรีวิวมา ที่นี้ขึ้นชื่อเรื่องโกงเป็นอันดับต้นๆของเอเซีย เเต่ก็ผ่านไปได้ดีไม่มีการโกง
ทั้งตอนซื้อซิมเเละเรียกเเท็กซี่ไปโฮเทลที่จองกันไว้ ชื่อ The Common Room Project
เรื่องของเรื่องคือด้วยความเงี่_นอีกเเล้วที่ทำให้ไปอยากจองโรงเเรม เเต่อยากจองห้องพักรวมไปนอนกับฝรั่ง
พอถึงที่พักกว่าจะเช็คอินได้ต้องบ่าย 2 เเล้วเราก็เริ่มทริปอย่างจริงจังกับการฝากของเเละเดินเที่ยวกันในโฮจิมินกัน
ตอน 10 โมงกว่าๆ ที่พักเราอยู่ย่านคนจีนในไซง่อน ที่เเรกที่เราจะเดินก็คือย่านนี้เเหละ ผมเดินในย่านนี้ไปเรื่อยๆ
จนถึงย่านซ่อมรถขายอะไหล่เหมือนวรจักรบ้านเรา จนไปสะดุดกับร้านขายข้าวเเกงของที่นี้ที่เป็นเอกลักษณ์เราโดนกันไป
นั่งกินกับโต๊ะเตี้ยๆข้างถนน กับคนงานซ่อมรถย่านนี้ บอกเลยข้าวเเกงที่นี้อร่อยทุกอย่าง ราคาก็ประมาณบ้านเรา
เเละผมก็รอดการโดนโกงไปอีกครั้ง เพราะป้าเจ้าของร้านใจดีมาก ก่อนออกจากร้านเเกทำท่าทำทางให้เราเก็บของไว้กับตัวดีๆ
ผมเลยยิ้มขอบคุณกันไป เพราะที่นี้เป้นปัญหามากเราสื่อสารอังกฤษกับเขาไม่ได้เลย เพราะย่านที่เราไป มันคือวรจักรดีๆนี้เอง
หลังจากนั้นเราก็เดินไปดูบ้านที่ปักกันไว้ เเต่เอาจริงๆคือหลงครับ เดินไปเดินมาทะลุไปเรื่อยจนมาถึงย่านโรงเรียนมัธยม
เราเดินหาจนถอดใจ เเต่ก็ได้บรรยากาศของการรายล้อมจากน้องๆโรงเรียนมัธยมหญิงล้วนที่นี้กลับมาเเทน
ถอดใจหลังจากหาเท่าไรก็ไม่เจอ เราก็โบกเเท็กซี่ไปต่อที่ฟามงูเหลา ย่านข้าวสารเมืองเวียดนามเพื่อไปจองตั๋ว 1 วัน
ไปทะเลทะมุ่ยเน่ รถออก 7.30 น. ไปถึงมุ่ยเน่ 11.00 น. เที่ยวที่นั้น เเละนั่งรถกลับมาตอน 4 ทุ่ม
พอเสร็จก็เดินกันต่อไปดูงานอาคารบ้านช่องของไซง่อนที่ย่านตลาดเบทั่น ก่อนจะโบกเเท็กซี่กลับไปตายรัง ที่โฮเทล
ที่โฮเทลห้องเรามี 3 ชั้น เเยกเป็นชั้นละ 2 ห้อง ห้องละ 10 เตียง ผมเเละคนที่ออฟฟิตอยู่ชั้น 2
เเต่ไม่มีใครเลยนอกจากพวกผมที่นอนในห้องนั้น สรุปคือผิดหวังครับได้นอนกับชายกลัดมันส์หน้าเดิมๆ
เเล้ววันนี้ก็จบลงที่ซื้อเบียร์มากินที่โฮเทล นั่งเล่นไพ่คุยกับฝรั่ง (เบียร์ที่เวียดนามถูกมากตกกระป๋องละ 27 บาท) .........
27 กันยายน 2015
เราตื่นขึ้นมา รีบอาบน้ำ เเล้วเจสซี่ สาวน้อยคนดูเเลโฮเทล ที่มองครั้งเดียวก็รู้ว่าเเม่คุณคือฮิปสเตอร์ ก็เรียกเเท็กซี่
ไปฟาร์มงูเหลสให้เรา ถึงฟาร์มงูเหลาไข่ยังไม่ทันจะเเห้งเลย เราก็โดนต้อนขึ้นรถนอน ไปนอนรวมกันเบาะหลังสุด
เข้าไปประจำเตียงได้ ก็หลับกันทั้งทีครับ เพราะเมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย กว่าจะเล่นไพ่กันเสร็จ ก็ปาไปตีสามเห็นจะได้
คือตอนไปซื้อทริปเป็นเรื่องเเปลกมาก เพราะเราไปเเค่ 1 วันกับระยะทางไปกลับ 500 กว่ากี่โล คนขายทริปให้
เขาเเนะนำว่าจริงๆต้องไป 2 วัน เเต่ด้วยการที่พวกผมว่างเเผนมาไว้ตอนกลับมาเดินดูงานที่ไซง่อนต่อ เลยต้อง
ใช้เวลาเเค่ 1 วัน ในการไปมุ่ยเน่ จ่ายไปคนละ 1200 ตลอดทั้งทริป รวมรถไปกลับไซง่อนมุ่ยเน่ รวมรถจิ๊บที่จะมารอรับ
ที่ท่ารถ เเละรวมถึงราคาไกด์ที่จะขับรถพาเรานำเที่ยว
เอาตรงๆพวกผมนอนนอนกรนในรถกันดังมาก ถึงขนาดมีฝรั่งหันกลับมามอง เเต่ทำไงได้ละครับก็วงออเคสตร้า
มันครบวงกันขนาดนี้ หลับไม่รู้เรื่องจนมาถึงมุ่ยเน่ 10 โมงกว่าๆ พอลงรถก็มีคนถือไอแพด ที่เขียนชื่อไว้ว่า patty
เป็นชื่อตอนเขียนลงไปตอนซื้อทัวร์ ไว้ให้คนมาชูป้ายหา คนชูป้ายพอเห็นผู้ชาย 5 คน เลยทำหน้าผิดหวังนิดๆ
ที่ไม่ได้เจอสาวๆตามชื่อ
พอขึ้นจิ๊บได้เเวะกินข้าว เราก็ได้เห็นเเปซิฟิกจริงๆกันซักที เเอบคิดว่ามันจะมีไคจูเดินบนทะเลออกมาจริงๆรึป่าววะ
เเละก็ตามทริปครับ ไปเเฟรี่สตรีม ทะเลทรายขาว หมูบ้านประมง ทะเลทรายเเดง ตามรูปนะครับไม่ขอบรรยาย
บอกเลยว่าคุ้มมาก ตลอดทางที่นั่งจิ๊บไปเหมือนเราอยู่ในเรื่องเราสองสามคน เเต่ติดที่ ทริปนี้มีเราสี่ห้าคน
หลังจากไปตลุยมาทั้งวันเเล้วไกด์ก็มาส่งเราที่ท่ารถตอน 6 โมงเย็น เเต่ปัญหาคือเราขึ้นรถ 4 ทุ่ม
เราต้องเดินอีกเเล้ว เดินหาข้าวกิน ก็มาเจอร้านนั่งกินข้าวตามที่คิดไว้ นั่งกินข้าวต่อด้วยเบียร์ นั่งคุยกันจน 3 ทุ่มครึ่ง
เราก็เดินกลับไปที่ท่ารถ นั่งรถกันกลับไซง่อน จบครับวันนี้อย่างเหนื่อย วงออเคสตร้าประสานเสียงกันให้พวกฝรั่งในรถ
ฟังกันเช่นเคย เเละเราก็รอดการโดนโกงไปอีก 1 วัน
ดูเเล้วชอบใจยังไงรบกวนฝากโหวตเป็นกระทู้เเนะนำด้วยนะครับ
PART.....กำลังมา.....