คู่มวยแห่งศตวรรษที่แฟนมวยทั่วทั้งโลกรอคอย ระหว่างสองนักมวยที่โด่งดังที่สุดในโลก ฟลอยด์ “เดอะ มันนี่” เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ และแมนนี่ “แพ็คแมน” ปาเกียว จบลงไปแบบไม่สนุก และพ่วงด้วยปัญหามากมายตามคาด
เกมการชกที่แฟนมวยทั้งโลกรอมากว่าห้าปี ไม่ได้ตอบสนองต่อความคาดหวังอันสูงลิบลิ่วในแง่ของการชกแบบสนุกเร้าใจแก่แฟนมวยสักเท่าไหร่ ดังนั้น ผมจึงยกให้เรื่องนอกสังเวียนนี่แหละ คือไฮไลท์แห่งศตวรรษอันแท้จริง เมื่อบังเกิดมหกรรมการต่อสู้ระหว่างแฟนมวยทั้ง 2 ฝั่ง ที่ประจัญหน้าต่อกันอย่างไม่ลดละ ต่างก็งัดกลยุทธ์ ความรู้ความสามารถทั้งหมดที่มีเข้าห้ำหั่นกันอย่างถึงพริกถึงขิง
แต่ด้วย “เป้าหมาย” ที่ต่างกัน ต่อให้ประจัญหน้ากันสักเท่าไหร่ ผลแพ้ชนะมันก็ไม่ออกมาสักทีสิน่า
และแน่นอนว่าที่นี่คือแผ่นดินเอเชีย การต่อสู้ที่บังเกิด จึงดูเหมือนเทพเจ้าของชาวตากาล็อค อย่างแมนนี่ปาเกียว จะได้เปรียบยอดมวยอเมริกัน เจ้าของสมญานาม “พริตตี้ บอย” อยู่หลายช่วงตัว เนื่องจากสามารถกุมหัวใจชาวเอเชียส่วนใหญ่ไว้อย่างเหนียวแน่น ด้วยภาพลักษณ์อันดีงามที่เจ้าตัวได้ทำไว้ เคร่งศาสนา , นับถือพระเจ้า , รักที่จะบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติ และอีกหลายเรื่องราวที่คงทราบกันดี
ตรงกันข้ามกับ “เดอะ มันนี่” ฉายาที่ไม่ได้มาด้วยโชคช่วย เมื่อพฤติกรรมการแสดงออกของเขา สร้างความหมั่นไส้ให้กับผู้พบเห็นยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นการอวดร่ำอวดรวยโดยไม่ต้องมีสาเหตุ ชกเมีย ติดคุก เที่ยวเตร่ ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ปุถุชนธรรมดาผู้ที่มีสิ่งสวยงามแทรกอยู่ในใจอย่างเราๆทั่วไป ย่อมไม่มีใครนิยมชมชอบการใช้ชีวิตแบบนี้แน่ๆ
อีกทั้งสไตล์การชกที่ต่างกันสุดขั้วก็ช่วยทำให้การตัดสินใจเชียร์นักมวยสักคนง่ายขึ้นเช่นกัน การเป็นมวยบุกที่สร้างความเอนเตอร์เทนตลอดการชกของปาเกียว ย่อมสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับบรรดาผู้ชมมากกว่า สไตล์ “เพอร์เฟค ดีเฟนซ์”ของเมย์เวทเธอร์แน่นอน
นี่คือเหตุผลที่แมนนี่ ปาเกียว ครองใจชาวเอเชียอย่างแนบแน่นและยาวนาน
นานจนผ่านช่วงเวลาที่เคยโดนข้อครหาในสามไฟต์กับฮวน มานูเอล มาร์เกวซ นานจนผ่านการหลับกลางอากาศเนื่องจากโดนหมัดฟลุ๊คในไฟต์ที่ 4 กับฮวน มานูเอล มาร์เกวซ นานจนผ่านการน็อคเอาท์สวยๆยอดมวยตัวใหญ่กว่าที่ลดน้ำหนักจนแทบคลานขึ้นเวที นานจนผ่านการเปลี่ยนสไตล์มาชกบ๊อกเซอร์ ตั้งรับแล้วสวนแบบที่เมย์เวทเธอร์ถนัดในไฟต์กับ แบรนดอน ริออส
มันคือรักจริง ที่แม้จะผ่านเรื่องราวมามากมาย แต่แฟนๆแมนนี่ปาเกียวก็พร้อมจะให้อภัย พร้อมที่จะลืมและยังคงรักเขาอย่างแนบแน่นเช่นเดิม
สำหรับผลการชกที่ออกมา แน่นอนว่ามันย่อมไม่ถูกใจแฟนมวยหลายๆคนแน่นอน เมื่อฟลอยด์ เมเวทเธอร์ เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้ค่อนข้างขาดด้วยการชกสไตล์ตั้งรับและใช้หมัดเคาท์เตอร์แม่นๆ เล่นงานปาเกียวเป็นระยะๆ โดยปาเกียวเองเป็นฝ่ายเดินเข้าใส่และก็มีบ้างที่เล่นงาน “เดอะ มันนี่” จนชะงัก
“โกง” “ขึ้นมาวิ่งก็ชนะ” “ต่อยยกละสามหมัดชนะได้ไง” และสารพัดเหตุผลที่ประเคนเข้าใส่จน ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ กลายเป็นผู้ร้ายภายในสิบนาทีหลังเกมจบ ซึ่งถึงแม้ภายหลังจะมีกราฟฟิค และหลักฐานต่างๆที่หลุดออกมาสู่สายตาสาธารณะชนว่า เมย์เวทเธอร์เป็นฝ่ายชกและเข้าเป้ามากกว่าก็ตามที แต่ด้วยความรักความศรัทธาในตัวนักชกขวัญใจของพวกเขา “นั่นคือหลักฐานปลอมที่ฝั่งฟลอยด์ทำขึ้นมาครับผม พวกเขาคอนโทรลได้ทุกอย่างอยู่แล้ว”
เรื่องทัศนะ การแสดงความคิดเห็นของแต่ละบุคคล คงไม่มีใครไปเปลี่ยนใจได้ง่ายๆหรอกครับ เพียงแต่ผมเองเกิดความสงสัยนิดหน่อยว่า ไอ้ปรากฏการณ์โกงของฟลอยด์เนี่ย มันเกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยและในเอเชียรึเปล่า เพราะผมได้อ่านสื่อออนไลน์สื่อหนึ่งของไทย ที่นำเสนอคอมเม้นท์จากชาวโลก ก็มีแต่คนบอกว่าฟลอยด์โกง ฟลอยด์โกง โชคค่อนข้างดีที่ thairec ของเราเนี่ยมีคอนเนคชั่นกับสื่อมวยต่างชาติในการแลกข่าวแลกรูปกันอยู่ ผมเองจึงไปขอเพิ่มเพื่อนกับนักเขียนของเวปต่างชาติเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ซึ่งจากการสอบถาม ผมคิดว่าคอมเม้นท์ที่ว่าฟลอยด์โกงเนี่ย เขาเลือกมาโดยเฉพาะเลยแหละ เพราะฝรั่งมังค่าส่วนใหญ่ ต่างก็คิดว่านี่คือการตัดสินที่ถูกต้องแล้ว ฟลอยด์ เมเวทเธอร์สมควรเป็นผู้ชนะที่แท้จริง
“การให้คะแนนโดยคอลัมนิสต์ต่างชาติของเวปไซต์ต่างๆ”
ในอีกแง่หนึ่ง อาจจะเป็นเพราะความเอนเอียงของแฟนมวยตั้งแต่แรกเริ่มแล้วก็ได้ แฟนปาเกียวต่างก็ปักธงว่าปาเกียวต้องชนะเรียบร้อย แฟนเมย์เวทเธอร์ก็ตั้งมั่นว่าเมย์เวทเธอร์ชนะแน่นอน แต่เมื่อเกมจบ นักมวยทั้งคู่กอดคอกัน ทุกคนเข้าใจคำว่านักน้ำใจนักกีฬา แล้วแฟนมวยล่ะ เข้าใจมันหรือยัง?
Credit :
http://www.thairec.com/home/16713.html